เกาหลีเหนือออกมาประณามแผนการของสหรัฐฯ ที่เตรียมขายขีปนาวุธล็อตใหญ่ให้แก่ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ โดยชี้ว่าเป็นพฤติกรรมอันตรายที่จะกระพือความตึงเครียด และกระตุ้นให้เกิดการแข่งขันด้านอาวุธในภูมิภาค
สำนักข่าว KCNA อ้างคำแถลงจากกระทรวงกลาโหมเกาหลีเหนือซึ่งระบุว่า รัฐโสมแดงจะเพิ่มมาตรการป้องปรามเพื่อตอบสนองสถานการณ์ความไม่มั่นคงในภูมิภาคที่มีสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรเป็นตัวการ
รัฐบาลญี่ปุ่นมีแผนที่จะสั่งซื้อขีปนาวุธโทมาฮอว์ก จำนวน 400 ลูกจากสหรัฐฯ โดยเป็นส่วนหนึ่งของแผนเสริมศักยภาพด้านการทหารครั้งใหญ่ที่สุดในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แถลงเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (17 พ.ย.) ว่า กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้อนุมัติแผนการส่งออกขีปนาวุธโทมาฮอว์กแก่แดนอาทิตย์อุทัย ซึ่งจะมีมูลค่าราวๆ 2,350 ล้านดอลลาร์
เมื่อไม่นานนี้ สหรัฐฯ ยังประกาศไฟเขียวจำหน่ายขีปนาวุธไซด์วินเดอร์ (Sidewinder missiles) และขีปนาวุธ Standard Missile 6 Block I ให้แก่เกาหลีใต้ด้วย
“เราขอเตือนว่า ยิ่งสหรัฐฯ ฟันกำไรจากการขายอาวุธแบบไม่เลือกมากเท่าไหร่ พวกเขาก็จะต้องจ่ายให้วิกฤตการณ์ความมั่นคงที่เกิดขึ้นมากเท่านั้น” คำแถลงของเกาหลีเหนือ ระบุ
คำขู่นี้มีขึ้นในขณะที่เกาหลีเหนือกำลังเตรียมปล่อยดาวเทียมสอดแนมขึ้นสู่วงโคจรอีกครั้ง โดย ชิน วอน-ซิก รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ระบุเมื่อวันอาทิตย์ (19) ว่า การปล่อยดาวเทียมของโสมแดงอาจจะเกิดขึ้นภายในสัปดาห์นี้
คณะเสนาธิการทหารร่วมเกาหลีใต้ฝากคำเตือนไปยังเกาหลีเหนือให้ “ยอมรับความจริงว่าประชาคมโลกประณามกิจกรรมที่ผิดกฎหมายของพวกเขาเป็นเสียงเดียวกัน และขอให้ระงับแผนการส่งดาวเทียมสอดแนมทางทหารที่เตรียมการอยู่ในทันที”
กองทัพเกาหลีใต้ชี้ว่า การยิงดาวเทียมจะถือเป็นการกระทำยั่วยุ และละเมิดคำสั่งของคณะมนตรีความความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ห้ามไม่ให้เกาหลีเหนือใช้เทคโนโลยีขีปนาวุธทิ้งตัวในทุกรูปแบบ
เกาหลีเหนือประกาศเมื่อวันพุธที่แล้ว (15) ว่า พวกเขาประสบความสำเร็จในการทดสอบเครื่องยนต์จรวดเชื้อเพลิงแข็งแรงดันสูงรุ่นใหม่ (new-type high-thrust solid-fuel engines) สำหรับใช้ในการขับเคลื่อนขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยปานกลางกึ่งสูง (intermediate-range ballistic missile - IRBM) ซึ่งทำให้ผู้สังเกตการณ์ทั้งหลายเชื่อว่านี่อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกการทดสอบขีปนาวุธรอบใหม่
ที่มา : รอยเตอร์