รัฐบาลอิรักในวันอังคาร (26 ธ.ค.) ประณามปฏิบัติการทางอากาศของสหรัฐฯ โจมตีฐานที่มั่นทางทหารต่างๆ ของอิรักในคืนก่อนหน้านี้ ที่สังหารกำลังพลไป 1 นาย และได้รับบาดเจ็บ 18 คน เรียกมันว่าเป็น "การกระทำที่เป็นศัตรูอย่างชัดแจ้ง"
เมื่อคืนวันจันทร์ (25 ธ.ค.) สหรัฐฯ ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศแก้แค้นในอิรัก หลังจากก่อนหน้านั้นในวันเดียวกัน การโจมตีด้วยโดรนแบบทางเดียวของกลุ่มติดอาวุธที่เป็นพันธมิตรกับอิหร่าน ซึ่งเล็งเป้าเล่นงานฐานทัพสหรัฐฯ ในอิรัก ได้ทำให้กำลังพลของอเมริกาอาการสาหัส 1 ราย และได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยอีก 2 คน
ถ้อยแถลงของรัฐบาลอิรัก ระบุว่า รัฐบาลขอประณามการโจมตีของสหรัฐฯ ว่าเป็นการละเมิดอธิปไตยของอิรักที่ไม่อาจยอมรับได้ แต่ขณะเดียวกันก็เน้นย้ำว่าการโจมตีของกลุ่มติดอาวุธที่เล่นงานฐานทัพต่างๆ ที่ให้การรองรับคณะที่ปรึกษาของพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ นั้นเป็นพฤติกรรมที่เป็นศัตรูและละเมิดอธิปไตยของอิรักเช่นกัน
แหล่งข่าวด้านความมั่นคงของอิรัก 2 คน ระบุว่า ปฏิบัติการโจมตีของสหรัฐฯ เล็งเป้าโจมตีที่กองบัญชาการของกลุ่มติดอาวุธอิรัก คาตาอิบ ฮิซบอลเลาะห์ ในเมืองฮิลลา ทางใต้ของแบกแดด ขณะที่แหล่งข่าวอีกคนซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนาม เสริมว่า นักรบรายหนึ่งของ คาตาอิบ ฮิซบอลเลาะห์ เสียชีวิตในเหตุโจมตีและมีอีก 16 คนได้รับบาดเจ็บ
คาตาอิบ ฮิซบอลเลาะห์ พันธมิตรของอิหร่าน วิพากษ์วิจารณ์จุดยืนของรัฐบาลในการประณามการโจมตีของกลุ่มติดอาวุธอิรักที่เล็งเป้าเล่นงานเป้าหมายต่างๆ ของพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ "เราขอเตือนไปยังพวกที่มีจิตวิญญาณอ่อนแอ จากระดับสูงสุดสู่ระดับต่ำสุด อย่าได้ทดสอบความอดทนของเรา" อาบู อาลี อัล-อัสคารี เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงของทางกลุ่ม โพสต์ข้อความบนสื่อสังคมออนไลน์
ในการส่งสารท้าทายรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีโมฮัมเหม็ด เชีย อัล-ซูดานี ทาง อัสคารี ประกาศจะเดินหน้าโจมตีกองกำลังสหรัฐฯ ต่อไป
นายกรัฐมนตรีอิรัก มีอำนาจควบคุมอย่างจำกัดเหนือกลุ่มก๊กบางกลุ่มที่อิหร่านสนับสนุน ในขณะที่กลุ่มก๊กเหล่านี้ได้มอบแรงสนับสนุนที่จำเป็นแก่เขาในการก้าวเข้าสู่อำนาจเมื่อ 1 ปีก่อน และเวลานี้ได้จัดตั้งกลุ่มก้อนทรงอิทธิพลขึ้นมาภายในรัฐบาลของเขา อย่างไรก็ตาม กลุ่มก๊กเหล่านี้มีความเห็นไม่ตรงกันเกี่ยวกับการเล่นงานกำลังพลสหรัฐฯ
สหรัฐฯ เหลือทหารประจำการในซีเรีย 900 นาย และ 2,500 นายในอิรัก ในภารกิจที่พวกเขาบอกว่ามีเป้าหมายให้คำปรึกษาและช่วยเหลือกองกำลังท้องถิ่น ในความพยายามสกัดไม่ให้กลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) คืนชีพขึ้นมา ในขณะที่ไอเอสเคยบุกยึดพื้นที่อันกว้างขวางคร่อมชายแดนระหว่าง 2 ชาติ ก่อนประสบความพ่ายแพ้ในเวลาต่อมา
(ที่มา : รอยเตอร์)