ล็อคเป้าเล่นสหรัฐฯ!ยิงถล่มสถานทูตอเมริกาในแบกแดด ท่ามกลางตึงเครียดอิสราเอล-ฮามาส

กระสุนปืนครกราวๆ 7 ลูก ตกในเขตล้อมรั้วของสถานทูตสหรัฐฯในกรุงแบกแดด เมืองหลวงของอิรัก ระหว่างเหตุโจมตีในตอนเช้าวันศุกร์(8ธ.ค.) เจ้าหน้าที่กองทัพอเมริกาเปิดเผยกับรอยเตอร์ ในสิ่งที่ดูเหมือนว่าเป็นการโจมตีสถานทูตสหรัฐฯครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่จำความได้เมื่อไม่นานที่ผ่านมา

กำลังพลสหรัฐฯในอิรักและซีเรีย ก็ตกเป็นเป้าโจมตีด้วยจรวดและโดรนเช่นกัน อย่างน้อยๆ 5 ครั้งในวันศุกร์(8ธ.ค.) ในนั้น 3 ครั้งเกิดขึ้นในฐานทัพต่างๆแยกกันในซีเรีย และ 2 ครั้งเกิดขึ้นที่ฐานทัพอากาศ อิน อัล-อาซาด ทางตะวันตกของกรุงแบกแดด ตามการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่กลาโหมรายหนึ่งของสหรัฐฯ

การโจมตีระลอกนี้ถือเป็นการเล่นงานกองกำลังสหรัฐฯในภูมิภาคแถบนี้ ในวันเดียว มากครั้งที่สุดนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนตุลาคม ครั้งที่พวกกลุ่มติดอาวุธพันธมิตรของอิหร่าน เริ่มเล็งเป้าโจมตีกำลังพลและสินทรัพย์ของอเมริกาในอิรักและซีเรีย ตอบโต้ที่วอชิงตันให้การสนับสนุนอิสราเอล ในการทำสงครามกับพวกฮามาสในฉนวนกาซา

เหตุโจมตีครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่สถานทูตสหรัฐฯประจำกรุงแบกแดด ถูกเล่นงานในรอบกว่า 1 ปี ในขณะที่ฐานทัพต่างๆหลายสิบแห่งซึ่งถูกใช้งานโดยกองกำลังสหรัฐฯ ถูกโจมตีรอบแล้วรอบเล่า โหมกระพือความกังวลมากยิ่งขึ้นว่า ความขัดแย้งในภูมิภาคจะขยายวงกว้าง

ไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบ แต่เหตุโจมตีต่างๆนานาที่เล่นงานกำลังพลสหรัฐฯก่อนหน้านี้ ลงมือโดยพวกกลุ่มติดอาวุธพันธมิตรของอิหร่านที่ปฏิบัติการภายใต้ธงของขบวนการต่อต้านเพื่ออิสลาม (Islamic Resistance Movement) ในอิรัก

เจ้าหน้าที่กองทัพสหรัฐฯรายหนึ่ง ซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนาม เชื่อว่าอาจมีกระสุนปืนครกยิงเข้าใส่เขตรั้วของสถานทูตมากกว่านี้ แต่ที่เหลือไม่ตกลงในเขตรั้วของสถานทูต พร้อมเผยว่าไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุโจมตีในวันศุกร์(8ธ.ค.) และสถานทูตได้รับความเสียหายเล็กน้อยมาก

ชีค อาลี ดามูช เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ระบุในวันศุกร์(8ธ.ค.) ว่าการโจมตีของกลุ่มติดอาวุธทั้งหลายที่เป็นพันธมิตรกับอิหร่านทั่วตะวันออกกลาง มีเป้าหมายคือกดดันหยุดอิสราเอลจากการจู่โจมฉนวนกาซา อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้พูดถึงอย่างเจาะจงถึงเหตุโจมตีในวันศุกร์(8ธ.ค.)

กองกำลังสหรัฐฯในอิรักและซีเรีย ถูกโจมตีแล้วอย่างน้อย 84 ครั้ง นับตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม ขณะที่อเมริกาตอบโต้มันด้วยการโจมตีเป็นชุดๆ สังหารพวกนักรบในอิรักอย่างน้อย 15 รายและสูงสุด 7 รายในซีเรีย

แมตธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุในถ้อยแถลงเรียกร้องกองกำลังด้านความมั่นคงอิรัก ทำการสืบสวนในทันทีและจับกุมผู้กระทำผิด "กลุ่มติดอาวุธพันธมิตรอิหร่านมากมายที่ปฏิบัติการอย่างเสรีในอิรัก กำลังคุกคามความมั่นคงและเสถียรภาพในอิรัก บุคลากรของเราและพันธมิตรของเราในภูมิภาค"

"รัฐบาลอิรัก เน้นย้ำคำสัญญาจะปกป้องคณะผู้แทนทางการทูตเช่นเดียวกับบุคลากรทางทหารของเรา ซึ่งประจำการในประเทศแห่งนี้ตามคำเชิญของอิรัก ไม่ใช่เกิดจากการเจรจา และเรามีสิทธิ์ในการปกป้องตนเอง" มิลเลอร์ระบุ

นอกเหนือจากมีเจ้าหน้าที่ด้านการทูตในอิรักแล้ว สหรัฐฯยังมีทหารราวๆ 2,500 นายประจำการอยู่ในประเทศแห่งนี้ ในภารกิจที่พวกเขาบอกว่ามีเป้าหมายเพื่อให้คำปรึกษาและช่วยเหลือกองกำลังท้องถิ่น ในความพยายามขัดขวางไม่ให้กลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส) คืนชีพ ทั้งนี้ไอเอส บุกจู่โจมอย่างไม่คาดคิดเมื่อปี 2014 ยึดพื้นที่อันกว้างขวางคร่อมอิรักและซีเรีย ก่อนประสบความพ่ายแพ้ในท้ายที่สุด

กบฏฮูตี พันธมิตรของอิหร่าน ได้ลงมือยิงใส่อิสราเอลและเรือต่างๆในทะเลแดง ในยุทธการณ์ที่พวกเขาระบุว่ามีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ ท่ามกลางสงครามระหว่างฮามาสกับอิสราเอล อย่างไรก็ตามเรือรบของสหรัฐฯ ได้สอยร่วงจรวดของพวกเขาไปหลายลูกเช่นกัน

(ที่มา:รอยเตอร์)