สหรัฐฯ ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ 2 เที่ยวในซีเรีย เล่นงานอิหร่านและกลุ่มต่างๆ ที่เป็นพันธมิตรกับเตหะรานในวันอาทิตย์ (12 พ.ย.) จากการเปิดเผยของเพนตากอน เพื่อตอบโต้กรณีที่กำลังพลอเมริกาถูกโจมตีทั้งในซีเรียและอิรักบ่อยครั้งในระยะหลัง
ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ระบุในถ้อยแถลงว่า ปฏิบัติการโจมตีครั้งนี้เล็งเป้าหมายเล่นงานศูนย์ฝึกแห่งหนึ่งใกล้เมืองอัลบู คามาล และเซฟเฮาส์หลังหนึ่งใกล้เมืองมายาดีน พร้อมยืนยันว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน เป็นคนออกคำสั่งโจมตีดังกล่าว
"ประธานาธิบดีให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของบุคลากรสหรัฐฯ มากที่สุดเหนือสิ่งอื่นใด และเขาเป็นคนสั่งการปฏิบัติการของวันนี้ เพื่อแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่าสหรัฐฯ จะปกป้องตนเอง บุคลากรของตนเองและผลประโยชน์ของสหรัฐฯ" ออสตินระบุในถ้อยแถลง
แหล่งข่าวท้องถิ่นเปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า การโจมตีเล็งเป้าหมายเล่นงานค่ายแห่งหนึ่ง ซึ่งดูแลโดยกองกำลังติดอาวุธฝักใฝ่อิหร่าน ตั้งอยู่ในพื้นที่หนึ่งทางตะวันตกของเมืองอัลบู คามาล ในจังหวัดเดอีร์ อัล-ซอร์ ส่วนการโจมตีอีกจุดเกิดขึ้นใกล้สะพานแห่งหนึ่งติดกับเมืองมายาดีน ใกล้แนวชายแดนอิรักและเป็นแหล่งกบดานของกองกำลังติดอาวุธฝักใฝ่อิหร่าน
การโจมตีหนนี้ถือเป็นครั้งที่ 3 นับตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคม ในขณะที่สหรัฐฯ พยายามโจมตีป้องปราม ตามหลังมีเหตุโดรนโจมตีและยิงจรวดเล่นงานทหารอเมริกาทั้งในซีเรียและอิรักหลายต่อหลายครั้ง อันมีชนวนเหตุมาจากสงครามระหว่างอิสราเอลกับฮามาส
อิหร่านและฝ่ายสนับสนุน บอกว่าสหรัฐฯ ต้องร่วมรับผิดชอบต่อการที่อิสราเอลประกาศทำสงครามกับนักรบปาเลสไตน์ "ฮามาส" ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านเช่นกัน
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ทหารของสหรัฐฯ และพันธมิตรถูกกองกำลังที่อิหร่านหนุนหลัง โจมตีอย่างน้อย 40 ครั้งในอิรักและซีเรีย มีกำลังพลของอเมริกาอย่างน้อย 45 รายที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยไปจนถึงบาดเจ็บทางสมอง
สหรัฐฯ มีกำลังพล 900 นายในซีเรีย และอีกกว่า 2,500 นายในอิรัก ประเทศเพื่อนบ้าน ในภารกิจให้คำแนะนำและช่วยเหลือกองกำลังท้องถิ่นที่พยายามขัดขวางการคืนชีพกลับขึ้นมาของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ซึ่งเคยบุกยึดพื้นที่อันกว้างขวางคร่อมดินแดนของ 2 ประเทศ แต่สุดท้ายก็ประสบความพ่ายแพ้ในเวลาต่อมา
มีความกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับฮามาส อาจลุกลามบานปลายไปทั่วตะวันออกกลาง และกลายเป็นทำให้กำลังพลของสหรัฐฯ ตามฐานทัพต่างๆ ที่อยู่ห่างไกลตกเป็นเป้าหมายการโจมตี
สหรัฐฯ ส่งกองเรือรบและฝูงบินขับไล่เข้าไปยังภูมิภาคตะวันออกกลาง นับตั้งแต่ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับฮามาสปะทุขึ้นในวันที่ 7 ตุลาคม ในนั้นรวมถึงเรือบรรทุกเครื่องบิน 2 ลำ ในความพยายามป้องปรามอิหร่านและกลุ่มติดอาวุธต่างๆ ที่อิหร่านให้การสนับสนุน นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังเสริมกำลังพลเข้าไปยังภูมิภาคแห่งนี้อีกหลายพันนาย
รอยเตอร์เคยรายงานว่า กองทัพสหรัฐฯ กำลังใช้มาตรการใหม่ๆ เพื่อปกป้องกองกำลังของตนเองในตะวันออกกลาง ท่ามกลางการโจมตีที่ยกระดับหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ของกลุ่มนักรบต่างๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน และเปิดทางสำหรับความเป็นไปได้ว่าจะอพยพครอบครัวของทหารออกมาถ้าจำเป็น
มาตรการที่จะนำมาใช้รวมไปถึงเพิ่มการลาดตระเวนทางทหารของสหรัฐฯ จำกัดการเข้าถึงฐานทัพทั้งหลายและยกระดับรวบรวมข่าวกรอง ในนั้นรวมถึงดำเนินการผ่านโดรนและปฏิบัติการสอดแนมอื่นๆ
(ที่มา : รอยเตอร์)