ทหารเสริมของสหรัฐฯ อีกราว 900 นาย กำลังมุ่งหน้าหรือเดินทางถึงตะวันออกกลางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อเสริมการป้องกันทางอากาศแห่งกำลังพลของอเมริกา ท่ามกลางเหตุโจมตีเล่นงานบุคลากรและกำลังพลของสหรัฐฯ เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยฝีมือของกลุ่มต่างๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับอิหร่าน จากการเปิดเผยของกระทรวงกลาโหมอเมริกา (เพนตากอน) ในวันพฤหัสบดี (26 ต.ค.)
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้มีขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกับที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ส่งสารแบบที่ไม่ค่อยพบเห็นบ่อยนักถึง อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดของเตหะราน เตือนเตหะรานต่อการเล็งเป้าเล่นงานบุคลากรของสหรัฐฯ ในตะวันออกกลาง หลังจากเกิดเหตุโจมตีกำลังพลของสหรัฐฯ บ่อยครั้งยิ่งขึ้นในภูมิภาคแถบนี้
ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ต้องการหลีกเลี่ยง ไม่อยากเห็นความขัดแย้งในตะวันออกกลางขยายวงกว้างไปมากกว่านี้ ตามหลังเหตุโจมตีนองเลือดเล่นงานอิสราเอลของกลุ่มนักรบฮามาส เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม เข่นฆ่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 1,400 ราย ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน และจับตัวประกันไปอีกราว 200 คน
เมื่อวันพุธ (25 ต.ค.) ไบเดน เอ่ยปากเตือน อยาตอลเลาะห์ ว่าสหรัฐฯ จะตอบโต้หากว่ากองกำลังของอเมริกายังคงตกเป็นเป้าหมายเล่นงาน "ผมขอเตือนถึงอยาตอลเลาะห์ ว่าหากพวกเขายังเคลื่อนไหวเล่นงานทหารเหล่านี้ เราจะตอบโต้ และเขาควรเตรียมตัวไว้ เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวอะไรกับอิสราเอล"
อิสราเอลประกาศกำจัดฮามาส ซึ่งปกครองฉนวนกาซา แก้แค้นเหตุโจมตีเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม โดยนับตั้งแต่นั้นอิสราเอลเปิดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มฉนวนกาซาไม่หยุด รวมถึงกำหนดมาตรการปิดล้อมและกำลังเตรียมการยกพลบุกทางภาคพื้น
เจ้าหน้าที่ปาเลสไตน์ระบุว่า มีประชาชนเสียชีวิตแล้วมากกว่า 7,000 ราย แต่ ไบเดน ส่งเสียงแสดงความเคลือบแคลงสงสัยต่อตัวเลขดังกล่าว
ในวันพฤหัสบดี (26 ต.ค.) ฮอสเซน อามีร์อับดอลลาเฮียน รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่าน กล่าวที่สหประชาชาติ ว่า ถ้าการแก้แค้นพวกนักรบปาเลสไตน์ "ฮามาส" ของอิสราเอลในฉนวนกาซาไม่จบลง เมื่อนั้นสหรัฐฯ เองก็จะไม่รอดพ้นจากเปลวไฟนี้เช่นกัน
ทั้งนี้ สหรัฐฯ กล่าวหาอิหร่านจัดหาอาวุธและเงินทุนป้อนแก่กลุ่มนักรบต่างๆ ในนั้นรวมถึงฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน กลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา กบฏฮูตีในเยมน และกลุ่มติดอาวุธชีอะห์ในอิรัก
ท่ามกลางความตึงเครียดที่พุ่งสูงเกี่ยวกับสงครามระหว่างอิสราเอลกับฮามาส มีรายงานทหารสหรัฐฯ และพันธมิตรถูกโจมตีแล้วอย่างน้อย 12 ครั้งในอิรัก และ 4 ครั้งในซีเรีย ในสัปดาห์ที่แล้ว จากการเปิดเผยของโฆษกเพนตากอน รวมแล้วมีกำลังพลของอเมริกาได้รับบาดเจ็บ 21 นาย
ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ เพิ่งส่งกองเรือรบและเครื่องบินขับไล่เข้าสู่ภูมิภาคตะวันออกกลาง นับตั้งแต่ความขัดแย้งปะทุขึ้นเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ในนั้นรวมถึงเรือบรรทุกเครื่องบิน 2 ลำ ในความพยายามป้องปรามอิหร่านและกลุ่มต่างๆ ที่อิหร่านให้การสนับสนุน นอกจากนี้ ยังได้มีการเสริมกำลังทหารเข้าไปในภูมิภาคแห่งนี้อีกหลายพันนาย
โฆษกเพนตากอนบอกว่ากองกำลังสหรัฐฯ ตกเป็นเป้าหมายเล่นงานอีกครั้งในอิรัก ก่อนหน้านี้ในวันพฤหัสบดี (26 ต.ค.) แต่การโจมตีดังกล่าวล้มเหลว
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ว่า กองทัพสหรัฐฯ กำลังใช้มาตรการใหม่ๆ ในการปกป้องกองกำลังของพวกเขาในตะวันออกกลาง ท่ามกลางเหตุโจมตีที่บ่อยครั้งขึ้นเรื่อยๆ จากฝีมือของพวกคนร้ายที่ต้องสงสัยว่าเป็นสมาชิกกลุ่มต่างๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน และเปิดทางสำหรับความเป็นไปได้ของการอพยพครอบครัวของเหล่ากำลังพลออกมาถ้ามีความจำเป็น
ในมาตรการเหล่านั้นยังรวมไปถึงเพิ่มการลาดตระเวนของกองทัพสหรัฐฯ จำกัดการเข้าถึงที่ตั้งของฐานทัพและยกระดับการรวบรวมข่าวกรอง ในนั้นรวมถึงดำเนินการผ่านโดรนและปฏิบัติการสอดแนมอื่นๆ
นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังยกระดับการเฝ้าระวังจากหอตรวจการณ์ตามที่ตั้งทางทหารต่างๆ เพิ่มการรักษาความปลอดภัยตามจุดเข้าฐานทัพทั้งหลาย และยกระดับปฏิบัติการต่างๆ ในการตอบโต้โดรน จรวด และขีปนาวุธ ที่อาจพุ่งเข้ามา
การประจำการทหารสหรัฐฯ ล่าสุดนี้ มีความเกี่ยวข้องกับแผนของสหรัฐฯ ที่จะประจำการระบบยิงสกัดขีปนาวุธของฝ่ายศัตรูในบริเวณพิกัดตำแหน่งสูง (THAAD) และกองพันขีปนาวุธแพทริออต
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บริเวณนอกชายฝั่งเยเมน เรือรบสหรัฐฯ ลำหนึ่งยิงร่วงโดรนหลายสิบลำและขีปนาวุธร่อน 4 ลูก ที่ยิงออกมาจากพวกกบฏฮูตีที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน
(ที่มา : รอยเตอร์)