สหรัฐฯ จะส่งระบบป้องกันขีปนาวุธ THAAD และระบบขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศแพทริออต (Patriot) ไปตะวันออกกลางเพิ่มเติม จากการเปิดเผยของกระทรวงกลาโหม (เพนตากอน) เมื่อวันเสาร์ (21 ต.ค.) โดยอ้างว่าเป็นความเคลื่อนไหวตอบสนองต่อเหตุโจมตีใส่ทหารอเมริกาในภูมิภาคเมื่อไม่นานที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ อเมริกาเพิ่งส่งแสนยานุภาพทางทะเลจำนวนมากเข้าไปตะวันออกกลางในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ในนั้นรวมถึงเรือบรรทุกเครื่องบิน 2 ลำ กองเรือสนับสนุนของเรือบรรทุกเครื่องบินทั้ง 2 และนาวิกโยธินราว 2,000 นาย
ความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้มีขึ้นในขณะที่วอชิงตันอยู่ในภาวะตื่นตัวขึ้นสูงต่อความเคลื่อนไหวต่างๆ ของกลุ่มติดอาวุธทั้งหลายที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ท่ามกลามความตึงเครียดในร้อนระอุขึ้นเรื่อยๆ ในภูมิภาค สืบเนื่องจากสงครามระหว่างอิสราเอลกับฮามาส
"ตามหลังหารืออย่างละเอียดกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน เกี่ยวกับความตึงเครียดที่ลุกลามบายปลายเมื่อเร็วๆ นี้ ที่เกิดจากอิหร่านและกองกำลังตัวแทนของอิหร่านทั่วตะวันออกกลาง วันนี้ผมสั่งการดำเนินการต่างๆ เพิ่มเติมเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งแก่สถานะของกระทรวงกลาโหมในตะวันออกกลาง" ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ระบุในถ้อยแถลง
ออสตินระบุว่า เขากำลังจัดวางกำลังทหารเพิ่มเติม ในคำสั่งเตรียมพร้อมประจำการ แต่ไม่ได้เปิดเผยว่าในจำนวนมากน้อยแค่ไหน หลังจากก่อนหน้าหน้านี้ เพนตากอนได้สั่งให้ทหารอีกราว 2,000 นาย อยู่ในสถานะเตรียมพร้อมขั้นสูงสุด ในกรณีที่พวกเขาอาจจำเป็นต้องถูกส่งเข้าประจำการในภูมิภาค
"การดำเนินการต่างๆ เหล่านี้จะส่งเสริมความพยายามด้านการป้องปรามระดับภูมิภาค รวมทั้งช่วยเพิ่มขุมกำลังด้านการป้องกันสำหรับกองกำลังสหรัฐฯ ในตะวันออกกลาง และช่วยเหลือด้านการป้องกันให้อิสราเอล" ออสตินกล่าวเสริม
การระดมกำลังไปตะวันออกกลางครั้งนี้ มีขึ้น 2 ปีหลังคณะรัฐบาลของประธานาธิบดีไบเดน ถอนระบบป้องกันภัยทางอากาศออกจากตะวันออกกลาง โดยอ้างในเวลานั้นว่า เพื่อลดความตึงเครียดกับอิหร่าน
ขีปนาวุธแพทริออต ถูกพิจารณาว่าเป็นหนึ่งในระบบป้องกันภัยทางอากาศที่ล้ำสมัยที่สุดของสหรัฐฯ แต่มักขาดตลาดเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากพันธมิตรของอเมริกาทั่วโลกต่างแย่งชิงเพื่อให้ได้ไปครอบครอง
ส่วนระบบ THAAD มีเรดาร์ทรงแสนยานุภาพ และสหรัฐฯ ได้ประจำการระบบนี้ในเกาหลีใต้เมื่อปี 2016 ซึ่งสร้างความเดือดดาลแก่จีน ที่เชื่อว่ามันอาจจ้องเข้าไปในน่านฟ้าของพวกเขา
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้มีขึ้นท่ามกลางเหตุโจมตีใส่กองกำลังสหรัฐฯ ในอิรักและซีเรียมากขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับนักรบฮามาสในฮนวนกาซาปะทุขึ้น โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เรือรบลำหนึ่งของสหรัฐฯ สอยร่วงโดรนมากกว่า 10 ลำ และจรวดร่อนอีก 4 ลูก ที่ยิงออกมาจากพวกนักรบฮูตีในเยเมน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน
อิสราเอล เริ่มปฏิบัติการปิดล้อมฉนวนกาซาโดยสิ้้นเชิง ตามหลังเหตุนักรบฮามาสเปิดฉากโจมตีใส่ทางภาคใต้ของอิสราเอลแบบที่ไม่มีใครคาดคิดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม สังหารผู้คนไป 1,400 ราย ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน ในเหตุอาละวาดที่สร้างความบอบช้ำอย่างแสนสาหัสแก่อิสราเอล
กระทรวงสาธารณสุขของปาเลสไตน์ เปิดเผยในวันเสาร์ (21 ต.ค.) ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศและยิงขีปนาวุธโจมตีแก้แค้นของอิสราเอล ได้คร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์ไปแล้วอย่างน้อย 4,385 คน ในนั้นเป็นเด็กหลายร้อยคน และพลเรือนอีกมากกว่า 1 ล้านคน จากทั้งหมด 2.3 ล้านคนในฉนวนกาซา ต้องไร้ถิ่นฐาน
(ที่มา : รอยเตอร์)