สหรัฐฯ เตือนพลเมืองงดเดินทางไป ‘อิรัก’ หลังบุคลากร-ทหารมะกันตกเป็นเป้าโจมตีจากพิษสงคราม ‘ยิว-ฮามาส’

กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกคำเตือนพลเมืองงดเดินทางไปอิรัก หลังทหารและเจ้าหน้าที่อเมริกันในภูมิภาคตกเป็นเป้าหมายโจมตีบ่อยขึ้นจากผลกระทบของสงครามอิสราเอล-ฮามาส

คำแนะนำการเดินทางที่ประกาศเมื่อวานนี้ (22 ต.ค.) ระบุให้พลเมืองสหรัฐฯ “งดเดินทางไปอิรัก สืบเนื่องจากความเสี่ยงในการเผชิญเหตุก่อการร้าย การลักพาตัว ความขัดแย้งทางอาวุธ สถานการณ์ความไม่สงบ รวมถึงศักยภาพอันจำกัดของคณะทูตในอิรักที่จะให้การสนับสนุนช่วยเหลือพลเมืองอเมริกัน”

กองกำลังสหรัฐฯ ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ในอิรักและซีเรียตกเป็นเป้าหมายการโจมตีหนักขึ้นนับตั้งแต่การสู้รบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มติดอาวุธฮามาสในฉนวนกาซาเริ่มปะทุขึ้นเมื่อวันที่ 7 ต.ค. โดยสัปดาห์ที่แล้วเรือรบสหรัฐฯ ลำหนึ่งได้ยิงทำลายโดรนมากกว่า 12 ลำ และขีปนาวุธร่อนอีก 4 ลูกซึ่งถูกยิงมาจากพวกกบฏฮูตีในเยเมนที่มีอิหร่านหนุนหลังอยู่

ก่อนหน้านี้ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้สั่งอพยพสมาชิกในครอบครัวและเจ้าหน้าที่ซึ่งไม่ติดภารกิจเร่งด่วนออกจากสถานทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงแบกแดด และสถานกงสุลสหรัฐฯ ที่เมืองเออร์บิล “เนื่องจากระดับภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นต่อเจ้าหน้าที่ และผลประโยชน์ของสหรัฐฯ”

ทางกระทรวงยังอ้างถึงกลุ่มติดอาวุธต่อต้านอเมริกา “ที่มีการข่มขู่พลเมืองสหรัฐฯ และบริษัทข้ามชาติ” ทั่วอิรัก ขณะที่ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ และลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุเมื่อวันอาทิตย์ (22) ว่า พวกเขาเล็งเห็นแนวโน้มที่ทหารอเมริกันในตะวันออกกลางจะตกเป็นเป้าหมายโจมตีมากยิ่งขึ้น และคาดว่าอิหร่านจะพยายามกระพือไฟสงครามอิสราเอล-ฮามาสให้ลุกลามขยายวงกว้างออกไปอีก

สหรัฐฯ ได้ยกระดับเฝ้าระวังกิจกรรมของกลุ่มติดอาวุธที่มีอิหร่านสนับสนุน หลังจากความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลางเริ่มทวีความรุนแรงจากสงครามอิสราเอล-ฮามาส ซึ่งเริ่มมาจากการที่พวกฮามาสบุกจู่โจมภาคใต้อิสราเอลเมื่อเช้าวันที่ 7 ต.ค. และสังหารพลเมืองอิสราเอลไปกว่า 1,400 คน

อิสราเอลแก้แค้นด้วยการยิงโจมตีทางอากาศอย่างหนักหน่วงใส่ฉนวนกาซา ผืนแผ่นดินแคบๆ ซึ่งมีความยาวเพียง 45 กิโลเมตร และเป็นที่อยู่อาศัยของพลเรือนปาเลสไตน์ราว 2.3 ล้านคน โดยข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ปาเลสไตน์ระบุว่า มีผู้คนถูกสังหารจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลไปแล้วมากกว่า 4,700 คน

กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยังมีคำสั่งให้บุคลากรของสหรัฐฯ ในเมืองหลวงอิรัก “งดใช้สนามบินนานาชาติกรุงแบกแดดเพื่อความปลอดภัย”

สหรัฐฯ ได้ส่งกองเรือรบเข้าไปประจำการในภูมิภาคตะวันออกกลางเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงเรือบรรทุกเครื่องบิน 2 ลำ หมู่เรือสนับสนุน และนาวิกโยธินอีกประมาณ 2,000 นาย

กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ประกาศเมื่อวันเสาร์ (21) ว่าอเมริกายังเตรียมที่จะส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศในบรรยากาศชั้นสูง (Terminal High Altitude Area Defense - THAAD) และระบบขีปนาวุธแพทริออต เข้าไปเสริมภูมิภาคตะวันออกกลางด้วย

ที่มา : รอยเตอร์