(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.atimes.com)
Zelensky is at war – with his generals
By STEPHEN BRYEN
07/11/2023
พล อ.วาเลรี ซาลูจนี ทำให้ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี โกรธกริ้ว เมื่อเขาบอกว่าสถานการณ์สงครามยูเครนเวลานี้อยู่ในภาวะชะงักงัน เหมือนกับสมัยสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง แต่อันที่จริงแล้วผู้บัญชาการทหารสูงสุดของยูเครนผู้นี้ก็ยังคงให้ภาพเปรียบเทียบนี้เพียงแค่ครึ่งเดียว อีกครึ่งหนึ่งที่เหลือก็คือว่าในที่สุดแล้วสภาพนิ่งๆ ดังกล่าวก็มีการเปลี่ยนแปลงไป โดยเยอรมนีกลายเป็นฝ่ายแพ้ในมหาสงครามคราวนั้น สืบเนื่องจากขาดแคลนยุทธสัมภาระ และบทบาทของเยอรมนีนี่แหละที่ยูเครนกำลังแสดงอยู่ในตอนนี้
โวโลดีมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดีของยูเครน เวลานี้กำลังทำสงคราม – กับพวกนายพลของเขาเอง เขาเพิ่งตักเตือนผู้บัญชาการทหารสูงสุดของยูเครน พล อ.วาเลรี ซาลูจนี (Valery Zaluzhny) ผู้ซึ่งได้บอกกับนิตยสาร ดิ อีโคโนมิสต์ [1] เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า “เหมือนๆ กับในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง เราได้มาถึงระดับของเทคโนโลยีที่ทำให้เราตกอยู่ในภาวะชะงักงัน มีความเป็นไปได้มากที่สุดว่ามันจะไม่มีการเจาะทะลุทะลวงอะไรได้อย่างลึกๆ และอย่างสวยงามใดๆ”
แม้กระทั่ง นิวยอร์กไทมส์ ซึ่งกลายเป็นกระบอกเสียงของคณะบริหารสหรัฐฯ ในเรื่องยูเครนไปแล้ว ก็เพิ่งเขียนเรื่องเกี่ยวกับการปะทะกันระหว่างเซเลนสกีกับพวกนายพลของเขา [2]
เซเลนสกีนั้นยืนกรานเรื่อยมาว่ายูเครนจะชนะสงครามที่ทำกับรัสเซีย และขับไล่พวกรัสเซียให้ออกไปจากประเทศของเขา แต่การรุกครั้งมโหฬารของเคียฟ ซึ่งส่วนใหญ่รวมศูนย์อยู่ในพื้นที่ของแคว้นซาโปริซเซีย ได้ประสบความล้มเหลว โดยที่ฝ่ายยูเครนประสบความสูญเสียอย่างหนัก ศึกชิงเมืองบัคมุต (Bakhmut) ที่เปิดขึ้นมาใหม่ตามความต้องการของเซเลนสกี ถึงแม้ถูกคัดค้านจากเหล่านายพลของเขา ก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จเช่นกัน โดยต้องสูญเสียชีวิตกำลังพลและอาวุธยุทโธปกรณ์ไปเป็นจำนวนมาก
เวลาเดียวกัน เซเลนสกียืนยันให้ป้องกันอัฟดิอิฟกา (Avdiivka) เมืองขนาดเล็กๆ ที่ถูกแผ่คลุมครอบงำโดยโรงงานผลิตถ่านโค้ก (coke) แห่งใหญ่มหึมา (ถ่านโค้กคือถ่านหินที่มีความบริสุทธิ์ระดับซึ่งสามารถใช้เป็นเชื้อเพลิงให้ความร้อนสูงในเตาหลอมของอุตสาหกรรมผลิตเหล็กกล้า) เวลานี้ฝ่ายยูเครนกำลังสูญเสียพื้นที่ภายในและรอบๆ เมืองนี้มากขึ้นเรื่อยๆ โดยที่ฝ่ายยูเครนจำเป็นต้องโยกย้าย 1 ในกองทหารระดับกองพลน้อยที่ดีที่สุดของตน ซึ่งก็คือ กองพลน้อยยานยนต์ที่ 54 (54th Mechanized Brigade) ไปยังเมืองคูเปียนสก์ (Kupyansk) แล้วให้กองพลน้อยรักษาดินแดน (territorial brigade) หน่วยหนึ่ง ที่มีศักยภาพและผ่านการฝึกมาน้อยกว่ากันมาก เป็นผู้รับช่วงภารกิจในการรักษาอัฟดิอิฟกา
คูเปียนสก์ เป็นชุมทางรถไฟทางยุทธศาสตร์ที่มีความสำคัญยิ่งยวดแห่งหนึ่ง หากสูญเสียเมืองนี้จะเป็นเหตุให้ยูเครนประสบความลำบากอย่างใหญ่หลวงในการเคลื่อนย้ายสัมภาระทั้งหลายไปส่งให้แก่กองกำลังของตนที่อยู่รอบๆ เมืองคาร์คิฟ (Kharkiv) เมืองใหญ่อันดับสองของประเทศ เรื่องนี้บ่งชี้ให้เห็นว่าอาจจะเกิดศึกใหญ่ขึ้นมาในเร็วๆ นี้โดยโฟกัสอยู่ที่คาร์คิฟ
ภาพลักษณ์ของสงครามในยูเครนเวลานี้ ซึ่ง ซาลูจนี วาดออกมาให้เห็นว่าเหมือนๆ กับสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง โดยที่เขาโฟกัสอยู่ที่ภาวะชะงักงันซึ่งทั้งสองฝ่ายต่างขุดหลุมลึกฝังตัวแน่นหนาอยู่ในแนวคูสนามเพลาะ และสาดกระสุนปืนครกปืนใหญ่ตลอดจนลูกจรวดเข้าใส่กันอย่างไม่มียั้งมือ อันที่จริงแล้วมันเป็นเพียงครึ่งเดียวของภาพสิ่งที่เกิดขึ้นในสงครามครั้งนั้นเท่านั้น อีกครึ่งหนึ่งของเรื่องดังกล่าวก็คือในที่สุดแล้วเยอรมนีก็พ่ายแพ้ในมหาสงครามคราวนั้นเนื่องจากไม่สามารถที่จะประคองตัวสู้รบต่อไปได้ เพราะขาดแคลนยุทธสัมภาระต่างๆ และแม้กระทั่งอาหารสำหรับเลี้ยงทหารของตน แล้วในทันทีที่สหรัฐฯ ประกาศเข้าร่วมกับฝ่ายสัมพันธมิตร ดุลแห่งอำนาจก็เอียงมาทางฝ่ายนี้อย่างชัดเจน
ปัญหาของเซเลนสกีอยู่ตรงที่ว่า ด้วยการโฆษณาป่าวร้องว่าสงครามกำลังเกิดภาวะชะงักงัน เขาจะไม่สามารถเรียกระดมต่างประเทศมาให้ความสนับสนุนยูเครนได้ คำพูดของ ซาลูจนี ซึ่งอันที่จริงยังครอบคลุมไปถึงข้อเรียกร้องที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงเกี่ยวกับอาวุธและเทคโนโลยี –บางส่วนของอาวุธและเทคโนโลยีที่เขาเรียกร้องต้องการนั้นเป็นสิ่งที่ยังไม่มีอยู่จริงในตอนนี้ – ก็สร้างปัญหาให้แก่เซเลนสกีเช่นกัน แน่นอนทีเดียว ประธานาธิบดียูเครนผู้นี้ย่อมต้องการได้ยุทธสัมภาระต่างๆ และเครื่องบินเพิ่มมากขึ้น หากแต่เขายังคงหยิบยกเหตุผลเดิมๆ ขึ้นมาโต้แย้งว่า ถ้าได้ข้าวของสัมภาระเหล่านี้แล้ว ยูเครนก็จะสามารถขับไล่รัสเซียให้ออกไปจากยูเครนได้
เรื่องแสนยานุภาพทางอากาศ สามารถที่จะใช้เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับการทำความเข้าใจ ยูเครนเรียกร้องต้องการได้เครื่องบินขับไล่ เอฟ-16 จำนวนระหว่าง 100 ถึง 150 ลำ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ยูเครนไม่ได้มีสถานที่สำหรับเก็บรักษาเครื่องบินมากมายเช่นนี้ รวมทั้งแทบไม่มีนักบินมีคุณภาพที่จะบินพวกมันได้ถ้าเกิดได้มาจริงๆ มีรายงานว่าได้มีการจัดส่งเอฟ-16 ที่ถอดแยกชิ้นส่วนจำนวน 2 ลำ [3] ส่งทางรถบรรทุกเข้ายูเครนเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เวลานี้จึงมีเอฟ-16 รวม 5 ลำแล้วในยูเครน แต่จะต้องนำมาประกอบให้เป็นเครื่องบินสมบูรณ์แบบขึ้นมาใหม่เสียก่อน
อย่างไรก็ดี เอฟ-16 ราวๆ 20 ลำที่กำลังจะทยอยจัดส่งมาให้แก่ยูเครนในเร็ววันนี้ ไม่น่าที่จะสร้างความแตกต่างขึ้นมาได้ เริ่มต้นทีเดียวเครื่องบินเหล่านี้เป็นโมเดลรุ่นเก่าๆ ของเอฟ-16 ซึ่งการบำรุงรักษาไม่ใช่ภารกิจที่ทำได้ง่ายๆ แถมยังไม่สามารถแข่งขันกับเครื่องบินรัสเซียรุ่นท็อปออฟเดอะไลน์ได้เลย ที่เลวร้ายยิ่งกว่านั้นอีกก็คือ หากนำไปใช้ในการรุกใดๆ ก็ตาม จำเป็นจะต้องทำให้เอฟ-16 ได้รับโอนมาเหล่านี้ สามารถปฏิบัติการได้ ภายในสภาพแวดล้อมทางสมรภูมิที่ระบบป้องกันภัยทางอากาศของฝ่ายรัสเซียมีความหนาแน่นแข็งแกร่งมาก
ระยะหลังๆ มานี้ รัสเซียยังได้เสริมกำลังให้แก่พวกหน่วยทางยุทธวิธีที่นำออกประจำการแล้วของตน ด้วยระบบป้องกันภัยทางอากาศเคลื่อนที่ได้แบบใหม่ๆ ดังนั้น ลู่ทางโอกาสที่พวกเอฟ-16 รุ่นเก่าๆ จากยุโรปจะสามารถแข่งขันด้วยอย่างประสบความสำเร็จนั้น จึงไม่ดีเอาเสียเลย (ข้อสังเกต: สหรัฐฯ ต้องใช้ความระมัดระวังให้มากเกี่ยวกับการใช้พวกนักบินรับจ้าง หรือใช้ชาวยุโรปที่มีการอำพรางแปลงตัวเพียงเล็กน้อยมาเป็นคนบินไอพ่นเหล่านี้ในยูเครน กลอุบายเช่นนี้สามารถที่จะก่อผลเสียหายสะท้อนกลับ)
เซเลนสกี ยังกำลังพยายามอยู่เช่นกันเพื่อให้ทางรัฐสภาสหรัฐฯ ยอมอนุมัติงบประมาณสนับสนุนเพิ่มอีกเป็นหมื่นๆ ล้านดอลลาร์แก่ยูเครน โดยรวมถึงเงินสำหรับจ่ายเงินเดือนให้พวกข้าราชการเจ้าหน้าที่รัฐบาล และทหารในกองทัพ ตลอดจนเงินบำนาญด้วย เฉพาะรายจ่ายเหล่านี้เท่านั้นก็ตกปีละ 16,300 ล้านดอลลาร์ คำของบประมาณสำหรับสนับสนุนยูเครนมียอดรวมก้อนเบ้อเริ่มอยู่ที่ 61,400 ล้านดอลลาร์ ซึ่งในจำนวนนี้กว่า 45,000 ล้านดอลลาร์จะเป็นค่าใช้จ่ายด้านยุทธสัมภาระต่างๆ ยอดเงินรวมใหญ่โตเช่นนี้สามารถใช้ซื้อเรือบรรทุกเครื่องบินได้ 5 ถึง 6 ลำทีเดียว แต่ยูเครนจะใช้เงินขนาดนี้ตามที่กำหนดกันไว้ก็คือภายในระยะเวลา 1 ปี (โดยมีความเป็นไปได้มากๆ ที่จะต้องมีการร้องขอเพิ่มเติมอีกในช่วงต่อๆ ไปของปี) ขณะที่พวกเรือบรรทุกเครื่องบินสามารถอยู่กับกองนาวีได้เป็นเวลา 50 ปีทีเดียว [4]
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ มีไอเดียสุดบรรเจิดโดยนำเอาความช่วยเหลือที่จะให้แก่อิสราเอลสำหรับการทำสงครามปราบปรามพวกฮามาส ซึ่งเป็นรายการที่ได้รับความสนับสนุนกันอย่างกว้างขวาง มาบวกเข้ากับรายการให้ความช่วยเหลือแก่ยูเครน ซึ่งเป็นที่นิยมชมชื่นน้อยกว่า อีกทั้งการทำเช่นนี้ยังมีข้อดีในเรื่องที่ไม่น่าจะจุดประกายให้ทางรัฐสภาดำเนินการตรวจสอบลงรายละเอียดอย่างมโหฬารใดๆ ขึ้นมา เซเลนสกีมองเห็นเรื่องนี้ว่าเป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่สำหรับเขาในการเดินทางไปเยือนอิสราเอล “เพื่อแสดงความสมานฉันท์” และทำให้ทุกๆ ฝ่ายเข้าอกเข้าใจว่าอิสราเอลกับยูเครนนั้นเป็นสองประเด็นที่ต่อเนื่องเชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิดแนบแน่น ทั้งนี้ เซเลนสกีนั้นมีความปรารถนาเหลือเกินที่จะได้ถ่ายรูปร่วมกับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู รวมทั้งกับประธานาธิบดีไอแซค เฮอร์ซอก ของอิสราเอล
เซเลนสกีคิดคำนวณว่า อิสราเอลคงจะลืมเรื่องที่เขาเคยวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงต่อเนทันยาฮู และอิสราเอลไปแล้ว ทั้งนี้ เมื่อปีที่ผ่านมา เซเลนสกีเคยกล่าวว่า อิสราเอลคือผู้ที่ควรถูกประณามสำหรับการที่รัสเซียกับอิหร่านจับกลุ่มเป็นพันธมิตรกันขึ้นมา [5] เขายังเรียกร้องต้องการอาวุธจากอิสราเอล โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบป้องกันภัยทางอากาศ ไอออน โดม (Iron Dome) [6]
แต่อิสราเอลนั้นคัดค้านการถ่ายโอนเทคโนโลยีระดับท็อปของตนไปให้แก่ยูเครน เนื่องจากกลัวเกรงว่ามันจะเกิดการรั่วไหลและตกไปอยู่ในมือของรัสเซีย อิสราเอลยังไม่ต้องการสร้างความยุ่งยากเพิ่มมากขึ้นให้แก่ความสัมพันธ์ที่มีอยู่กับรัสเซีย และสูญเสียแต้มเด็ดใดๆ ที่อาจงัดขึ้นมาใช้ได้ในเวลาดีลกับฝ่ายรัสเซีย
ดูเหมือนว่าการเดินทางไปเยือนของเซเลนสกี ซึ่งบางทีอาจจะเป็นการเดินเครื่องขับดันโดยกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ และทำเนียบขาว ไม่ได้รับไฟเขียวจากฝ่ายอิสราเอล วอชิงตันนั้นก็เป็นอย่างที่มีความโน้มเอียงเช่นนี้เรื่อยมา คิดไปว่าถ้าหากตนพูดว่า “กระโดด” คำตอบที่ควรได้รับเสมอ ก็คือ จะให้กระโดด “สูงแค่ไหน?” แต่นี่ เนทันยาฮู กลับบอกว่ามันยังไม่ใช่เวลาสำหรับการมาเยือน
วอชิงตันยังคงใช้ความพยายามใหม่ และถึงกับบีบคั้นรัฐบาลอิสราเอลด้วย ทว่าเวลานี้แผนการไปเยือนนี้ดูเหมือนถูกโยนทิ้งไปแล้ว เมื่อข่าวคราวถูกปล่อยรั่วไหลออกไป ครั้งแรกทีเดียวโดยผ่านทีวีอิสราเอลช่องหนึ่ง [7] จากทัศนะมุมมองของอิสราเอลนั้น การผูกความช่วยเหลืออิสราเอลเอาไว้กับความช่วยเหลือยูเครน ไม่ใช่เป็นแนวความคิดที่ดีเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการต่อสู้เกิดขึ้นในวุฒิสภาสหรัฐฯ อยู่แล้วเกี่ยวกับเรื่องนี้
เซเลนสกี ดูเหมิอนจะยอมถอยแล้วเช่นกัน โดยประณามสิ่งต่างๆ ทั้งหมดใส่ฝ่ายรัสเซีย เมื่อวันจันทร์ เขากล่าวว่า “เห็นได้ชัด” ว่าสงครามในตะวันออกกลาง “กำลังดึงเอาจุดโฟกัสไป และผมคิดว่ามันเป็นหนึ่งในบรรดาเป้าหมายของสหพันธรัฐรัสเซีย”
กระทั่งถ้าหากการไปเยือนเกิดขึ้นมาในตอนนี้จริงๆ มันก็จะไม่มีคุณค่าในทางโฆษณาชวนเชื่ออย่างที่วอชิงตัน และยูเครนต้องการหรอก
การเจรจาสันติภาพ
มีความพยายามแบบทำกันหลังฉากจำนวนหนึ่งเพื่อทำให้เกิดการเจรจากันระหว่างรัสเซียกับยูเครน โดยในเวลาเดียวกับที่วอชิงตันกำลังผลักดันให้มีการส่งความช่วยเหลือแก่ยูเครนเพิ่มมากขึ้น สหรัฐฯ ก็กำลังสำรวจลู่ทางต่างๆ อยู่เช่นกันสำหรับการเข้าสู่กระบวนการสร้างสันติภาพในบางรูปแบบกับรัสเซีย
แน่นอนทีเดียว เซเลนสกีนั้นคัดค้านการพูดจากับรัสเซีย [8] “ผมไม่ได้มีความสัมพันธ์ใดๆ กับฝ่ายรัสเซีย และพวกเขาก็รู้จุดยืนของผมเป็นอย่างดี นี่คือจุดยืนของประเทศของผม นี่คือจุดยืนของประชาชนของเรา เราไม่ต้องการที่จะสนทนาใดๆ กับพวกผู้ก่อการร้าย ผมไม่พร้อมที่จะพูดจากับพวกผู้ก่อการร้าย เพราะคำพูดของพวกเขานั้นมันไม่มีอะไร มันไม่มีสาระอะไร เราไม่สามารถไว้ใจพวกผู้ก่อการร้ายได้ เพราะพวกผู้ก่อการร้ายจะต้องหาทางกลับมา (ก่อเหตุร้าย) เรื่อยไป”
ปัญหาสำคัญประการหนึ่งก็คือ ความรับรู้ความเข้าใจของรัสเซียเกี่ยวกับสงครามในยูเครนนี้ และ “การปฏิบัติการพิเศษทางทหาร” ของพวกเขา รัสเซียเชื่อว่าการต่อสู้ดิ้นรนของฝ่ายยูเครนคือการต่อสู้ระหว่างองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) กับรัสเซีย ด้วยเหตุนี้การเจรจาใดๆ จึงจำเป็นจะต้องนำเอาไม่เฉพาะแต่ยูเครนเข้ามาเท่านั้น แต่ในแทร็กที่แยกต่างหากออกไป ยังจะต้องนำเอานาโต (ซึ่งส่วนสำคัญที่สุด หมายถึงวอชิงตัน) เข้ามาด้วย
ขณะที่ฝ่ายรัสเซียนั้นแน่นอนอยู่แล้วว่าต้องการที่จะทำความตกลงเกี่ยวกับประเด็นปัญหาด้านดินแดน (และในขอบเขตที่ขยายออกไป ก็หมายถึงการพิทักษ์คุ้มครองประชากรที่พูดภาษารัสเซียในยูเครนด้วย) แต่พวกเขายังมีความต้องการที่จะให้นาโตออกไปจากยูเครนอีกด้วย
การทำสงครามกับพวกนายพล
บางทีเซเลนสกีอาจจะสูญเสียความสนับสนุนของพวกนายพลระดับท็อปของเขาไปแล้ว แต่ว่านั่นเพียงพอแล้วหรือยังที่จะบีบบังคับให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในคณะผู้นำของยูเครน? มันเป็นเรื่องยากลำบากที่จะตอบคำถามข้อนี้ อะไรๆ จำนวนมากทีเดียวต้องขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นในสนามรบ
ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เมืองอัฟดิอิฟกาอาจจะถูกฝ่ายรัสเซียยึดเอาไปได้ และกองกำลังฝ่ายยูเครนต้องถอยร่น ความเปลี่ยนแปลงในที่อื่นๆ อาจจะก่อให้เกิดผลลบแก่กองทัพยูเครน ซึ่งกำลังอยู่ในภาวะขาดแคลนกำลังพลอย่างเลวร้าย
อีกส่วนหนึ่งของสมการ ได้แก่ ความสนับสนุนของฝ่ายกองทัพและของฝ่ายปฏิบัติการด้านข่าวกรองภายในประเทศของยูเครน กรมใหญ่ข่าวกรอง (Main Directorate of Intelligence หรือ GUR MO) คือหน่วยงานปฏิบัติการด้านข่าวกรองทางทหารของยูเครน ซึ่งเวลานี้นำโดยนายพลคีรีโล บูดานอฟ (Kyrylo Budanov) สำหรับหน่วยข่าวกรองที่ไม่ใช่ของฝ่ายทหารนั้น มีชื่อย่อที่รู้จักกันว่า หน่วย SSU และเป็นหน่วยงานทายาทของ KGB ของรัสเซีย เวลานี้ผู้นำของ SSU คือ วาซิล มัลยุค (Vasyl Malyuk)
ถ้าหากจะมีภัยคุกคามเกิดขึ้นอย่างจริงจังต่อตัวเซเลนสกีแล้ว มันก็อาจจะมาจากบูดานอฟ –และกลุ่มพันธมิตรใดๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับเหล่านายพลของยูเครน ซึ่งถ้าหากไม่บีบบังคับเซเลนสกีให้ต้องยอมพูดจากับรัสเซีย ก็อาจนำไปสู่การเปลี่ยนตัวคนอื่นเข้าแทนที่เซเลนสกี
เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าแนวโน้มของเหตุการณ์ต่างๆ ในเวลานี้กำลังเป็นผลลบต่อเซเลนสกี และเป็นผลลบต่อยูเครน มิหนำซ้ำพวกทหารในสนามรบต่างก็ทราบเรื่องนี้กันดีอยู่แล้ว เซเลนสกีจะยอมหันเหเปลี่ยนทิศทาง หรือว่าเขาจะรอคอยสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้?
สตีเฟน ไบรเอน เคยเป็นผู้อำนวยการฝ่ายเจ้าหน้าที่ของคณะอนุกรรมการตะวันออกใกล้ แห่งคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์ของวุฒิสภาสหรัฐฯ รวมทั้งเคยเป็นรองปลัดกระทรวงกลาโหมด้านนโยบายของสหรัฐฯ ปัจจุบันเป็นนักวิจัยอาวุโสอยู่ที่ Center for Security Policy และ Yorktown Institute
ข้อเขียนนี้หนแรกสุดเผยแพร่อยู่ใน Weapons and Strategy ที่เป็นบล็อกบนแพลตฟอร์ม Substack ของผู้เขียน
เชิงอรรถ
[1] https://substack.com/redirect/cc59ff63-497b-49b6-b69c-7148673f9c0a?j=eyJ1IjoiNTQ1NTUifQ.qYFYx5kfGiWo9cjGcAInbSEGFimskGW0kn2G2WyOBFw
[2] https://substack.com/redirect/eaf24c5d-15c0-46c0-a74d-82b0622b3133?j=eyJ1IjoiNTQ1NTUifQ.qYFYx5kfGiWo9cjGcAInbSEGFimskGW0kn2G2WyOBFw
[3] https://substack.com/redirect/ec9d66f6-c7c0-439d-818e-2c7d29b9c202?j=eyJ1IjoiNTQ1NTUifQ.qYFYx5kfGiWo9cjGcAInbSEGFimskGW0kn2G2WyOBFw
[4] https://substack.com/redirect/e735af09-06c4-479b-bfcc-f4d6ef1a9424?j=eyJ1IjoiNTQ1NTUifQ.qYFYx5kfGiWo9cjGcAInbSEGFimskGW0kn2G2WyOBFw
[5] https://substack.com/redirect/092d9350-8f9a-4ed9-8dbe-7b4b9d11b2bf?j=eyJ1IjoiNTQ1NTUifQ.qYFYx5kfGiWo9cjGcAInbSEGFimskGW0kn2G2WyOBFw
[6] https://substack.com/redirect/667a3d7a-6ed1-4a8e-999f-78a3e785c61d?j=eyJ1IjoiNTQ1NTUifQ.qYFYx5kfGiWo9cjGcAInbSEGFimskGW0kn2G2WyOBFw
[7] https://substack.com/redirect/7b6e3f16-e3b9-44b2-8c1e-4244a76e66d7?j=eyJ1IjoiNTQ1NTUifQ.qYFYx5kfGiWo9cjGcAInbSEGFimskGW0kn2G2WyOBFw
[8] https://substack.com/redirect/668adf2c-4dd1-434b-a5d6-6c1f6c40ff3a?j=eyJ1IjoiNTQ1NTUifQ.qYFYx5kfGiWo9cjGcAInbSEGFimskGW0kn2G2WyOBFw