ยูเครนกล่าวอ้างในวันจันทร์ (25 ก.ย.) ว่า ผู้บัญชาการกองเรือทะเลดำของรัสเซียเป็นผู้หนึ่งที่ถูกสังหาร จากการที่ฝ่ายตนยิงขีปนาวุธโจมตีกองบัญชาการสำคัญของนาวีแดนหมีขาวที่เมืองเซวาสโตโปล ในคาบสมุทรไครเมียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
หน่วยทหารปฏิบัติการพิเศษของยูเครนอ้างว่า พล.ร.อ.วิกเตอร์ โซโคลอฟ ผู้บัญชาการกองเรือทะเลดำของรัสเซีย เป็นผู้หนึ่งที่ถูกสังหารจากการที่ฝ่ายตนใช้ขีปนาวุธโจมตีกองบัญชาการกองเรือทะเลดำ ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองเซวาสโตโปล เมื่อวันศุกร์ (22) ในตอนที่พวกผู้บังคับบัญชาระดับสูงของนาวีแดนหมีขาวประชุมกันอยู่
ทางด้านกระทรวงกลาโหมรัสเซียยังไม่ได้ตอบอะไรเฉพาะหน้านี้ เมื่อถูกผู้สื่อข่าวสอบถามไปว่า โซโคลอฟ ถูกสังหารจริงหรือไม่
หน่วยทหารปฏิบัติการพิเศษของยูเครน โพสต์ข้อความทางแอป “เทเลแกรม” อ้างว่า การโจมตีกองบัญชาการกองเรือทะเลดำรัสเซียของยูเครนคราวนี้ มีนายทหารเสียชีวิตไป 34 คน หนึ่งในนั้นคือ โซโคลอฟ นอกจากนั้นยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 105 คน และตัวอาคารกองบัญชาการเสียหายหนักจนไม่สามารถซ่อมแซมให้คืนดีได้
ไม่เป็นที่ชัดเจนในเฉพาะหน้านี้ว่า หน่วยปฏิบัติการพิเศษของยูเครนใช้วิธีใดในการนับจำนวนผู้ตายและบาดเจ็บจากการโจมตีคราวนี้
ที่ผ่านมาหลายๆ ครั้ง ทั้งมอสโกและเคียฟต่างแถลงอย่างเกินจริงเกี่ยวกับความสูญเสียของข้าศึก ขณะที่แทบไม่พูดถึงความสูญเสียของฝ่ายตนเอง
พวกเจ้าหน้าที่รัสเซียที่ได้รับมอบหมาย ได้ยืนยันข่าวการโจมตีของยูเครนในวันศุกร์ (22) โดยบอกว่าขีปนาวุธอย่างน้อยลูกหนึ่งโจมตีถูกอาคารกองบัญชาการ
สำหรับสถานการณ์สู้รบล่าสุด กองบัญชาการทหารทางภาคใต้ของยูเครนโพสต์บนแอปเทเลแกรมเมื่อวันจันทร์ (25) ว่า รัสเซียเปิดฉากโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ต่อท่าเรือในเมืองโอเดสซาคืนวันอาทิตย์ (24) และทำลายโกดังจัดเก็บธัญพืชจนเสียหาย โดยที่รัสเซียใช้โดรน 19 ลำ และขีปนาวุธซูเปอร์โซนิก “โอนิกซ์” 2 ลูก รวมทั้งขีปนาวุธร่อน “คาลิบร์” 12 ลูกที่ยิงจากเรือผิวน้ำและเรือดำน้ำ แต่ยูเครนยิงโดรนชาเฮดทั้ง 19 ลำ และขีปนาวุธคาลิบร์ 11 ลูกร่วง
อย่างไรก็ดี ยูเครนยอมรับว่า โครงสร้างพื้นฐานท่าเรือในโอเดสซาได้รับความเสียหายรุนแรง
ทั้งนี้ นับจากรัสเซียถอนตัวจากข้อตกลงอนุญาตให้ยูเครนส่งออกธัญพืชอย่างปลอดภัยผ่านทะเลดำเมื่อเดือนกรกฎาคม มอสโกก็ระดมโจมตีโครงสร้างพื้นฐานการส่งออกธัญพืชทางตอนใต้ของแคว้นโอเดสซาและแคว้นมิโคลาอีฟอย่างหนัก
ยูเครนบอกว่า นอกจากที่โอเดสซาแล้ว เมื่อคืนวันอาทิตย์รัสเซียยังโจมตีแคว้นเคียร์ซอน ทำให้สถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งเสียหาย และโดรนรัสเซียที่ถูกสอยร่วงในแคว้นดนิโปรเปตรอฟสก์ทำให้ไฟไหม้อาคารขององค์การอุตสาหกรรมแห่งหนึ่ง
ในอีกด้านหนึ่ง กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงในวันจันทร์ว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศของฝ่ายตนได้ทำลายโดรน 4 ลำเหนือทะเลดำและคาบสมุทรไครเมีย รวมทั้งยังสกัดโดรน 2 ลำในแคว้นเคิร์สก์และบรีแยนสก์ที่ติดกับพรมแดนยูเครน
โรมัน สตาโรวอยต์ ผู้ว่าการแคว้นเคิร์สก์ บอกว่า บ้านหลายหลังและหลังคาอาคารที่ทำการรัฐบาลได้รับความเสียหายจากการโจมตีของโดรนยูเครน แต่ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ขณะที่อเล็กซานดร์ โบโกแมซ ผู้ว่าการแคว้นบรีแยนสก์ เผยว่า ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตหรือความเสียหายภายในแคว้น
อนึ่ง สื่อวอชิงตันโพสต์ของสหรัฐฯ รายงานในวันเสาร์ (23) โดยอ้างการเปิดเผยของพวกทหารยูเครนในสนามรบ เผยเคียฟเสียยานยนต์หุ้มเกราะจำนวนมากที่ตะวันตกจัดหาให้ระหว่างพยายามเจาะแนวต้านของรัสเซียทางใต้
วอชิงตันโพสต์ อ้างอิงคำบอกเล่าผู้บังคับบัญชาการหน่วยโจมตีทางอากาศคนหนึ่งของยูเครนที่ไม่ประสงค์เปิดเผยชื่อ กล่าวว่า เคียฟสามารถยึดดินแดนบางส่วนในแคว้นซาโปริซเซีย คืน บริเวณใกล้หมู่บ้านโรโบทีน และเวอร์โบโวยีซึ่ งมีการต่อสู้ดุเดือดในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา กระนั้น เขายอมรับว่ามีความคืบหน้าไม่มากนัก
เขายังบอกอีกว่า ความคืบหน้าดังกล่าวต้องแลกกับยานยนต์ทางทหารที่รวมถึงรถรบทหารราบมาร์เดอร์ของเยอรมนี และสไตรเกอร์ของอเมริกา และกองกำลังยูเครนต้องเผชิญการต่อต้านรุนแรงตลอดแนวรบ
วันเดียวกันนั้น กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงว่า กองกำลังมอสโกขับไล่การโจมตี 8 ระลอกของทหารยูเครน 3 กองพันใกล้โรโบทีน และเวอร์โบโวยีในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเคียฟเสียทหารกว่า 515 นาย ยานยนต์หุ้มเกราะ 24 คัน และยานยนต์ทั่วไป 19 คัน รวมทั้งปืนใหญ่อีก 35 กระบอก
(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี, อาร์ที)