หันมาซัดกันเอง! ยูเครนสวนตะวันตก 'หุบปากซะ' หลังถูกวิจารณ์ตีโต้รัสเซียคืบหน้าล่าช้า

ยูเครน เมื่อวันพฤหัสบดี (31 ส.ค.) ออกมาตอบโต้พวกที่วิจารณ์อัตราความรวดเร็วของปฏฺิบัติการโจมตีตอบโต้รัสเซีย ที่กินเวลามาแล้ว 3 เดือน ให้ "หุบปาก" ถือเป็นการส่งสัญญาณแห่งความผิดหวังที่ชัดเจนที่สุดของเคียฟ ต่อความเห็นของบรรดาเจ้าหน้าที่ตะวันตกที่เล็ดลอดอกมา ซึ่งวิพากษ์วิจารณ์ว่ากองกำลังของเคียฟนั้นมีความคืบหน้าในการโจมตีตอบโต้ล่าช้าเกินไป

นับตั้งแต่เปิดปฏิบัติการโจมตีตอบโต้ที่โอ้อวดไว้อย่างมาก โดยใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ของตะวันตกมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ยูเครนทวงคืนหมู่บ้านได้หลายสิบแห่ง แต่ยังไม่สามารถทะลวงฝ่าแนวป้องกันหลักของรัสเซียได้

เรื่องราวที่ปรากฏบนนิวยอร์กไทม์ส วอชิงตันโพสต์ และสำนักข่าวอื่นๆ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อ้างความเห็นของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และชาติตะวันตกอื่นๆ บ่งชี้ว่าปฏิบัติการโจมตีตอบโต้ไม่เป็นไปตามที่คาดหมายและยูเครนมีความบกพร่องทางกลยุทธ์บางอย่าง ในนั้นรวมถึงข้อกล่าวหาที่ว่าเคียฟมุ่งเน้นกองกำลังผิดทิศผิดทาง

รัสเซียคุยโวว่าปฏิบัติการโจมตีตอบโต้ของยูเครนประสบความล้มเหลวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนพวกผู้บัญชาการทหารยูเครน อ้างว่าพวกเขาเคลื่อนไหวล่าช้าโดยตั้งใจมีเป้าหมายลดศักยภาพด้านการป้องกันและโลจิสติกส์ของรัสเซีย เพื่อลดความสูญเสีย ครั้งที่การโจมตีขั้นสุดท้ายจะดำเนินการอย่างเต็มพิกัด

"พวกที่วิจารณ์ความล่าช้าของปฏฺิบัติการโจมตีตอบโต้ เทียบเท่ากับเป็นถ่มน้ำลายใส่หน้าทหารยูเครน ที่สละชีพตนเองในทุกๆ วัน เดินหน้าปลดปล่อยปืนแผ่นดินของยูเครนในแต่ละ 1 กิโลเมตร" ดมิทรี คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน บอกกับผู้สื่อข่าวในวันพฤหัสบดี (31 ส.ค.) "ผมอยากแนะนำให้พวกวิพากษ์วิจารณ์ทั้งหมดหุบปาก และพยายามปลดปล่อยพื้นที่ 1 ตารางเซนติเมตรด้วยตัวของพวกเขาเอง" เขากล่าว ณ ที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอียู ในสเปน

หลังจากพยายามทะลวงฝ่าทุ่งกับระเบิดที่วางไว้อย่างหนาแน่นมานานหลายเดือน ในท้ายที่สุดแล้วกองกำลังยูเครนไปถึงแนวป้องกันหลักของรัสเซียในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา บริเวณทางใต้ของหมู่บ้านโรโบทีน ที่พวกเขายึดคืนได้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในแคว้นซาโปริซเซีย ทางตะวันตกของประเทศ

เวลานี้พวกเขากำลังรุกคืบระหว่างหมู่บ้านโนโวโปโครพิฟกา กับหมู่บ้านเวอร์โบฟ ที่อยู่ใกล้กัน หาทางอ้อมผ่านคูขุดต่อต้านรถถังและแถวแท่งคอนกรีตทรงพีระมิด ที่เรียกกันว่าฟันมังกร อันเป็นแนวป้องกันหลักของยูเครน ซึ่งสามารถมองเห็นได้จากภาพถ่ายทางอากาศ

ความพยายามฝ่าแนวป้องกันนี้จะเป็นบททดสอบแรกสำหรับแนวป้องกันที่อยู่ลึกเข้าไปของรัสเซีย ซึ่งทางยูเครนหวังว่าจะมีความอ่อนแอมากกว่าและมีทุ่งกับระเบิดน้อยกว่า พื้นที่ต่างๆ ที่ทหารของพวกเขาฟันฝ่ามาจนถึงตอนนี้

ผู้บัญชาการทหารรายหนึ่งของยูเครน อ้างกับรอยเตอร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า กำลังพลของเขาสามารถทะลวงฝ่าแนวป้องกันที่ยากที่สุดได้แล้ว และกำลังไปถึงแนวป้องกันที่มีความหนาแน่นน้อยกว่า และเวลานี้คาดหมายว่าจะสามารถรุกคืบได้เร็วกว่าเดิม อย่างไรก็ตามรอยเตอร์ไม่ยืนยันคำกล่าวอ้างนี้

ยูเครนยังได้ยกระดับส่งโดรนโจมตีเล็งเป้าเล่นงานเป้าหมายต่างๆ ที่อยู่ลึกภายในรัสเซีย และในดินแดนต่างๆ ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซียในยูเครน

กระทรวงกลาโหมรัสเซียเปิดเผยว่าได้ทำลายการโจมตีด้วยโดรนรอบใหม่ของยูเครน เหนือแคว้นบรีอันสค์ ทางภาคใต้ของรัสเซีย หลังจากคืนก่อนหน้านี้พวกเขารายงานว่ามีเหตุโดรนโจมตีในบรีอันสค์เช่นกัน และบอกว่าสามารถสอยร่วงขีปนาวุธลูกหนึ่งที่ยิงใส่แคว้นไครเมีย ที่รัสเซียเข้ายึดครองและผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนในปี 2014

ในคืนก่อนหน้านั้น มอสโกรายงานว่ายูเครนพยายามใช้โดรนโจมตี 6 แคว้นของรัสเซีย หนึ่งในนั้นก่อไฟไหม้ ณ ฐานทัพอากาศแห่งหนึ่ง ในแคว้นปัสคอฟ ทางเหนือของรัสเซีย สร้างความเสียหายแก่เครื่องบินลำเลียงของกองทัพไปหลายลำ

ที่ผ่านมา น้อยครั้งนักที่ยูเครนจะแสดงความคิดเห็นโดยตรงอย่างเจาะจงถึงเหตุโจมตีภายในรัสเซีย แต่เหตุการณ์ล่าสุด ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ดูเหมือนจะคุยโวเกี่ยวกับปฏิบัติการโจมตีใส่แคว้นปัสคอฟ 2 รอบ ในวันพฤหัสบดี (31 ส.ค.) "มันเป็นผลลัพธ์ของอาวุธของเขา อาวุธใหม่ของรัสเซีย ห่างออกไป 700 กิโลเมตร" เขากล่าวปราศรัยผ่านวิดีโอ "และมีภารกิจให้ต้องทำอีกมาก"

โดยทั่วไปแล้วบรรดาพันธมิตรตะวันตกของยูเครน ห้ามเคียฟจากการใช้อาวุธที่พวกเขาจัดหาให้โจมตีใส่ดินแดนรัสเซีย แต่บอกว่ายูเครนมีสิทธิโดยชอบธรรมในการโจมตีเป้าหมายทางทหารต่างๆ ด้วยอาวุธของตนเอง

เหตุโจมตีในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ในนั้นรวมถึงเหตุโจมตีหลายครั้งเล็งเป้าเล่นงานใจกลางกรุงมอสโกเมื่อเดือนที่แล้ว ได้นำพาสงครามขยับเข้าใกล้ประชาชนชาวรัสเซียเป็นครั้งแรกในรอบ 18 เดือน ซึ่งระหว่างนั้นพบเห็นรัสเซียปฏิบัติการโจมตีทางอากาศเล่นงานยูเครนทั่วประเทศ

(ที่มา : รอยเตอร์)