รัฐบาลยูเครนนำซากรถถังและยานเกราะของรัสเซียมาจอดโชว์กลางท้องถนนในกรุงเคียฟ ในขณะที่ชาวยูเครนเตรียมเฉลิมฉลองวันครบรอบ 32 ปี การประกาศเอกราชจากสหภาพโซเวียต
งานฉลองวันประกาศเอกราชยูเครนซึ่งตรงกับวันที่ 24 ส.ค. มีขึ้น 18 เดือนเต็มๆ หลังจากที่รัสเซียได้เปิดปฏิบัติการทางทหารรุกรานเคียฟเมื่อวันที่ 24 ก.พ.ปีที่แล้ว
ชาวยูเครนจำนวนมากออกมาเดินดูซากรถถัง ยานเกราะ และยุทโธปกรณ์อื่นๆ ของรัสเซีย ซึ่งถูกนำมาจอดเรียงรายไว้บนถนน Kreshchatyk ใจกลางเมืองหลวง ซึ่งดูแล้วให้บรรยากาศคล้ายกับพิธีสวนสนามของ “กองทัพคนตาย”
นาตาเลีย โควาล หญิงชาวยูเครนวัย 59 ปี ยอมรับว่ารู้สึกขนลุกเมื่อได้เห็น “ถ้วยรางวัล” จากสงครามเหล่านี้ แต่เธอก็เชื่อว่าสุดท้ายแล้วยูเครนจะต้องเป็นฝ่ายชนะ
“ประเทศของเราจะต้องได้เฉลิมฉลอง” เธอกล่าว “อาจจะยังไม่ใช่ตอนนี้ แต่วันนั้นจะมาถึงแน่ และมันจะไม่ใช่แค่ชัยชนะสำหรับยูเครน แต่เป็นชัยชนะของคนทั้งโลก”
วันประกาศเอกราชยูเครนในปีนี้เกิดขึ้นในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของปฏิบัติการโจมตีโต้กลับรัสเซีย (counteroffensive) ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังคืบหน้าไปได้อย่างช้าๆ ในทางตะวันออกและภาคใต้ และกองทัพยูเครนยังไม่สามารถทวงคืนชุมชนขนาดใหญ่ที่ถูกมอสโกยึดไปได้เลย
เจ้าหน้าที่ยูเครนยอมรับว่า สาเหตุที่ปฏิบัติการโจมตีโต้กลับยังไม่ค่อยคืบหน้าก็เนื่องจากรัสเซียได้วางกับระเบิดและเตรียมแนวป้องกันเอาไว้หลายชั้น อีกทั้งยูเครนก็ไม่ได้รับการสนับสนุนทางอากาศจากชาติตะวันตกอย่างเพียงพอ
แม้ยอดผู้เสียชีวิตในฝ่ายยูเครนจะถูกเก็บเป็นความลับทางราชการ ทว่าสัปดาห์ที่แล้วหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สได้อ้างข้อมูลจากเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ซึ่งประเมินว่ามีทหารยูเครนล้มตายในสงครามไปแล้วเกือบ 70,000 นาย และบาดเจ็บอีกระหว่าง 100,000-120,000 นาย
ประชาชนที่อาศัยอยู่ในกรุงเคียฟส่วนใหญ่บอกว่า “รู้สึกดี” ที่รัฐบาลนำซากอาวุธยุทโธปกรณ์ของรัสเซียมาจัดแสดง เพราะจะช่วยให้ชาวยูเครนมีกำลังใจฮึกเหิมมากขึ้น
“ผมว่ามันเป็นแนวคิดที่ดีที่ทำให้เห็นว่า กองทัพของเรามีศักยภาพแค่ไหน และ (พวกทหารรัสเซีย) สู้รบได้แย่เพียงใด” มาร์ก โอเมลเชนโก วัย 23 ปี ให้สัมภาษณ์
มีโคลา คัปลุน ชายยูเครนวัย 74 ปี จากเมืองวินนิตเซีย (Vynnitsia) ซึ่งเดินทางมาเยี่ยมหลานสาวที่กรุงเคียฟ บอกว่ารู้สึกซาบซึ้งใจที่ชาติตะวันตกมอบความช่วยเหลือแก่ยูเครนในสงครามครั้งนี้ แม้ว่าเขาเองจะรู้สึกว่ามันชักจะ “ลากยาว” เกินไปแล้วก็ตาม
“แต่ผมยังคงเชื่อเหมือนเดิมว่า ชัยชนะต้องเป็นของเราในที่สุด” เขากล่าว “และสัญชาตญาณของผมบอกว่าสงครามน่าจะจบภายในสิ้นปีนี้ โดยที่เราเป็นฝ่ายชนะ”
ที่มา : รอยเตอร์
