(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.atimes.com)
Ground softening for big Russian offensive
By STEPHEN BRYEN
13/08/2023
การที่ยูเครนประสบความล้มเหลวในการรุกตอบโต้ครั้งใหญ่ และฝ่ายรัสเซียท้าทายด้วยการบุกที่คูเปียนสก์ ลีมาน และบัคมุต บ่งชี้ให้เห็นว่าสงครามคราวนี้อาจจะเดินหน้าไปสู่บทสรุปที่เป็นการตัดสินชี้ขาด
ยังคงเร็วเกินไปที่จะบอกว่า ทิศทางของสงครามยูเครนกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงกันแล้วใช่หรือไม่ แต่มีหลักฐานเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ว่า ยูเครนนั้นไม่สามารถเจาะฝ่าการป้องกันของรัสเซียตามแนวรบด้านใต้ และความท้าทายต่างๆ ซึ่งกำลังเกิดขึ้นในทิศทางของเมืองคูเปียนสก์ (Kupyansk) ลีมาน (Lyman) และบัคมุต (Bakhmut) [1] บ่งชี้ให้เห็นว่าสงครามครั้งนี้ทั้งสงครามอาจจะกำลังมาถึงบทสรุปตัดสินแล้ว
เป็นเพราะเหตุผลเช่นนี้เอง ที่ทำให้คณะบริหารไบเดนกำลังขอร้องรัฐสภาสหรัฐฯ จัดสรรเงินช่วยเหลือให้แก่ยูเครนอีก 20,000 ล้านดอลลาร์ [2] แนวความคิดที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ดูจะเป็นเพราะต้องการแสดงความสนับสนุนทางจิตวิทยาแก่ทั้งตัวประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี และแก่กองทัพยูเครน
อย่างไรก็ดี ครั้งนี้รัฐสภาสหรัฐฯ อาจจะไม่ยอมทำตัวเป็นแค่ตราประทับรับรองให้แก่คำของบประมาณที่ชวนตื่นตระหนกก้อนนี้ มันไม่มีความชัดเจนเอาเลยว่ามีความจำเป็นยังไงจึงต้องใช้เงินถึง 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนั้น.อารมณ์ความรู้สึกในสหรัฐฯ และยุโรปก็กำลังเริ่มแปรเปลี่ยน [3] ไปสู่เส้นทางมุ่งค้นหาทางออกเพื่อยุติสงครามที่ราคาแพงลิ่วและยากลำบากนี้
ความวิตกกังวลนั้นมีกันตั้งแต่เรื่องที่มันกำลังทำให้พลังสำรองทางยุทธศาสตร์ต่างๆ ของสหรัฐฯ ร่อยหรอลงเรื่อยๆ จากการต้องดึงลากการสู้รบขัดแย้งให้ยืดเยื้อออกไปไม่รู้จบ แถมยังเป็นการสู้รบขัดแย้งที่แลดูเหมือนกับว่ามันจะต้องจบลงอย่างเลวร้ายด้วยความปราชัยของฝ่ายยูเครน ถึงแม้ตอนนี้กระแสคัดค้านยังคงห่างไกลจากการครองฐานะเป็นฝ่ายเสียงข้างมาก แต่ความเพลี่ยงพล้ำในสมรภูมิมากขึ้นทุกที ก็อาจนำพารัฐสภาสหรัฐฯ ไปสู่การเปลี่ยนแปลงความคิดเห็น โดยเฉพาะเมื่อเผชิญกับคำร้องขอทางการเงินตัวเลขสูงลิบลิ่ว
สิ่งหนึ่งที่ดูเหมือนจะแน่นอนแจ่มแจ้ง ก็คือคงไม่มีนักการเมืองวอชิงตันคนไหนสามารถที่จะปลุกระดมสาธารณชนให้สนับสนุนสงครามนี้อย่างคึกคักได้อีก
ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการปฏิบัติการของฝ่ายรัสเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทิศทางคูเปียนสก์ ยังเป็นสิ่งที่ยากลำบากแก่การค้นหา ฝ่ายรัสเซียไม่ได้เรียกการปฏิบัติการของพวกเขาที่นั่นว่าเป็นการเปิดรุกใหญ่ ถึงแม้มีรายงานที่ไม่ยืนยันหลายกระแสระบุว่า รัสเซียได้ระดมกำลังทหาร 100,000 คน หรือกว่านั้น [4] สำหรับการปฏิบัติการของพวกเขาในบริเวณนี้ และเคลื่อนกำลังเข้าไปพร้อมด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์ขนาดหนักจำนวนมาก
สิ่งที่ถูกเปิดเผยออกมามากที่สุดได้แก่ขบวนลำเลียงเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง แบบบีเอ็ม-21 [5] ซึ่งถูกพบเห็นว่ามุ่งหน้าไปยังพื้นที่ดังกล่าว นอกจากนั้นยังมีรายงานข่าวเรื่องหน่วยทหารของยูเครนปฏิเสธไม่ยอมเข้าสู้รบ และขณะที่ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการก่อกบฏเช่นนี้ถูกสั่งปิดเงียบไม่ให้เผยแพร่ออกไป มันก็ยังคงดูเหมือนกับว่าบังเกิดขึ้นมาจริงๆ ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
เซเลนสกี กำลังวาดหวังที่จะยึดคืนเมืองบัคมุต ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์ข้อหลักของเขาตั้งแต่ก่อนที่เขาจะสูญเสียเมืองนี้ไปให้แก่กองกำลังวากเนอร์ด้วยซ้ำ สำหรับช่วงขณะนี้ นครบัคมุตไม่ได้ถูกคุกคามอะไร ตรงกันข้าม ฝ่ายยูเครนกำลังพยายามที่จะยึดคืนแค่พวกชุมชนซึ่งอยู่ทางด้านเหนือและด้านใต้ของนครแห่งนี้เท่านั้น
ข้อมูลข่าวสารล่าสุดที่ออกมาก็คือ การรุกในช่วงต้นๆ ของฝ่ายยูเครนในทั้งสองด้านดังกล่าวได้ถูกผลักไสให้ถอยร่นกลับไป และความหวังใดๆ ของเซเลนสกี ที่อาจจะสร้างชัยชนะขึ้นมาจากกองเถ้าถ่านของเมืองบัคมุตดูจะประสบความล้มเหลวไม่อาจกลายเป็นจริงขึ้นมาได้
การผจญภัยที่ประสบความสูญเสียหนักที่บัคมุต ในทันทีที่มันถูกขุดคุ้ยแฉโพยออกมาในท้ายที่สุด อาจสร้างปัญหาภายในประเทศอันใหญ่โตมโหฬารให้แก่เซเลนสกี เขากำลังจะปลดรัฐมนตรีกลาโหมของเขา [6] บุรุษผู้ซึ่งคอยทำหน้าที่ยืนอยู่ตรงแถวหน้าให้แก่เขา เพื่อให้ได้ความช่วยเหลือด้านอาวุธจากยุโรปและสหรัฐฯ ขณะที่พวกตัวเก็งที่คาดการณ์กันว่าอาจจะเข้ามาแทนที่เขาได้นั้น ส่วนมากที่สุดก็เป็นพวกไร้ประสบการณ์และไม่มีความเกี่ยวข้องกับสงครามครั้งนี้
โอเล็คซีย์ เรซนิคอฟ รัฐมนตรีกลาโหมคนปัจจุบันที่เรากล่าวถึงนี้ มีข่าวกระซิบว่าอาจจะถูกส่งไปยังสหราชอาณาจักรในตำแหน่งเอกอัครราชทูตของยูเครน ไม่มีใครสามารถพูดด้วยความแน่ใจว่าฝ่ายทหารของยูเครนจะยังคงสนับสนุนเซเลนสกีต่อไปหรือไม่ แต่รอยแตกร้าวมากขึ้นเรื่อยๆ กำลังปรากฏออกมาให้เห็นในกรุงเคียฟ คงเป็นการเล่นพนันที่ฉลาดทีเดียวถ้าหากวางเดิมพันว่าฝ่ายทหารอาจจะตัดสินใจเข้าจัดการกับเรื่องต่างๆ ด้วยมือของพวกเขาเอง และหากสิ่งนี้บังเกิดขึ้น เซเลนสกีก็น่าที่จะถูกถอดออกไป
ยูเครนนั้นได้นำเอาพวกหน่วยทหารที่เก็บสำรองเอาไว้ (ซึ่งจำนวนมากผ่านการฝึกอบรมจากนาโตมาแล้ว) เข้าสู่สมรภูมิ เพื่อพยายามสกัดขัดขวางการรุกใหญ่ใดๆ ของฝ่ายรัสเซีย
แต่การนำหน่วยทหารเหล่านี้ออกมาใช้ ก็เท่ากับปล่อยให้ยูเครนมีกองพลน้อยที่ผ่านการฝึกจากนาโตมาอย่างดี จำนวนลดน้อยลงมากสำหรับอนาคต เนื่องจากยุทธศาสตร์เบื้องต้นของรัสเซียนั้นคือการปล่อยให้พวกเขาบุกเข้ามาในระยะใกล้มากๆ จากนั้นก็ถล่มด้วยพวกอาวุธยิงไกล (เช่นปืนใหญ่ ปืนครก จรวดหลายลำกล้อง) การโจมตีทางอากาศ และทุ่นระเบิดหว่านโปรยจากทางอากาศ เวลานี้มีรายงานว่ายูเครนได้ออกคำสั่งให้อพยพประชาชนอย่างขนานใหญ่ [7] โดยเวลาเดียวกันนั้นก็วางทุ่นระเบิดเอาไว้ตามสะพานและถนนสายต่างๆ เพื่อชะลอการรุกคืบของฝ่ายรัสเซีย
ฝ่ายรัสเซียมีความเฉลียวฉลาดมากในการบริหารจัดการแนวรบการทำสงครามของพวกเขา แทบไม่มีการโจมตีใส่กรุงเคียฟเอาเลย ยกเว้นแต่เมื่อสักประมาณกว่า 1 เดือนมานี้ที่มุ่งถล่มศูนย์ข่าวกรองของยูเครนในนครหลวงแห่งนี้
ในสื่อของฝ่ายรัสเซียแทบไม่ได้เอ่ยถึงผู้บังคับบัญชาทหารระดับท็อปของฝ่ายยูเครน อย่างเช่น วาเลรี ซาลูซนี ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพยูเครน หรือโอเลคซานดร์ ซีร์สกยี ผู้บัญชาการทหารบกยูเครน นอกเหนือจากตั้งข้อสังเกตว่ากองทัพยูเครนปฏิบัติการด้วยความเป็นมืออาชีพ นี่อาจจะบ่งชี้ให้เห็นว่ารัสเซียเปิดประตูกว้างสำหรับการสนทนากับฝ่ายทหารของยูเครนก็เป็นได้
เวลาเดียวกัน มีรายงานข่าวหลายชิ้นที่ระบุว่า กองทหารวากเนอร์ในเบลารุสกำลังเริ่มยกกำลังกลับไปยังรัสเซีย [8] สาเหตุเฉพาะหน้าเลยก็คือเบลารุสปฏิเสธไม่ยอมจ่ายเงินให้แก่พวกเขา ปล่อยให้พวกเขาไม่มีเงินเดือนสำหรับจ่ายให้ทหารของพวกเขา ตลอดจนไม่มีเงินสำหรับซื้อหาอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ
มีความเป็นไปได้ที่พวกเขาบางส่วนจะถูกจัดส่งไปยังแอฟริกา ขณะที่รัสเซียไม่ได้สนับสนุนการทำรัฐประหารยึดอำนาจซึ่งเกิดขึ้นที่ไนเจอร์ แต่การประกาศไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเช่นนี้ย่อมไม่จำเป็นว่าจะครอบคลุมถึงพวกวากเนอร์ด้วย การที่กลุ่มอีโควาส (กลุ่มประชาคมเศรษฐกิจแห่งรัฐแอฟริกาตะวันตก) มีมติเมื่อไม่นานมานี้ เห็นพ้องต้องกันที่จะรวมกำลังเพื่อดำเนินปฏิบัติการทางทหาร “ฟื้นฟูประชาธิปไตยที่ไนเจอร์” [9] ย่อมเป็นการเสนอโอกาสที่สำคัญมากสำหรับรัสเซียและกลุ่มวากเนอร์
กองทหารของอีโควาส ก็ย่ำแย่เกือบพอๆ กับของไนเจอร์ พวกเขาขาดแคลนทั้งในเรื่องการขนส่ง การสื่อสาร.และการส่งกำลังบำรุง สงครามใดๆ ที่ระเบิดขึ้นที่นั่นโดยปราศจากกองกำลังภายนอกคอยทำหน้าที่รักษาเสถียรภาพแล้ว น่าที่จะกลายเป็นสงครามแห่งความโหดร้ายป่าเถื่อน ไม่มีใครทราบว่า ปูติน จะเปิดไฟเขียวให้แก่ เยฟเกนี ปรีโกจิน ผู้นำของวากเนอร์ และส่งพวกเขาขึ้นเครื่องบินเดินทางเข้าสู่กรุงนีอาเม หรือไม่
แต่แน่นอนอยู่แล้วว่า ไนเจอร์เป็นเพียงการแสดงหน้าม่าน ขณะที่ยูเครนคือท้องเรื่องหลัก ซึ่งมีผลกระทบอย่างสำคัญในทางภูมิรัฐศาสตร์ ฝ่ายรัสเซียดูเหมือนกำลังพยายามยืนหยัดประคับประคองสถานการณ์ แทนที่จะเริ่มต้นการรุกครั้งใหญ่เพื่อปิดฉากสงครามลงไป พวกเขากำลังพยายามที่จะบดบี้ฝ่ายยูเครนให้น่วมยิ่งขึ้น และสร้างความแตกแยกให้แก่แรงสนับสนุนการทำสงครามในกรุงเคียฟ
อย่างไรก็ดี พวกนักวางแผนสงครามในมอสโกก็เป็นผู้ที่ทราบวิธีนับวิธีคาดคำนวณเป็นอย่างดี และมีความเป็นไปได้ที่ตอนนี้พวกเขามองเห็นโอกาสแล้วสำหรับทำการรุกใหญ่ ซึ่งถ้าหากมันเป็นเช่นนั้นจริงๆ ก็ขอให้จับตามองกันให้ดีที่เมืองคูเปียนสก์
สตีเฟน ไบรเอน เป็นนักวิจัยอาวุโสอยู่ที่ Center for Security Policy และ Yorktown Institute ข้อเขียนนี้หนแรกสุดเผยแพร่อยู่ในบล็อก Substack, Weapons and Strategy ของผู้เขียน
เชิงอรรถ
[1] https://www.newsweek.com/ukraine-war-kupyansk-map-evacuated-1818873
[2]https://www.washingtonpost.com/business/2023/08/10/biden-asks-more-money-ukraine-counteroffensive-sputters/
[3] https://www.pewresearch.org/short-reads/2023/06/15/more-than-four-in-ten-republicans-now-say-the-us-is-providing-too-much-aid-to-ukraine/
[4] https://www.newsweek.com/ukraine-russia-northern-frontline-war-1813576
[5]https://twitter.com/i/status/1689300765632770048
[6] https://www.msn.com/en-us/news/world/zelenskyy-in-search-for-reznikov-s-replacement-report/ar-AA1f73BI
[7]https://www.foxnews.com/world/mass-evacuation-ordered-russian-forces-intensify-offensive-ukraine
[8]https://www.euronews.com/2023/08/10/war-in-ukraine-wagner-troops-could-be-leaving-belarus
[9]https://www.premiumtimesng.com/foreign/africa/615563-updated-niger-coup-war-looms-as-ecowas-orders-deployment-of-soldiers-to-sack-recalcitrant-junta.html