“นาโต” มองแง่บวกเกินไปเกี่ยวกับศักยภาพด้านการทหารของยูเครนในการทวงคืนแดนดินแดน ก่อนเปิดปฏิบัติการโจมตีตอบโต้ในช่วงฤดูร้อน ตามรายงานของเดอะไทมส์แห่งลอนดอน โดยระบุด้วยว่าพวกเจ้าหน้าที่ในกรุงเคียฟ เริ่มกล่าวโทษพวกผู้สนับสนุนตะวันตกของพวกเขาว่าขาดความแน่วแน่อย่างที่ควรจะเป็น ในเวลาใกล้เคียงกันนั้น เว็บไซต์ข่าว “โอเพนเดโมเครซี” ของลอนดอนเช่นกัน เสนอข่าวทหารยูเครนชำแหละการฝึกของนาโต ว่าเน้นการไล่ล่าผู้ก่อความไม่สงบในเมือง ไม่ใช่สงครามในสนามเพลาะซึ่งต้องต่อสู้กับทหารรัสเซียที่มีอาวุธอย่างดีครบครัน
ในบทความของมาร์ก เกลิอ็อตติ นักเขียนที่มีผลงานเกี่ยวกับรัสเซียถึงกว่า 20 เล่ม หนังสือพิมพ์เดอะไทมส์แห่งลอนดอนเมื่อวันเสาร์ (12 ส.ค.) อ้างอิงเจ้าหน้าที่กองทัพสหรัฐฯ ที่ไม่ต้องการเปิดเผยตัวตนรายหนึ่งซึ่งเกี่ยวข้องในการฝึกทหารยูเครน บอกว่า องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) คาดหวังปาฏิหาริย์ และยูเครนก็ให้สัญญาว่าจะจัดให้ แต่อันที่จริงแล้ว “คุณไม่สามารถทำสงครามด้วยการมองโลกในแง่ดีได้หรอก”
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ อีกคนเปิดเผยกับเดอะ ไทมส์ว่า คงไม่สามารถปิดฉากสงครามในยูเครนภายในปีนี้ แต่อเมริกาเร่งคิดเกี่ยวกับสถานการณ์ในปีหน้า
รายงานนี้ของเดอะไทมส์ระบุว่า ทั้งรัสเซียและยูเครนต่างไม่สามารถรุกคืบอย่างชัดเจนในขณะนี้ โดยที่ยูเครนมักอวดอ้างว่าการยึดหมู่บ้านแต่ละแห่งคืนได้เป็นสัญญาณความสำเร็จ
แต่ผู้เขียนรายงานนี้ประเมินว่า เคียฟมีเวลาอย่างมากที่สุด 2 เดือนในการพลิกสถานการณ์ก่อนที่ฝนในฤดูใบไม้ผลิจะตกลงมาและทำให้ไม่สามารถขนส่งอาวุธทางบกในช่วงเดือนพฤศจิกายน
รายงานของเดอะไทมส์ยังระบุว่าการเสริมกำลังป้องกันอย่างเข้มแข็งและการวางกับระเบิดอย่างกว้างขวางของกองกำลังรัสเซียทางภาคใต้ของยูเครนเป็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้ปฏิบัติการตอบโต้ของเคียฟไร้ผล
ท่ามกลางสถานการณ์เช่นนี้ เจ้าหน้าที่ในเคียฟเริ่มวิจารณ์ว่า นาโตพยายามไม่มากพอ และบางคนโจมตีว่า พันธมิตรความมั่นคงกลุ่มนี้ “ขี้ขลาด”
ทั้งนี้ ยูเครนเริ่มต้นปฏิบัติการตอบโต้ที่รอคอยมานานเมื่อต้นเดือนมิถุนายน โดยทุ่มกำลังโจมตีพร้อมกันหลายจุดจากแคว้นซาโปริซเซีย จนถึงแคว้นโดเนตสก์
ในอีกด้านหนึ่ง “โอเพนเดโมเครซี” ซึ่งเป็นเว็บไซต์ข่าวในลอนดอน เสนอรายงานเมื่อวันอาทิตย์ (13) ที่เขียนขึ้นจากการไปสัมภาษณ์นายทหารชั้นประทวนยศระดับจ่าแห่งหน่วยข่าวกรอง ซึ่งประจำอยู่กับกองพลยานเกราะที่ 41 ของยูเครน โดยนายทหารประทวนผู้นี้ซึ่งเรียกตัวเองว่า “ดัตช์แมน” บอกว่า ครูฝึกชาติตะวันตกทำให้ทหารยูเครนไม่พร้อมรบกับรัสเซีย เนื่องจากนาโตไม่เข้าใจความแตกต่างระหว่างสงครามปราบปรามการก่อความไม่สงบที่เคยเผชิญในตะวันออกกลางช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา กับสถานการณ์การสู้รบจริงในยูเครน
เขาบอกว่า ครูฝึกชาวตะวันตกเป็นผู้ที่ผ่านการสู้รบในเขตเมืองเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่พวกผู้บังคับบัญชาทหารนาโตมีประสบการณ์ในการไล่ล่าผู้ก่อความไม่สงบที่หลบอยู่ในบ้านพลเรือนในอัฟกานิสถาน อิรัก และซีเรีย ซึ่งไม่เหมือนกับสถานการณ์ในยูเครนเลย
ดัตช์แมนแจงว่า ผู้บังคับบัญชาทหารนาโตมักวางแผนโดยมีภาพศัตรูที่อ่อนแอในใจ ทำให้มั่นใจว่า สามารถเอาชนะได้ด้วยอาวุธที่เหนือชั้นกว่าและเทคโนโลยีอื่นๆ ซึ่งเป็นยุทธวิธีที่ใช้ไม่ได้โดยสิ้นเชิงกับกองทัพรัสเซียซึ่งมีอาวุธอย่างดี
“เราอยากได้คนที่เข้าใจวิธีเคลียร์สนามเพลาะและการขว้างระเบิดมืออย่างมีประสิทธิภาพ วิธีหลีกเลี่ยงกับดัก และเข้าใจข้าศึก” เขาสำทับว่า ทหารยูเครนไม่ได้รับการฝึกฝนการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
ดัตช์แมนบอกว่า คงดีกว่านี้ถ้าครูฝึกนาโตจะไปเผชิญสถานการณ์การสู้รบจริงเพื่อฝึกทหารยูเครน แต่ก็ยอมรับว่า ถ้าหากครูฝึกนาโตบินไปฝึกทหารเกณฑ์ใหม่ในยูเครนให้รู้จักวิธีสังหารทหารรัสเซียอย่างมีประสิทธิภาพ ย่อมถือเป็นการละเมิดนโยบาย “งดส่งทหารเข้าร่วมรบ” ของนาโต ซึ่งกำหนดเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดการสู้รบขัดแย้งโดยตรงกับมอสโก
โอเพนเดโมเครซี ยังอ้างอิง นิค เรย์โนลด์ จากกลุ่มคลังสมองในอังกฤษ ชื่อรอยัล ยูไนเต็ด เซอร์วิส อินสติติวต์ ซึ่งชี้ว่า จากมุมมองด้านกฎหมาย ข้อบังคับ ความปลอดภัย และขอบเขตของการอนุญาตแล้ว ตะวันตกคงไม่สามารถจัดหาการฝึกแบบที่ยูเครนต้องการได้ เว้นแต่จะมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายบางอย่างอย่างจริงจัง
ทั้งนี้ นอกจากชาตินาโตอื่นๆ แล้ว กองทัพสหรัฐฯ ยังเดินทางไปฝึกยุทธวิธีเชิงรุกให้ทหารในยูเครนอย่างน้อยนับจากปี 2014 ขณะที่สำนักงานข่าวกรองกลาง (ซีไอเอ) ของสหรัฐฯ ก็ฝึกพวกสืบข่าวในยูเครนมานานหลายสิบปี นานมากก่อนที่จะเกิดการรัฐประหารปี 2014 ที่ประธานาธิบดีวิกเตอร์ ยานูโควิช ที่มาจากการเลือกตั้งถูกโค่นอำนาจ
ซีไอเอยังมีบทบาทมากขึ้นในปี 2015 ด้วยการเสนอหลักสูตรด้านอาวุธ ข่าวกรอง และยุทธศาสตร์การสร้างเครือข่ายปฏิบัติการลับเพื่อต่อต้านหากศัตรูเข้ายึดอำนาจในประเทศเอาไว้ได้
ถึงแม้วอชิงตันจำแนกการดำเนินการเหล่านี้อย่างเป็นทางการว่า ไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการรุกโจมตี แต่อดีตเจ้าหน้าที่ซีไอเอให้สัมภาษณ์ยาฮู นิวส์ หนึ่งเดือนก่อนที่รัสเซียจะบุกยูเครน ยอมรับว่าอเมริกากำลังฝึกให้คนยูเครนสังหารคนรัสเซีย
(ที่มา : อาร์ที, บิสซิเนสอินไซเดอร์)