xs
xsm
sm
md
lg

ปูตินเย้ยปฏิบัติการตอบโต้เคียฟบ้อท่า เซเลนสกีโบ้ยตะวันตก “ส่งอาวุธล่าช้า”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ทหารยูเครนเข้าร่วมการฝึกสงครามสนามเพลาะ ณ ค่ายทหารของกองทัพบกสหราชอาณาจักรแห่งหนึ่ง ทางตอนเหนือของอังกฤษ ในภาพซึ่งถ่ายไว้เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.2023 ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวโทษว่าการที่ทหารยูเครนได้รับการฝึกและได้อาวุธจากฝ่ายตะวันตกไม่เพียงพอ ตลอดจนต้องเสียเวลาเดินทางไปรับการฝึกในต่างแดน เป็นเหตุให้ฝ่ายรัสเซียมีเวลาในการวางกับระเบิดและเสริมแนวป้องกันเพื่อขัดขวางการรุกตอบโต้ครั้งใหญ่ของฝ่ายเคียฟ
‘ปูติน’ หยันปฏิบัติการตอบโต้ของยูเครนล้มเหลวโดยสิ้นเชิง ขณะที่ ‘เซเลนสกี’ โทษตะวันตกส่งอาวุธล่าช้า ทำให้รัสเซียมีเวลาวางกับระเบิดและแนวป้องกัน กระนั้นทางด้าน ‘บลิงเคน’ ยังคงยืนกรานว่าเคียฟชิงดินแดนที่ถูกยึดไปตอนแรกกลับมาได้ครึ่งหนึ่งแล้ว แต่ยอมรับว่ายูเครนยังต้องเผชิญการสู้รบหนักหน่วงและยาวนานหลายเดือน

สื่อมวลชนของรัสเซียรายงานว่า ประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก ของเบลารุส กล่าวระหว่างหารือกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย เมื่อวันอาทิตย์ (23 ก.ค.) ที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ของแดนหมีขาว ว่า ยูเครนไม่ได้มีมาตรการตอบโต้ และปูตินตอบว่า “มีแต่ล้มเหลว”

ทั้งนี้ ยูเครนประกาศเริ่มปฏิบัติการรุกตอบโต้ตามที่ได้โหมกระพือรวมทั้งถูกจับตามมองมานานเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แต่มีความคืบหน้าน้อยมาก โดยรัสเซียยังคงควบคุมดินแดนกว่า 1 ใน 6 ในยูเครนเอาไว้ได้ ภายหลังเปิดฉากรุกรานเมื่อเกือบ 17 เดือนที่แล้ว

กระนั้น พล.อ.มาร์ก มิลลีย์ ประธานคณะเสนาธิการร่วมของกองทัพสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (18) ว่า ปฏิบัติการของยูเครนยังห่างไกลจากคำว่าล้มเหลว แต่มีแนวโน้มว่าจะต้องใช้เวลายาวนาน ยากลำบาก และนองเลือด

ทางด้าน แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์โทรทัศน์ข่าวซีเอ็นเอ็น เมื่อวันอาทิตย์ (23) โดยระบุว่า ยูเครนสามารถชิงดินแดนคืน 50% จากที่ถูกรัสเซียยึดไปได้ในช่วงแรกของการรุกราน แต่ย้ำว่า เคียฟยังต้องเผชิญการสู้รบหนักมากและยาวนานหลายเดือนเพื่อชิงดินแดนที่เหลือกลับมา

อย่างไรก็ดี ในวันเดียวกันนั้น ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ให้สัมภาษณ์ซีเอ็นเอ็นเช่นเดียวกัน โดยมุ่งอธิบายว่า สาเหตุที่ปฏิบัติการตอบโต้ของเคียฟล่าช้าและคืบหน้าน้อยมาก เป็นเพราะได้รับอาวุธและการฝึกอบรมจากพันธมิตรตะวันตกไม่เพียงพอ

ผู้นำเคียฟแจงว่า เดิมทีวางแผนเริ่มปฏิบัติการรุกตอบโต้เอาไว้ตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ผลิ แต่ต้องเลื่อนออกไปเพราะมีอาวุธและกระสุนไม่พอ แถมทหารยังไม่ได้รับการฝึกฝนในการใช้อาวุธอย่างเหมาะสม นอกจากนั้นการที่ทหารยูเครนต้องออกไปรับการฝึกนอกประเทศก็ยิ่งทำให้ปฏิบัติการล่าช้า

เซเลนสกีอ้างว่า จากความล่าช้าดังกล่าวทำให้รัสเซียมีเวลาวางกับดักระเบิดและสร้างแนวป้องกันจำนวนมาก ซึ่งบีบให้กองทัพยูเครนต้องชะลอจังหวะในการรุกตอบโต้ให้ช้าลงเพื่อปกป้องชีวิตประชาชนและทหาร

ผู้นำยูเครนเพิ่งกล่าวอ้างเหตุผลทำนองเดียวกันนี้มาแล้ว ในขณะไปพูดกับการประชุมความมั่นคงแอสเพนในสหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ (21) ก่อนสำทับว่าชัยชนะอยู่ไม่ไกลหลังจากกองทัพยูเครนสามารถเก็บกู้กับระเบิดของรัสเซียเสร็จสิ้น

ถึงแม้เพนตากอนย้ำว่า ยังเร็วเกินไปที่จะฟันธงว่า มาตรการตอบโต้ของยูเครนล้มเหลว ทว่าอเมริกาปฏิเสธที่จะส่งระบบขีปนาวุธทางยุทธวิธี (เอทีเอซีเอ็มเอส) ที่มีพิสัยทำการไปได้ไกล หรือเครื่องบินขับไล่เอฟ-16 ตามที่เคียฟเรียกร้องกดดันเรื่อยมา โดยที่เรื่องเอฟ-16 พล.อ.มิลลีย์ เคยอธิบายเหตุผลว่า เนื่องจากเครื่องบินรุ่นนี้มีราคาแพงลำละ 200 ล้านดอลลาร์ (ราว 6,800 ล้านบาท) ดังนั้นถ้าจะจัดส่งให้ยูเครนอย่างเพียงพอเพื่อต่อกรกับรัสเซียจะต้องหาความสนับสนุนทางการเงินเพิ่มเติมขึ้นมาอีกมาก รวมทั้งต้องใช้เวลาจำนวนหนึ่งในการฝึกนักบินยูเครนให้คุ้นเคยกับการบินและการบำรุงรักษาเครื่องบินรุ่นนี้ด้วย ซึ่งไม่ทันกาลสำหรับการรุกตอบโต้ในขณะนี้

เวลานี้สื่อตะวันตกต่างพากันรายงานว่า ปฏิบัติการตอบโต้ของยูเครนมีผลงานย่ำแย่ โดยนิวยอร์กไทมส์รายงานเมื่อต้นเดือนนี้ว่า กองทัพยูเครนสูญเสียอาวุธใหม่ที่ตะวันตกส่งไปให้ราว 20% ในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังเริ่มการตอบโต้

ไฟแนนเชียลไทมส์ และวอชิงตันโพสต์รายงานตรงกันว่า ตะวันตกและอเมริกากังวลที่มาตรการตอบโต้ของยูเครนไม่คืบหน้าเหมือนที่สัญญาไว้ว่าจะทำให้มอสโกกระอัก

ถึงแม้ยูเครนได้รับความช่วยเหลืออย่างมหาศาลจากสมาชิกนาโตในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา เฉพาะอเมริกาชาติเดียวให้ความช่วยเหลือถึง 46,600 ล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ดี มีรายงานว่าขณะนี้คลังเครื่องกระสุนของชาติพันธมิตรตะวันตกของเคียฟร่อยหรอลงมาก และประชาชนในหลายประเทศเหล่านี้กำลังตั้งคำถามเกี่ยวกับสงครามยูเครนที่คนจำนวนมากขึ้นมองว่า มีลักษณะเป็นเป็นการทำสงครามตัวแทนกับรัสเซียที่เป็นมหาอำนาจนิวเคลียร์ โดยที่เป็นสงครามแบบปลายเปิดซึ่งอาจขยายตัวลุกลามออกไปอีก

(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี, อาร์ที)
กำลังโหลดความคิดเห็น