สหรัฐฯ ในวันจันทร์ (21 ส.ค.) อนุมัติขายเฮลิคอปเตอร์โจมตีอาปาเช่แก่โปแลนด์ มูลค่า 12,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 420,000 ล้านบาท) ในข้อตกลงมหึมากับพันธมิตรแถวหน้ารายหนึ่ง ที่สนับสนุนยูเครนในการทำสงครามต่อต้านการรุกรานของรัสเซีย
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุในรายงานการอนุมัติการขายที่แจ้งไปยังสภาคองเกรส ว่า โปแลนด์จะได้รับเฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-64E อาปาเช่ จำนวน 96 ลำ จากโบอิ้ง บริษัทผู้ผลิต
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้มีขึ้นหลังจากเมื่อปีที่แล้ว โปแลนด์ตัดสินใจเสาะหาฝูงบินอาปาเช่ มาทดแทนฝูงบินเฮลิคอปเตอร์ยุคสมัยสหภาพโซเวียตที่อยู่ในสภาพเก่าเก็บของพวกเขา ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครน ประเทศเพื่อนบ้าน
ถ้อยแถลงของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า "การขายครั้งนี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพของโปแลนด์รับมือกับภัยคุกคามทั้งในปัจจุบันและอนาคต ด้วยการมอบขุมกำลังที่มีความน่าเชื่อถือที่มีแสนยานุภาพในการป้องปรามศัตรู และเข้าร่วมในปฏิบัติการต่างๆ ของนาโต"
มาริอุสซ์ บลัชตัก รัฐมนตรีกลาโหมโปแลนด์ ยืนยันคำสั่งซื้อดังกล่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ พร้อมระบุว่า "จนกว่าการผลิตแล้วเสร็จและเฮลิคอปเตอร์ที่สั่งซื้อถูกส่งมอบถึงมือโปแลนด์ ทางกองทัพสหรัฐฯ จะจัดหาฝูงบินเฮลิคอปเตอร์แก่เรา โดยนำมันมาจากทรัพยากรของพวกเขาเอง"
โปแลนด์หนุนหลังอย่างแข็งขันต่อความพยายามที่นำโดยสหรัฐฯ ในการสนับสนุนยูเครนต้านทานการรุกรานของรัสเซีย โดยในบรรดาอาวุธมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์ที่สหรัฐฯ จัดหาให้แก่เคียฟนั้น จำนวนมากเป็นการส่งมอบผ่านโปแลนด์ ข้ามชายแดนเข้าสู่ยูเครน
เมื่อเดือนมกราคม โปแลนด์แถลงว่าพวกเขามีแผนยกระดับการใช้จ่ายด้านกลาโหมในปีนี้ เป็น 4% ของจีดีพี เหนือกว่าระดับเป้าหมาย 2% ของนาโต
ในเดือนมิถุนายน พวกเขาได้รับรถถังเอบรามส์ชุดแรก ส่วนหนึ่งในข้อตกลงมูลค่า 1,400 ล้านดอลลาร์ สำหรับจัดหายานยนต์สู้รบที่เคยใช้งานโดยนาวิกโยธินสหรัฐฯ
ก่อนหน้านั้นเมื่อปีที่แล้ว โปแลนด์ได้สั่งซื้อรถถังเอบรามส์อีก 250 คัน ในรุ่นใหม่กว่านั้น M1A2 ซึ่งคาดหมายว่าจะได้รับการส่งมอบในช่วงปลายปี 2024 โดยมันจะทำให้โปแลนด์ กลายเป็นประเทศแรกนอกเหนือจากสหรัฐฯ ที่มีรถถังรุ่นดังกล่าว
สงครามยูเครนทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับโปแลนด์มีความแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ทั้งที่ก่อนหน้านี้รัฐบาลอนุรักษนิยมของวอร์ซอมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกับรัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในประเด็นต่างๆ ในนั้นรวมถึงสิทธิกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศและเสรีภาพสื่อ
ในถ้อยแถลง กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เรียกโปแลนด์ว่าเป็น "ขุมกำลังสำหรับเสถียรภาพทางการเมืองและความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจในยุโรป"
สภาคองเกรสมีสิทธิทบทวนและขัดขวางข้อตกลงเฮลิคอปเตอร์ แต่ชัดเจนว่าพวกเขาคงไม่คัดค้านข้อตกลงซื้อขายดังกล่าว
(ที่มา : เอเอฟพี)
