xs
xsm
sm
md
lg

มาแค่คุ้มกันเรือ!? ทหารเรือ-นาวิกโยธินสหรัฐฯ 3 พันยกทัพถึงทะเลแดง หลังตึงเครียดอิหร่าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บุคลากรทางทหารของสหรัฐฯ มากกว่า 3,000 นาย บนเรือรบ 2 ลำ เดินทางถึงทะเลแดงแล้ว ส่วนหนึ่งในการยกระดับตอบสนองของวอชิงตัน ต่อเหตุการณ์อิหรานทำการยึดเรือบรรทุกน้ำมันไปแล้วหลายลำ จากการเปิดเผยของกองทัพเรืออเมริกาในวันจันทร์ (7 ส.ค.)

ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ถือเป็นการเสริมกำลังทหารเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ของกองทัพอเมริกา ในน่านน้ำอ่าวที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดและมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการค้าน้ำมันโลก ซึ่งมันกระตุ้นให้เตหะรานออกมาโวยวายในวันจันทร์ (7 ส.ค.) กล่าวหาวอชิงตันว่ากำลังโหมกระพือภาวะไร้เสถียรภาพในภูมิภาค

ขณะเดียวกัน ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากกองทัพสหรัฐฯ อ้างว่าอิหร่าน ทั้งยึดหรือพยายามเข้าควบคุมเรือประดับธงชาติไปแล้วเกือบ 20 หน ในภูมิภาคแถบนี้ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

กองเรือที่ 5 แห่งกองทัพเรือสหรัฐฯ ระบุในถ้อยแถลงว่า ทหารเรือ และนาวิกโยธินสหรัฐฯ เข้าสู่ทะเลแดงแล้วในวันอาทิตย์ (6 ส.ค.) หลังล่องผ่านคล่องสุเอซ ในการประจำการก่อนที่จะมีการแถลง

บุคลากรทางทหารมากกว่า 3,000 นาย ที่เดินทางถึงทะเลแดง ด้วยเรือรบยูเอสเอส บาทาน และยูเอสเอส คาร์เตอร์ ฮอลล์ จะช่วยยกระดับความยืดหยุ่นและศักยภาพทางทะเลแก่กองทัพเรือที่ 5 ถ้อยแถลงของกองเรือที่มีฐานบัญชาการในบาห์เรน ระบุเพิ่มเติม

นาวาตรีทิม ฮอว์กินส์ โฆษกของกองเรือที่ 5 ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีว่า การประจำการครั้งนี้เป็นการยกระดับความพยายามป้องปรามกิจกรรมที่บ่อนทำลายเสถียรภาพและลดสถานการณ์ความตึงเครียดในภูมิภาค ที่มีต้นตอจากพฤติกรรมของอิหร่าน ที่ตามราวีและยึดเรือสินค้าไม่หยุดหย่อน

ยูเอสเอส บาทาน เป็นเรือยกพลขึ้นบกจู่โจม ซึ่งสามารถบรรทุกอากาศยานแบบปีกตรึงและปีกหมุน เช่นเดียวกับยานยกพลขึ้นบก ส่วนยูเอสเอส คาร์เตอร์ ฮอลล์ เป็นเรือเทียบท่า ลำเลียงนาวิกโยธินและเครื่องไม้เครื่องมือของพวกเขาขึ้นฝั่ง

ระหว่างการแถลงข่าวในวันจันทร์ (7 ส.ค.) โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน กล่าวหาว่าการประจำการทหารของสหรัฐฯ ครั้งนี้มีเป้าหมายเพียงอย่างเดียวคือรับใช้ผลประโยชน์ของอเมริกาเอง

"การปรากฏตัวของทหารแห่งรัฐบาลสหรัฐฯ ในภูมิภาคไม่เคยสร้างความมั่นคง ผลประโยชน์ของพวกเขาในภูมิภาคแห่งนี้มักกระตุ้นให้พวกเขาโหมกระพือภาวะไร้เสถียรภาพและไร้ความมั่นคง" โฆษกบอกกับพวกผู้สื่อข่าว "เรามั่นใจเป็นอย่างมากว่า ประเทศต่างๆ ในอ่าวเปอร์เซียล้วนมีศักยภาพรับประกันความมั่นคงของตนเอง"

ส่วนทางโฆษกของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติของอิหร่าน ประกาศกร้าวว่าความเข้มแข็งและแสนยานุภาพของอิหร่านอยู่ในจุดที่สามารถเอาคืนพฤติกรรมเลวทรามใดๆ ของสหรัฐฯ เช่น การยึดเรือ

การประจำการกำลังพลล่าสุดของสหรัฐฯ มีขึ้นหลังจากวอชิงตันบอกว่ากองกำลังของพวกเขาสกัดความพยายาม 2 ครั้งของอิหร่าน ในการยึดเรือสินค้าในน่านน้ำสากลนอกชายฝั่งโอมาน เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม

ก่อนหน้านั้นในเดือนเมษายน และต้นเดือนพฤษภาคม อิหร่านยึดเรือบรรทุกน้ำมัน 2 ลำในเวลาห่างกันไม่ถึงสัปดาห์ ในน่านน้ำของภูมิภาค

เหตุการณ์ต่างๆ เหล่านี้มีขึ้นหลังจากอิสราเอลและสหรัฐฯ กล่าวโทษอิหร่านในเดือนพฤศจิกายน ต่อสิ่งที่พวกเขาอ้างว่าโดรนโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันลำหนึ่ง ซึ่งปฏิบัติการโดรนบริษัทแห่งหนึ่งที่มีชาวอิสราเอลบนเจ้าของ นอกชายฝั่งโอมาน

สหรัฐฯ แถลงเมื่อเดือนที่แล้วว่าพวกเขาจะส่งเรือพิฆาตลำหนึ่ง ฝูงบินรบ F-35 และ F-16 เช่นเดียวกันกำลังพลของหน่วยพร้อมรบยกพลขึ้นบก/หน่วยนาวิกโยธินโพ้นทะเล เข้าประจำการในตะวันอกกลาง เพื่อป้องปรามอิหร่านจากการยึดเรือในอ่าว

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ รายหนึ่งให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีว่า วอชิงตันกำลังเตรียมพร้อมสำหรับส่งนาวิกโยธินและบุคลากรของกองทัพเรือขึ้นไปบนเรือสินค้าบรรทุกน้ำมันที่ล่องผ่านอ่าว ในฐานะเพิ่มเติมแนวป้องกันตนเองอีกชั้นหนึ่ง

ความเคลื่อนไหวยกระดับประจำการทางทหารตอบโต้ของวอชิงตัน มีขึ้นในช่วงเวลาที่ภูมิภาคแถบนี้มีการประสานงานเจรจากันอย่างแนบแน่นกับจีน ชาติซึ่งเป็นคนกลางผ่อนคลายความตึงเครียดระหว่าง 2 คู่อริในอ่าวเปอร์เซีย ซาอุดีอาระเบียกับอิหร่าน ได้อย่างสุดช็อก เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน ความสัมพันธ์ระหว่างเตหะรานกับรัฐอ่าวอาหรับอื่นๆ ก็อบอุ่นขึ้นเช่นกัน โดยที่ประธานาธิบดีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และรัฐมนตรีต่างประเทศคูเวต ต่างได้รับคำเชิญเยือนอิหร่านในสัปดาห์ที่แล้ว

(ที่มา : เอเอฟพี)


กำลังโหลดความคิดเห็น