xs
xsm
sm
md
lg

ส่อเดือดอีกจุด! สหรัฐฯ เปิดศึกหลายด้าน เสริมเรือรบ-ฝูงบินสกัดอิหร่านในตะวันออกกลาง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สหรัฐฯ กำลังเสริมเรือพิฆาต เช่นเดียวกับฝูงบิน F-35 และ F-16 เข้าไปตะวันออกกลาง เพื่อป้องปรามอิหร่านจากการยึดเรือต่างๆ ในอ่าว จากการเปิดเผยของกระทรวงกลาโหมอเมริกา (เพนตากอน) ในวันจันทร์ (17 ก.ค.)

ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจากกองทัพเรืออิหร่าน พยายามยึดเรือพาณิชย์ 2 ลำ ในช่องแคบฮอร์มุซ และอ่าวโอมาน โดยหนึ่งในเหตุการณ์ดังกล่าวยังมีการยิงใส่เรือพาณิชย์ด้วย

"ตามหลังภัยคุกตามนี้ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และภายใต้การประสานงานกับคู่หูและพันธมิตรของเรา ทางกระทรวงกลาโหมกำลังยกระดับประจำการของเราและศักยภาพของเราในการสังเกตการณ์ช่องแคบและน่านน้ำต่างๆ โดยรอบ" ซาบรินา ซิงห์ รองเลขานุการฝ่ายสื่อสารมวลชนของเพนตากอนกล่าว พร้อมเรียกร้องให้เตหะราน "หยุดพฤติกรรมบ่อนทำลายเสถียรภาพในทันที ในขณะที่มันคุกคามการเดินเรือสินค้าอย่างอิสระผ่านน่านน้ำยุทธศาสตร์แห่งนี้"

เมื่อวันศุกร์ (14 ก.ค.) เจ้าหน้าที่กลาโหมระดับสูงรายหนึ่งเปิดเผยว่าสหรัฐฯ จะส่งฝูงบินโจมตี A-10 Warthog บินเหนืออ่าว โดยมันจะติดอาวุธด้วยกระสุนที่เหมาะสำหรับเล่นงานเรือเร็วและเป้าหมายที่เคลื่อนไหว

"ในขณะที่เรือโจมตีเร็วอิหร่านเป็นภัยคุกคามทางทะเลเพิ่มมากขึ้น เราได้พยยามหาหนทางต่างๆ ในการจัดการพวกมัน และ A-10 พิสูจน์แล้วว่ามีศักยภาพนั้น" เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวระบุ

วอชิงตันอ้างว่ากองกำลังของพวกเขาสกัดความพยายาม 2 รอบของอิหร่าน ในการยึดเรือบรรทุกน้ำมันทั้ง 2 ลำในน่านน้ำสากลนอกชายฝั่งโอมาน เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม แต่จากนั้นในวันต่อมา เตหะรานได้ทำการเข้าควบคุมเรือสินค้าอีกลำ

ก่อนหน้านั้นในเดือนเมษายน และต้นเดือนพฤษภาคม อิหร่านยึดเรือบรรทุกน้ำมัน 2 ลำภายในเวลาห่างกัน 1 สัปดาห์ ในน่านน้ำของภูมิภาค นอกจากนี้ เตหะรานยังถูกกล่าวหาปล่อยโดรนโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันลำหนึ่งที่มีอิสราเอลเป็นเจ้าของ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2022

เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นมากมายหลายครั้งนับตั้งแต่ปี 2018 หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ถอนอเมริกาจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน แล้วกลับมารื้อฟื้นมาตรการคว่ำบาตรเล่นงานเตหะรานอีกรอบ โหมกระพือความตึงเครียดขึ้นมาอีกครั้ง

การเจรจาเพื่อคืนชีพข้อตกลงยังคงหยุดชะงัก แม้เมื่อเร็วๆ นี้ฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจะกลับมาพูดคุยกันอีกรอบ โดยมีโอมานเป็นคนกลาง

(ที่มา : เอเอฟพี)


กำลังโหลดความคิดเห็น