ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ตอบรับคำเชิญของ คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ให้ไปเยือนประเทศของเขา ทำเนียบเครมลินแถลงในวันพฤหัสบดี (14 ก.ย.) หลังจากที่ผู้นำทั้งสองจัดการประชุมซัมมิตที่ดินแดนภาคตะวันออกไกลของรัสเซีย ซึ่งทำให้สหรัฐฯ วิตกกังวลว่าจะเป็นการรื้อฟื้นความเป็นพันธมิตรระหว่างมอสโก-เปียงยาง ที่เพิ่มพูนพลังทางทหารของรัสเซียในยูเครน และทำให้คิมได้รับเทคโนโลยีด้านขีปนาวุธ ขณะที่สถานการณ์สู้รบระหว่างเคียฟกับมอสโก ยูเครนคุยว่าเข้าโจมตีระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซียใกล้เมืองเยฟปาโตริยาทางตะวันตกของไครเมียเมื่อคืนวันพุธ (13) หลังจากโจมตีท่าเรือเซวาสโตโปล ซึ่งถือเป็นการโจมตีกองเรือทะเลดำของกองทัพเรือรัสเซียครั้งใหญ่ที่สุดนับจากเริ่มต้นสงคราม
“คิม จองอึน เชื้อเชิญ ปูติน ให้ไปเยือนเกาหลีเหนือ และปูตินก็ตอบรับคำเชิญนี้ด้วยความขอบคุณ” โฆษกเครมลิน ดมิตริ เปสคอฟ บอกกับพวกผู้สื่อข่าว พร้อมกับเผยด้วยว่า รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซียร์เก ลาฟรอฟ มีกำหนดไปเยือนเปียงยางเดือนหน้า
“การติดต่อกันในระดับสูงเหล่านี้เป็นไปอย่างสร้างสรรค์มากๆ เกาหลีเหนือเป็นเพื่อนบ้านของเรา และเช่นเดียวกับที่ปฏิบัติต่อเพื่อนบ้านรายอื่นๆ รัสเซียตั้งใจที่จะสร้างและพัฒนาความสัมพันธ์อันดีและความร่วมมือกันที่ต่างฝ่ายได้ประโยชน์โดยยึดโยงอยู่กับการให้ความเคารพกันและกัน” เปสคอฟ บอก
ระหว่างการประชุมซัมมิตในวันพุธ (13) ปูตินเปิดเผยว่า เขากับคิมมีการหารือกันในเรื่องทางทหาร สงครามในยูเครน และความช่วยเหลือที่รัสเซียจะให้แก่โครงการดาวเทียมของเกาหลีเหนือ ปูตินยังนำคิมชมศูนย์ส่งจรวดขึ้นสู่อวกาศแห่งที่ทันสมัยที่สุดของรัสเซีย ซึ่งใช้เป็นสถานที่หารือกันในครั้งนี้อีกด้วย
เปสคอฟบอกว่า ปูตินซึ่งเวลานี้กลับไปยังกรุงมอสโกแล้ว เมื่อเช้าวันพฤหัสฯ ได้บรรยายสรุปให้สภาความมั่นคงของรัสเซียทราบเกี่ยวกับการเจรจาของเขากับคิม สำหรับผู้นำเกาหลีเหนือนั้นยังคงเยือนรัสเซียต่อไปอีกหลายวัน
ปูตินพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ว่า ในวันพฤหัสฯ คิมจะไปเยือนพวกโรงงานด้านการบินทั้งของฝ่ายทหารและฝ่ายพลเรือนในเมืองคอมโซโมลสก์บนแม่น้ำอามูร์ และเยือนกองเรือแปซิฟิกของรัสเซียในเมืองวลาดิวอลสต็อก
เกี่ยวกับสถานการณ์สู้รบ กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงเมื่อวันพฤหัสฯ (14) ว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศของตนยิงโดรนยูเครนร่วงเหนือคาบสมุทรไครเมียในช่วงคืนวันพุธ แต่ไม่ได้ระบุว่า มีความเสียหายเกิดขึ้นหรือไม่
ขณะที่แหล่งข่าวในหน่วยข่าวกรองยูเครนบอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ฝ่ายตนสามารถทำลายระบบป้องกันภัยทางอากาศ “ตรีอุมฟ์” ของรัสเซียในปฏิบัติการร่วมของหน่วยงานความมั่นคงและกองทัพเรือยูเครนใกล้เมืองเยฟปาโตริยาของรัสเซีย
แหล่งข่าวนี้อ้างด้วยว่า ปฏิบัติการนี้เริ่มต้นด้วยการที่โดรนโจมตีเรดาร์และเสาอากาศของตรีอุมฟ์ ตามด้วยการยิงขีปนาวุธเนปจูนที่ยูเครนผลิตเองใส่เครื่องยิงจรวดของระบบป้องกันภัยทางอากาศดังกล่าวของรัสเซีย
การโจมตีนี้ยังมีขึ้นหลังจากยูเครนคุยว่ายิงขีปนาวุธโจมตีท่าเรือเมืองเซวาสโตโปล ในคาบสมุทรไครเมีย ซึ่งเป็นที่ตั้งฐานทัพของกองเรือทะเลดำของกองทัพเรือรัสเซีย ถือเป็นการโจมตีกองเรือนี้ครั้งใหญ่ที่สุด และเป็นการส่งสัญญาณว่า ศักยภาพการโจมตีด้วยขีปนาวุธของยูเครนพัฒนาขึ้นไปอีกขั้น
แอนดริว ยูซอฟ เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองทางทหารของยูเครนอ้างเมื่อวันพุธว่า การโจมตีทำให้เรือลำเลียงพลขนาดใหญ่ 1 ลำ และเรือดำน้ำอีก 1 ลำของรัสเซียได้รับความเสียหายจนเกินซ่อมแซม
ในเวลาต่อมากระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงว่า ยูเครนโจมตีอู่เรือของกองเรือทะเลดำด้วยขีปนาวุธร่อน 10 ลูก และโดรนเรือเร็วไร้ลูกเรือ 3 ลำในช่วงเช้าวันพุธ ทำให้เรือของกองทัพรัสเซียเสียหาย 2 ลำ ทว่า ล่าสุดซ่อมแซมและใช้การได้แล้ว ซึ่งตรงข้ามกับการป่าวประกาศของเคียฟ
ขณะเดียวกัน รัสเซียยิงขีปนาวุธของยูเครนร่วง 7 ลูก รวมทั้งทำลายโดรนเรือโจมตีหลายลำ
โวโลดิมีร์ ซาบลอตสกี้ นักวิเคราะห์การทหารของยูเครนให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอาร์บีเค ยูเครนา อ้างว่า เรือรัสเซีย 2 ลำที่ได้รับความเสียหายคือ เรือลำเลียงพล “มินสก์” ซึ่งเป็นเรือชั้นโรปูชา และเรือดำน้ำโจมตี “รอสตอฟ-ออน-ดอน” ที่เป็นเรือชั้นกิโล ซึ่งสามารถติดตั้งขีปนาวุธคาลิบร์ 4 ลูก หรือตอร์ปิโด 6 ลูก เท่ากับว่า ตอนนี้รัสเซียเสียขีปนาวุธคาลิบร์ 4 ลูก อีกทั้งดูเหมือนเสียแท่นยิงขีปนาวุธ 1 แท่นด้วยอย่างน้อยในช่วงเวลาหลายเดือน
นอกจากนี้ กองทัพยูเครนยังสร้างความประหลาดใจด้วยการประกาศความรับผิดชอบต่อการโจมตีในเซวาสโตโปล ซึ่งมีรายงานว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 24 คน ซึ่ง 4 คนในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส
ขณะเดียวกัน โทรทัศน์สกายนิวส์ของอังกฤษรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของแหล่งข่าวตะวันตกและยูเครนว่า อาวุธที่ใช้โจมตีท่าเรือเซวาสโตโปล คือ ขีปนาวุธสตอร์มชาโดว์ที่อังกฤษส่งให้ยูเครนเมื่อต้นปีนี้
ทางด้านกระทรวงกลาโหมรัสเซียไม่ได้ให้รายละเอียดนักเกี่ยวกับการโจมตีเมื่อวันพุธ แต่บล็อกทางการทหารแห่งหนึ่งอ้างว่า ขีปนาวุธเหล่านั้นยิงมาจากเครื่องบินทิ้งระเบิดซู-24เอ็มของยูเครนที่บินเหนือทะเลดำ
นอกจากนั้น รัสเซียยังเผยว่า สามารถทำลายโดรนหลายลำของยูเครนที่มุ่งโจมตีแคว้นบรีแยนสก์และแคว้นเบลโกร็อด ซึ่งอยู่ติดกับยูเครนเมื่อคืนวันพุธ แต่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ หรือความเสียหายใดๆ
(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี, เอพี)