ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียตอบรับคำเชิญของผู้นำ คิม จองอึน ในการไปเยือนเกาหลีเหนือ ตามรายงานของสื่อรัฐบาลเปียงยางวันนี้ (14 ก.ย.) ในขณะที่การเดินสายทัวร์กระชับมิตรมอสโกของผู้นำ คิม ใกล้จะรูดม่านปิดฉาก
คิม จองอึน ซึ่งไม่เดินทางออกนอกประเทศบ่อยนัก และไม่มีข่าวว่าเดินทางไปที่ไหนเลยตั้งแต่ก่อนเกิดโควิด-19 ตัดสินใจขึ้นรถไฟกันกระสุนมุ่งหน้าไปภูมิภาคตะวันออกไกลของรัสเซียเพื่อพบปะหารือแบบตัวต่อตัวกับประธานาธิบดี ปูติน ในวันพุธ (13)
ภายหลังการประชุมซัมมิต “ครั้งประวัติศาสตร์” ที่ศูนย์อวกาศ วอสตอชนี คอสโมโดรม ในเขตอามูร์ (Amur) มีรายงานระบุว่าผู้นำรัสเซียได้ให้สัญญาจะช่วยเกาหลีเหนือพัฒนาโครงการด้านอวกาศ และยังเล็งเห็น “ความเป็นไปได้” ที่จะยกระดับความร่วมมือด้านการทหารกับเกาหลีเหนือ
รัสเซียและเกาหลีเหนือต่างตกอยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรด้วยกันทั้งคู่ โดยมอสโกนั้นถูกนานาชาติคว่ำบาตรเพราะเปิดสงครามรุกรานยูเครน ส่วนเปียงยางก็เผชิญบทลงโทษเพราะทำโครงการนิวเคลียร์ และการที่ คิม ไปพบ ปูติน ครั้งนี้ทำให้หลายฝ่ายอดกังวลไม่ได้ว่า ทั้ง 2 ชาติอาจจะมีการเจรจา “ดีลลับ” ด้านอาวุธ
หัวหน้าพรรครัฐบาลเกาหลีใต้ออกมาประณาม “ข้อตกลงชั่วร้าย” ระหว่างมอสโกและเปียงยาง ขณะที่ญี่ปุ่นก็ส่งเสียงเตือนวันนี้ (14) ว่าจะต้องไม่มีการละเมิดคำสั่งของสหประชาชาติที่ห้ามการทำข้อตกลงด้านอาวุธใดๆ กับเกาหลีเหนือ
“เราจับตาการพูดคุยครั้งนี้ด้วยความกังวล โดยเฉพาะเรื่องที่ว่าอาจจะมีการละเมิดคำสั่งของคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นว่าด้วยการห้ามทำธุรกรรมด้านอาวุธใดๆ กับเกาหลีเหนือ” โยโกะ คามิคาวะ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศคนใหม่ของญี่ปุ่น ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน
สำนักข่าว KCNA ของเกาหลีเหนือรายงานว่า หลังจากที่ทัวร์ชมศูนย์อวกาศและรับประทานอาหารกลางวันร่วมกันเป็นที่เรียบร้อย ผู้นำ คิม “ได้กล่าวเชื้อเชิญอย่างสุภาพให้ ปูติน ไปเยือนเกาหลีเหนือในช่วงเวลาที่สะดวก”
“ท่าน ปูติน ตอบรับเชิญด้วยความยินดี และเอ่ยย้ำเจตนารมณ์ที่จะสานต่อประวัติศาสตร์และธรรมเนียมมิตรภาพระหว่างรัสเซีย-เกาหลีเหนือให้ก้าวหน้าต่อไป” KCNA ระบุ
คิม จองอึน กล่าวกับ ปูติน ว่า ตนมีความเชื่อมั่นว่ารัสเซียจะ “ได้รับชัยชนะ” เหนือศัตรูทั้งหลาย และเกาหลีเหนือ “จะยืนหยัดเคียงข้างรัสเซียเสมอ” ขณะที่ ปูติน ก็ได้หยิบยกสุภาษิตของชาวรัสเซียที่ว่า “เพื่อนเก่าคนเดียว ย่อมดีกว่าเพื่อนใหม่ 2 คน” โดยเป็นอ้างถึงบทบาทของสหภาพโซเวียตที่สนับสนุนเกาหลีเหนือเรื่อยมาตั้งแต่ช่วงสงครามเกาหลีปี 1950-53
ผู้นำ คิม ได้กล่าวอำลา ปูติน และอวยพรให้เขามีสุขภาพแข็งแรง ก่อนจะออกเดินทางไปยังจุดหมายถัดไปในการเยือนรัสเซีย ซึ่ง ปูติน ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ก่อนหน้านั้นว่า คิม จะไปที่เมืองท่าวลาดิวอสต็อก (Vladivostok) เพื่อชมการ “สำแดงแสนยานุภาพของกองเรือแปซิฟิกรัสเซีย”
ชาติตะวันตกออกมาแสดงท่าทีกังวลต่อความเป็นไปได้ที่รัสเซียและเกาหลีเหนือจะทำข้อตกลงด้านอาวุธ ท่ามกลางวิกฤตสงครามยูเครนที่ยังคงยืดเยื้อไร้ทางออก
“ซัมมิตครั้งนี้คือสัญญาณความเปลี่ยนแปลงด้านภูมิรัฐศาสตร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ” คิม จองแด อดีตสมาชิกรัฐสภาเกาหลีใต้ซึ่งปัจจุบันเป็นนักวิชาการของสถาบันยอนเซเพื่อเกาหลีเหนือศึกษา ระบุ
คิม มองว่า ความเป็นพันธมิตรที่เหนียวแน่นยิ่งขึ้นระหว่างเกาหลีเหนือ รัสเซีย และจีน “อาจเป็นพลังบ่อนทำลายภูมิภาค” อีกทั้งเครื่องกระสุนที่เปียงยางอาจส่งให้รัสเซียย่อมก็จะส่งผลกระทบต่อทิศทางของสงครามยูเครนอย่างแน่นอน
“ผมเชื่อว่ารัสเซียได้ทดสอบประสิทธิภาพของกระสุนปืนใหญ่เกาหลีเหนือในสนามรบแล้ว และพร้อมที่จะขยายการใช้งานให้มากขึ้น ในขณะที่สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ดูเหมือนจะยังไม่ตระหนักเท่าที่ควรถึงผลลัพธ์ที่จะตามมาจากดีลอาวุธครั้งนี้”
แมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกมาเตือนว่า ความร่วมมือในรูปแบบใดก็ตามระหว่างมอสโกและเปียงยาง “จะถือเป็นปัญหาใหญ่ และอาจเข้าข่ายละเมิดมติหลายข้อของคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นด้วย”
ที่มา : รอยเตอร์