xs
xsm
sm
md
lg

ทำเนียบขาวระบุรัสเซีย-โสมแดงซุ่มคุยดีลอาวุธ ขณะเครมลินขอ ‘ไม่พูด’ เรื่องปูตินจะพบผู้นำคิมเร็วๆ นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย (ขวา) และผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ คิม จองอึน สนทนากันในงานเลี้ยงรับรองภายหลังสองฝ่ายเจรจากันที่เมืองท่าวลาดิวอลสต็อก ของรัสเซีย (ภาพจากแฟ้มถ่ายเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2019 และเผยแพร่โดยสำนักข่าวเคซีเอ็นเอของทางการเกาหลีเหนือในวันรุ่งขึ้น)
ทางการสหรัฐฯ และนิวยอร์กไทมส์ต่างรายงานว่า คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ เตรียมนั่งรถไฟหุ้มเกราะ เดินทางไปเมืองวลาดิวอสต็อกของรัสเซียปลายเดือนนี้ เพื่อหารือกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เรื่องการจัดหาจัดส่งอาวุธและเครื่องกระสุนสำหรับใช้ในสงครามยูเครน โดยแลกเปลี่ยนกับเทคโนโยลีขั้นสูงด้านเรือดำน้ำนิวเคลียร์และดาวเทียม ล่าสุดทำเนียบเครมลินบอกว่าไม่ขอแถลงอะไรเกี่ยวกับข่าวเรื่องนี้

ในวันอังคาร (5 ก.ย.) ดมิตรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน แถลงว่า ไม่สามารถยืนยันได้ หลังจากถูกพวกผู้สื่อข่าวสอบถามว่า ผู้นำคิมของโสมแดง กำลังจะพบหารือกับประธานาธิบดีปูตินในเร็วๆ นี้จริงหรือไม่ และกล่าวต่อไปว่า “ไม่มีอะไรจะแถลงเกี่ยวกับเรื่องนี้”

ทั้งนี้ เมื่อวันจันทร์ (4 ก.ย.) เอเดรียน วัตสัน โฆษกหญิงของสภาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว ออกมาระบุว่า การเจรจาเรื่องการจัดหาจัดส่งอาวุธระหว่างรัสเซียกับเกาหลีเหนือมีความคืบหน้าอย่างมาก และอเมริกาได้รับข้อมูลมาว่า คิมคาดหวังให้การเจรจานี้ดำเนินต่อไปจนถึงการมีปฏิสัมพันธ์ทางการทูตในระดับผู้นำขึ้นในรัสเซีย

สัปดาห์ที่แล้วอเมริกาเตือนว่า รัสเซียกำลังซุ่มคุยกับเกาหลีเหนือเรื่องการจัดซื้อพวกเครื่องกระสุนปืนใหญ่และยุทธสัมภาระต่างๆ สำหรับการทำสงครามในยูเครน

ก่อนหน้าการแถลงของวัตสัน นิวยอร์กไทมส์ฉบับวันจันทร์รายงานข่าวโดยอ้างการเปิดเผยของพวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และชาติพันธมิตรอื่นๆ ว่า คิม น่าที่จะเดินทางด้วยขบวนรถไฟหุ้มเกราะของเขาไปเมืองวลาดิวอสต็อก ที่ตั้งอยู่ริมฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกและไม่ไกลเกาหลีเหนือมากนัก ในช่วงต่อไปของเดือนนี้

ทั้งนี้ วลาดิวอลสต็อก เมืองสำคัญในภาคตะวันออกไกลของรัสเซีย เป็นสถานที่จัดเวทีประชุมเศรษฐกิจตะวันออก (Eastern Economic Forum) โดยที่ปีนี้กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-13 กันยายน ขณะที่ปีที่แล้วมีผู้แทนจาก 68 ประเทศเข้าร่วม

นิวยอร์กไทมส์บอกว่า ปูตินกำลังต้องการได้พวกกระสุนปืนใหญ่และขีปนาวุธต่อสู้รถถังจากเกาหลีเหนือ ขณะที่มีรายงานว่า คิมก็กำลังเสาะหาพวกเทคโนโลยีอาวุธขั้นสูงสำหรับดาวเทียมและเรือดำน้ำนิวเคลียร์ ตลอดทั้งความช่วยเหลือด้านอาหาร

ข่าวนี้ยังออกมาพร้อมกับที่เซียร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ว่า กำลังหารือเรื่องการจัดซ้อมรบร่วมกับเกาหลีเหนือ

ก่อนหน้านี้สำนักข่าวยอนฮัปของเกาหลีใต้รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากหน่วยงานข่าวกรองของโซลที่ว่า ชอยกูที่เดินทางเยือนเปียงยางเมื่อเดือนกรกฎาคม เสนอต่อคิมเรื่องจัดการซ้อมรบทางนาวีร่วมกันระหว่างรัสเซีย เกาหลีเหนือ และจีน

ด้านเจ้าหน้าที่คนหนึ่งของกระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้ กล่าวกับเอเอฟพีว่า มีพัฒนาการหลายอย่างที่บ่งชี้ว่า มีความเป็นไปได้มากขึ้นที่เปียงยางจะทำข้อตกลงด้านอาวุธกับมอสโก และกล่าวเตือนว่า การร่วมมือไม่ว่ารูปแบบใดๆ ระหว่างเกาหลีเหนือกับประเทศเพื่อนบ้านต้องดำเนินการในแนวทางที่ไม่บ่อนทำลายบรรทัดฐานและสันติภาพระหว่างประเทศ

อนึ่ง เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว วอชิงตันระบุว่า เกาหลีเหนือจัดหาจรวดและขีปนาวุธให้วากเนอร์ กรุ๊ป บริษัททหารรับจ้างของรัสเซียในปี 2022 แม้เปียงยางปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ก็ตาม

ด้าน อันเดร แลนคอฟ ผู้เชี่ยวชาญด้านเกาหลีเหนือของมหาวิทยาลัยกุกมินในโซล ชี้ว่า น่าสังเกตอย่างมากถ้าในการเดินทางต่างประเทศครั้งแรกนับจากโควิดระบาด คิมเลือกไปรัสเซียแทนที่จะเป็นจีน ซึ่งเป็นพันธมิตรและคู่ค้าสำคัญ

แม้มูลค่าทางทหารและเศรษฐกิจจากข้อตกลงใดๆ ก็ตามที่อาจเกิดขึ้นยังเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันอยู่ แต่การหารือระหว่างคิมกับปูตินมีแนวโน้มนำไปสู่การร่วมมือทางทหารบางอย่าง และการเพิ่มจำนวนแรงงานเกาหลีเหนือในรัสเซีย ขณะที่ทั้งสองประเทศต้องการส่งข้อความทางการเมืองถึงวอชิงตัน

แลนคอฟแจงว่า สำหรับมอสโกนั้นต้องการให้อเมริการู้ว่า รัสเซียยังสามารถสร้างปัญหาให้อเมริกาในเอเชียตะวันออกได้ และสำทับว่า ถ้าไม่มีสงครามยูเครน รัสเซียคงไม่สนใจเกาหลีเหนือเลย

สำหรับคิมนั้นอาจหวังว่า การขายอาวุธและความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจที่จะได้รับจากดีลนี้ช่วยพิสูจน์ว่า เกาหลีเหนือยังได้รับการสนับสนุนจากหลายประเทศ ขณะที่อเมริกา เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นกระชับความสัมพันธ์และแสดงแสนยานุภาพทางทหารร่วมกัน

ขณะเดียวกัน เครมลินเปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ต้องการกระชับความสัมพันธ์ที่สองฝ่ายเคารพกันและกันกับเปียงยาง ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธมิตรใกล้ชิดยุคสงครามเย็น และยังเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่สนับสนุนการผนวกดินแดนในยูเครนของรัสเซียเมื่อปีที่แล้ว

นิวยอร์กไทมส์ยังรายงานว่า คิมอาจเดินทางต่อไปมอสโก แต่สำทับว่าข้อมูลนี้ยังไม่แน่นอน

(ที่มา : เอเอฟพี, รอยเตอร์)
กำลังโหลดความคิดเห็น