คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ เรียกร้องยกระดับความเข้มแข็งกองทัพเรือของประเทศ พร้อมกล่าวหาสหรัฐฯ กำลังเปลี่ยนน่านน้ำใกล้คาบสมุทรเกาหลี กลายเป็นน่านน้ำที่ไร้เสถียรภาพมากที่สุด เต็มไปด้วยอันตรายของสงครามนิวเคลียร์ ตามรายงานของสำนักข่าวกลางเกาหลีเหนือ (เคซีเอ็นเอ) เมื่อวันอังคาร (29 ส.ค.)
ในคำกล่าวสุนทรพจน์เนื่องในวันกองทัพเรือ คิม ระบุว่า พวกหัวหน้าแก๊งของสหรัฐฯ ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ เพิ่งแถลงจัดการซ้อมรบร่วมทางทหารเป็นประจำ ดูเหมือนเป็นการพาดพิงถึงผลการประชุมที่แคมป์เดวิด ในรัฐแมรีแลนด์ ของอเมริกา เมื่อวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา
ระหว่างการประชุมร่วมกันเป็นครั้งแรกของผู้นำสหรัฐฯ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ทั้ง 3 คน เห็นพ้องกันกระชับความร่วมมือด้านการทหารและเศรษฐกิจแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ในขณะที่พวกเขาหาทางฉายภาพความเป็นหนึ่งเดียวกัน ในยามที่ต้องเผชิญการแผ่ขยายอิทธิพลมากขึ้นเรื่อยๆ ของจีน เช่นเดียวกับคำขู่ทางนิวเคลียร์จากเกาหลีเหนือ
"เนื่องจากความเคลื่อนไหวเผชิญหน้าที่ขาดความยั้่งคิดของสหรัฐฯ และกองกำลังศัตรูอื่นๆ น่านน้ำของคาบสมุทรเกาหลีได้กลายเป็นจุดศูนย์รวมยุทโธปกรณ์สงครามใหญ่ที่สุดในโลก เป็นน่านน้ำที่ไร้เสถียรภาพมากที่สุด ด้วยภัยอันตรายของสงครามนิวเคลียร์" เคซีเอ็นเอรายงานโดยอ้างคำกล่าวของคิม
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เกาหลีใต้ และสหรัฐฯ เริ่มต้นทำการซ้อมรบช่วงฤดูร้อน Ulchi Freedom Shield ซึ่งออกแบบมาเพื่อยกระดับการตอบสนองร่วมกันต่อภัยคุกคามนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ ในขณะที่เปียงยางประณามการซ้อมรบต่างๆ มาช้านาน ว่าเป็นการจำลองทำสงครามกับพวกเขา
คิม กล่าวว่ากองทัพเรือเกาหลีเหนือจำเป็นต้องคงไว้ซึ่งความพร้อมทำสงคราม ตื่นตัวอยู่เสมอสำหรับการสู้รบ และเรียกร้องปรับปรุงอย่างสุดขั้ว เพื่อให้มีอาวุธและยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัย
รายงานข่าวของเคซีเอ็นเอระบุว่า "ท่านเน้นย้ำว่าหน้าที่เชิงกลยุทธ์กองทัพเรือแห่งกองเกาหลีเหนือ จะกลายเป็นองค์ประกอบสำคัญของการป้องปรามทางนิวเคลียร์"
(ที่มา : รอยเตอร์)