การถ่ายโอนเครื่องบินขับไล่ F-16 ที่ผลิตโดยสหรัฐฯ ไปยังยูเครน จะนำพาโลกขยับเข้าใกล้สงครามนิวเคลียร์ระหว่างวอชิงตันกับมอสโก จากคำเตือนรอบใหม่ของเกาหลีเหนือในวันจันทร์ (28 ส.ค.)
"การตัดสินใจของพวกเขาในการจัดหาแม้กระทั่งฝูงบินรบ คือการกระทำต่อต้านสันติภาพ ปลุกปั่นสงครามยืดเยื้อและกำลังทำลายสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคโดยสิ้นเชิง" สถาบันศึกษานานาชาติของเปียงยาง กล่าวเตือนในถ้อยแถลงที่เผยแพร่โดยสำนักข่าวกลางเกาหลีเหนือ (เคซีเอ็นเอ)
สถาบันแห่งนี้วิพากษ์วิจารณ์วอชิงตันต่อไปด้วยว่า มีเจตนาชั่วช้าในความพยายามมอบความพ่ายแพ้ทางยุทธศาสตร์แก่รัสเซีย ไม่ว่าต้องแลกกับอะไรก็ตาม "ข้อเท็จจริงพิสูจน์อย่างชัดเจนว่า สหรัฐฯ คือหัวหน้าแก๊งอาชญากรรมที่กำลังขัดขวางการคลี่คลายข้อพิพาทด้วยสันติวิธี และกำลังผลักทั่วทั้งยุโรปเข้าสู่เบ้าหลอมแห่งสงครามนิวเคลียร์อันน่าสยดสยอง ด้วยการยุยงเหล่าบริวารให้จัดหาอาวุธร้ายแรงต่างๆ แก่ยูเครน"
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก และนอร์เวย์ ตกลงบริจาคเครื่องบิน F-16 แก่ยูเครน ในขณะที่เคียฟหวังว่ามันจะช่วยกอบกู้ปฏิบัติการโจมตีตอบโต้รัสเซีย ซึ่งจนถึงตอนนี้ประสบความล้มเหลวในความพยายามรุกคืบใดๆ
แม้สหรัฐฯ ปฏิเสธบริจาคเครื่องบินของตนเอง แต่กระทรวงกลาโหมอเมริกา (เพนตากอน) เผยว่าพวกนักบินยูเครนจะเริ่มทำการฝึกบินเครื่องบิน F-16 ในแอริโซนา ในเดือนตุลาคม ในขณะที่เครื่องบินรุ่นนี้อยู่ในบัญชีปรารถนาของเคียฟมาช้านาน เช่นเดียวกับขีปนาวุธพิสัยไกลและระบบป้องกันภัยทางอากาศล้ำสมัย
รัสเซียเน้นย้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าการที่ตะวันตกจัดหาอาวุธแก่ยูเครน จะเป็นการลากให้เหล่าสมาชิกนาโตใกล้เปิดศึกเผชิญหน้าโดยตรงกับมอสโก
เกาหลีเหนือปฏิเสธประณามรัสเซีย สำหรับปฏิบัติการทางทหารในประเทศเพื่อนบ้าน และกล่าวโทษสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่องว่าเป็นคนปลุกปั่นวิกฤตนี้ขึ้นมา ทั้งนี้ เซียร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย สร้างเซอร์ไพรส์เดินทางเยือนกรุงเปียงยาง โดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้าเมื่อเดือนที่แล้ว และได้พบปะกับคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ
(ที่มา : อาร์ทีนิวส์)
