หงุดหงิดหนัก! เปียงยางเตือนข้อตกลง 'สหรัฐฯ-ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้' เพิ่มความเป็นไปได้ 'สงครามนิวเคลียร์'

เกาหลีเหนือในวันอังคาร (22 ส.ค.) ประณามการซ้อมรบทางทหารประจำปีระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ พร้อมเตือนเกี่ยวกับ "สงครามเทอร์โมนิวเคลียร์" ต่อข้อตกลงไตรภาคีกระชับความสัมพันธ์แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นระหว่างพวกผู้นำของอเมริกา เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ณ แคมป์เดวิด เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว

สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ เริ่มต้นการซ้อมรบฤดูร้อน Ulchi Freedom Shield ในวันจันทร์ (21 ส.ค.) ที่ออกแบบมาเพื่อยกระดับการตอบโต้ร่วมกันต่อภัยคุกคามทางนิวเคลียร์และขีปนาวุธจากเกาหลีเหนือ ในขณะที่เปียงยางประณามมาช้านานต่อการซ้อมรบดังกล่าว โดยเรียกมันว่าเป็นการซักซ้อมสำหรับทำสงครามกับพวกเขา

ในความคิดเห็นที่เผยแพร่โดยสำนักข่าวกลาง (เคซีเอ็นเอ) เกาหลีเหนือ ระบุว่าการประชุมซัมมิตระหว่างสหรัฐฯ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ณ แคมป์เดวิด บ้านพักตากอากาศของประธานาธิบดีอเมริกาในวันศุกร์ (18 ส.ค.) มีเป้าหมายคิดสูตรสำหรับ "ยั่วยุสงครามนิวเคลียร์"

"ถ้าข้อตกลงต่างๆ ที่ปั้นแต่งขึ้นมา ณ บ้านพักตากอากาศแคมป์เดวิด ถูกนำเข้าสู่ภาคปฏิบัติเพิ่มเติมในการซ้อมรบ ความเป็นไปได้ที่สงครามเทอร์โมนิวเคลียร์จะระเบิดขึ้นในคาบสมุทรเกาหลี ก็มีโอกาสกลายเป็นจริงมากขึ้นเรื่อยๆ" เคซีเอ็นเอรายงาน

ในการประชุมกันเป็นครั้งแรกระหว่างพวกผู้นำสหรัฐฯ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ทั้ง 3 ประเทศ เห็นพ้องยกระดับความร่วมมือทางทหารและเศรษฐกิจแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ในขณะที่พวกเขาหาทางฉายภาพของความเป็นหนึ่งเดียวกันยามที่ต้องเผชิญหน้ากับการแผ่ขยายอิทธิพลของจีน และคำขู่ทางนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ

คำเตือนเกี่ยวกับสงครามเทอร์โมนิวเคลียร์ มีขึ้นพร้อมๆ กับที่เกาหลีเหนือบอกว่าพวกเขาจะปล่อยดาวเทียมดวงหนึ่งขึ้นสู่วงโคจร ระหว่างวันที่ 24 สิงหาคม ถึง 31 สิงหาคม ในทิศทางทะเลเหลืองและทะเลจีนตะวันออก จากการเปิดเผยของยามชายฝั่งญี่ปุ่นในวันอังคาร (22 ส.ค.) หลังจากเคยส่งดาวเทียมขึ้นสู่ท้องฟ้ามาแล้วหนหนึ่งในเดือนพฤษภาคม แต่หนนั้นประสบความล้มเหลว

ทำเนียบนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คูชิดะ โพสต์ข้อความลงบนแฟลตฟอร์ม X ซึ่งอดีตมีชื่อว่าทวิตเตอร์ ระบุญี่ปุ่นจะร่วมมือกับเกาหลีใต้และสหรัฐฯ ในการเฝ้าสังเกตการณ์การปล่อยดาวเทียมดังกล่าว ในขณะที่ยามชายฝั่งเสริมว่า หากมีการส่งดาวเทียมขึ้นสู่ท้องฟ้าจริง มีความเป็นไปได้ที่มันจะตกลงนอกเขตเศรษฐกิจจำเพาะของญี่ปุ่น

ก่อนหน้านี้ บรรดาสมาชิกรัฐสภาของเกาหลีใต้เคยออกมาชี้ว่าเกาหลีเหนืออาจยิงทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกล หรือใช้ความเคลื่อนไหวทางทหารอื่นๆ เพื่อประท้วงการซ้อมรบร่วมระหว่างพันธมิตร เช่นเดียวกับการประชุมซัมมิตระหว่างเกาหลีใต้ สหรัฐฯ และญี่ปุ่น เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

เกาหลีเหนือเคยปล่อยดาวเทียมดวงหนึ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม แต่มันจบลงด้วยการดิ่งลงสู่ทะเล โดยจรวดปล่อยดาวเทียมรุ่นใหม่ ชอลลีมา-1 (Chollima-1) เกิดขัดข้อง สืบเนื่องจากความไม่เสถียรในเครื่องยนต์และระบบเชื้อเพลิง ตามรายงานของเคซีเอ็นเอ

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นความพยายามปล่อยดาวเทียมครั้งที่ 6 ของเกาหลีเหนือ และเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2016 ซึ่งคาดหวังกันว่าจะเป็นการนำดาวเทียมสอดแนมดวงแรกของเกาหลีเหนือขึ้นสู่วงโคจร

ทั้งนี้ การปล่อยดาวเทียมของเกาหลีเหนือในครั้งนั้น กระตุ้นให้มีการประกาศแจ้งเตือนฉุกเฉินและอพยพช่วงสั้นๆ ในหลายพื้นที่ของเกาหลีใต้และญี่ปุ่น แต่ไม่มีรายงานเกี่ยวกับภัยอันตราย หรือความเสียหายใดๆ

(ที่มา : รอยเตอร์)