เกาหลีเหนือกล่าวหาสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี (24 ส.ค.) กำลังผลักวิกฤตยูเครนเข้าสู่หายนะนิวเคลียร์ระดับโลก ด้วยการจัดหาเครื่องบินขับไล่ F-16 แก่กองกำลังเคียฟ พร้อมระบุวอชิงตันไม่มีสิทธิวิพากษ์วิจารณ์ความร่วมมือทางทหารระหว่างเปียงยางกับรัสเซีย
ก่อนหน้านี้ เกาหลีเหนือเคยประณามวอชิงตัน เกี่ยวกับการจัดหาอาวุธต่างๆ แก่ยูเครน ในนั้นรวมถึงกระสุนคลัสเตอร์ และปฏิเสธข่าวลือที่ว่าพวกเขาส่งมอบปืนใหญ่ จรวดและขีปนาวุธ ให้รัสเซีย แม้พวกเขาแสดงจุดยืนสนับสนุนมอสโกในสงครามกับยูเครน
ถ้อยแถลงของ คัง ซุน นัม รัฐมตรีกลาโหมของเกาหลีเหนือ ที่เผยแพร่ผ่านทางสำนักข่าวเคซีเอ็นเอ ระบุว่า สหรัฐฯ ไม่สิทธิทางกฎหมายหรือคำกล่าวอ้างทางศีลธรรมในการวิพากษ์วิจารณ์ความสัมพันธ์ตามปกติระหว่าง 2 รัฐอธิปไตย ในขอบเขตของการป้องกันตนเอง
เปียงยาง เสาะแสวงหาความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับรัสเซีย และเมื่อเดือนที่แล้วได้เชิญ เซียร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมมอสโก เข้าร่วมพิธีรำลึกครบรอบ 70 ปี วันสิ้นสุดสงครามเกาหลี
"สหรัฐฯ คือผู้อยู่เบื้องหลังของการผลักวิกฤตยูเครนเข้าสู่ขอบเหวของสงครามนิวเคลียร์ระดับโลก ด้วยการจัดหาเครื่องบินขับไล่ F-16 แก่รัฐบาลหุ่นเชิดเซเลนสกี" คังกล่าว อ้างถึงประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน
"เป็นอีกครั้ง เราส่งสารแสดงจุดยืนสนับสนุนและแสดงความเป็นหนึ่งเดี่ยวกันต่อการต่อสู้เพื่อความยุติธรรมของประชาชนชาวยูเครน ที่ต่อสู้เพื่อปกป้องสิทธิอธิปไตยของตนเองและเป้าหมายความยุติธรรมระดับสากล และเราจะเพิ่มความเป็นมิตรทางทหารกับรัสเซียอีก 100 เท่า" คังระบุ
รัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนเต็มรูปแบบในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 โดยเรียกมันว่าเป็น "ปฏิบัติการพิเศษด้านการทหาร" เพื่อกำจัดภัยคุกคามด้านความมั่นคงที่โผล่ขึ้นมาจากความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นขึ้นระหว่างเคียฟกับตะวันตก ทั้งนี้ ยูเครนและบรรดาผู้สนับสนุนตะวันตก เรียกการกระทำของรัสเซียว่าเป็นการทำสงครามพิชิตดินแดนโดยปราศจากการยั่วยุใดๆ
สหรัฐฯ เห็นชอบให้ชาติพันธมิตรอย่างเดนมาร์กและเนเธอร์แลนด์ ส่งมอบเครื่องบินขับไล่ F-16 แก่ยูเครน สำหรับใช้ในปฏิบัติการโจมตีตอบโต้กลับกองกำลังรัสเซีย
(ที่มา : รอยเตอร์)