ทำเนียบขาวเมื่อวันพุธ (13 ก.ย.) รุดออกมาตอบโต้ ระบุคำกล่าวหาที่ว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน กระทำผิดในกรณีเกี่ยวพันกับการทำธุรกิจระหว่างลูกชายกับต่างชาติ เป็นข้อกล่าวหาที่ "ไร้หลักฐาน" หลังจากบรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากรีพับลิกัน เริ่มต้นกระบวนการไต่สวนเพื่อถอดถอนเขาพ้นจากตำแหน่ง
ในขณะที่ประธานาธิบดีวัย 80 ปี จากพรรคเดโมแครต ยังคงปิดปากเงียบเมื่อถูกพวกผู้สื่อข่าวสอบถามเกี่ยวกับการไต่สวน แต่ทางโฆษกหญิงของเขาออกมาตอบโต้ความเคลื่อนไหวสืบสวนของเหล่าคู่อริทางการเมืองของผู้นำรายนี้
"พวกเขาใช้เวลาทั้งปีสืบสวนประธานาธิบดี และปรากฏว่าไม่มีหลักฐานใดๆ ไม่มี เขาไม่ได้ทำอะไรผิด" คารีน ฌอง-ปิแอร์ เลขานุการฝ่ายสื่อสารมวลชนของทำเนียบขาวบอกกับบรรดาผู้สื่อข่าว "นั่นเพราะว่าประธานาธิบดีไม่ได้ทำอะไรผิด"
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เควิน แม็คคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรจากรีพับลิกัน โอนอ่อนต่อแรงกดดันจากพวกขวาจัดภายในพรรคของเขา และอนุมัติเปิดการไต่สวนเพื่อถอนถอนประธานาธิบดีไบเดน เมื่อวันอังคาร (12 ก.ย.)
เหล่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากรีพับลิกัน กล่าวหา ไบเดน ว่าโกหกประชาชนชาวอเมริกา เกี่ยวกับการทำธุรกิจอันเป็นที่ถกเถียงของ ฮันเตอร์ ผู้เป็นลูกชายในต่างแดน
แต่ทาง ฌอง-ปิแอร์ กล่าวว่า รีพับลิกันไม่มีแม้กระทั่งเสียงสนับสนุนมากพอสำหรับลงมติโหวตในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเห็นชอบการไต่สวนถอดถอน "แม้กระทั่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรีพับลิกัน ยังบอกว่าหลักฐานไม่มีอยู่จริง นี่เป็นเพียงการเล่นละครทางการเมืองเท่านั้น"
การไต่สวนเกิดขึ้นในขณะที่คะแนนนิยมของ ไบเดน กำลังทรุดลงอย่างต่อเนื่องก่อนหน้าศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีในปีหน้า ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นการต่อสู้กันอีกครั้งกับอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
การเจรจาต่อรองทางธุรกิจของ ไบเดน คนลูก ในยูเครนและจีน ระหว่างที่พ่อของเขาดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดี ภายใต้รัฐบาลของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ตกเป็นเป้าหมายของรีพับลิกันมาอย่างต่อเนื่อง
ฮันเตอร์ ไบเดน ซึ่งกำลังบำบัดฟื้นฟูการติดยา ปัจจุบันอยู่ภายใต้การสืบสวนของที่ปรึกษาพิเศษรายหนึ่งแห่งกระทรวงยุติธรรม ในความเป็นไปได้ของการหลีกเลี่ยงภาษี และคาดหมายว่าจะถูกตั้งข้อหาอีกคดีในช่วงสิ้นเดือนนี้ โทษฐานครอบครองอาวุธปืนอย่างผิดกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม เอเอฟพีระบุว่า เขายังไม่ได้ถูกตั้งข้อหาทางอาญาใดๆ ที่เกี่ยวข้องการต่อรองทางธุรกิจของเขาในต่างแดน และจนถึงตอนนี้หลังไม่ปรากฏหลักฐานที่น่าเชื่อถือ ว่าตัวประธานาธิบดีมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมายใดๆ
กระนั้นก็ตาม การไต่ส่วนครั้งนี้เสี่ยงทำให้ทำเนียบขาวไขว้เขว และมอบเครื่องมือการโจมตีใหม่แก่รีพับลิกัน ก่อนถึงศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพฤศจิกายน 2024
ไบเดน มีคะแนนนิยมนำหน้า ทรัมป์ เล็กน้อย แค่ 47% ต่อ 46% จากผลสำรวจความคิดเห็นระดับชาติของมหาวิทยาลัย Quinnipiac ในนั้นกว่าครึ่งคิดว่า โจ ไบเดน เกี่ยวข้องกับการเจรจาต่อรองทางธุรกิจกับจีนและยูเครนของฮันเตอร์ และ 35% เชื่อว่าประธานาธิบดีทำผิดกฎหมายบางอย่าง
ที่ผ่านมา ยังไม่เคยมีประธานาธิบดีคนใดพ้นตำแหน่งจากกระบวนการถอดถอน โดยมีเพียง 3 คนที่สภาผู้แทนราษฎรมีมติสนับสนุนการยื่นถอดถอน โดยโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพียงคนเดียวที่สภาผู้แทนราษฎรมีมติยื่นถอดถอนเขาถึง 2 ครั้ง แต่รอดมาได้เมื่อวุฒิสภาลงมติว่าไม่ได้กระทำผิด
(ที่มา : เอเอฟพี)