ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เมื่อวันอังคาร (12 ก.ย.) ระบุการดำเนินคดี โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีแรงจูงใจทางการเมืองและเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึง "ความเน่าเฟะ' ของระบบการเมืองอเมริกา
ทรัมป์ ซึ่งสมัครชิงเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกัน สู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2024 กำลังเผชิญคดีความทางอาญาหลายคดี ในนั้นรวมถึงคำกล่าวหาที่ว่า พยายามล้มผลเลือกตั้งประธานาธิบดี 2020 ที่เขาพ่ายแพ้ให้แก่ โจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต
ทั้งนี้ ทรัมป์ปฏิเสธยอมรับผิด ส่วน ไบเดน ซึ่งก็ประกาศลงสมัครหวังกลับมาดำรงตำแหน่งอีกสมัย ยังคงปิดปากเงียบเกี่ยวกับการดำเนินคดีเล่นงานคู่แข่งคนสำคัญของเขา
ปูติน กล่าวว่าจากมุมมองของรัสเซีย สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับทรัมป์ เป็นเรื่องดี เนื่องจาก "มันแสดงให้เห็นทุกความเน่าเหม็นของระบบการเมืองอเมริกา ซึ่งไม่อาจอวดอ้างสอนคนอื่นเกี่ยวกับประชาธิปไตย" เขากล่าว ณ เวทีสัมมนาหนึ่งในเมืองวลาดิวอสต็อก ทางตะวันออกไกลของรัสเซีย
"ทุกๆ สิ่งที่เกิดขึ้นกับทรัมป์ คือการดำเนินคดีที่มีแรงจูงใจทางการเมือง หนึ่งในคู่ปรับทางการเมือง มันเป็นการกระทำต่อหน้าต่อตาประชาชนชาวสหรัฐฯ และคนทั่วโลก พวกเขาเพิ่งเผยให้เห็นถึงปัญหาภายในของตนเอง" ปูตินกล่าว
ประธานาธิบดีรัสเซีย ยังบอกด้วยว่า "ในแง่นี้ ถ้าพวกเขาพยายามต่อสู้กับเราในทางใดทางหนึ่ง มันเป็นเรื่องดี เพราะมันแสดงให้เห็นว่าใครกันที่เรากำลังสู้ด้วย มันแสดงให้เห็นว่า ในขณะที่พวกเขากล่าวอ้างว่าเรากำลังย้อนเวลาสู่สหภาพโซเวียต แต่มันเป็นการพูดด้วยใบหน้าที่ร้ายกาจของจักรวรรดินิยมอเมริกา การแสยะยิ้มของสัตว์ป่า"
ก่อนหน้านี้ในฐานะประธานาธิบดี ทรัมป์ เคยถูกสืบสวนเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการสมคบคิดกับรัสเซีย แต่การสืบสวนของ โรเบิร์ต มุลเลอร์ ที่ปรึกษาพิเศษไม่พบหลักฐานเพียงพอที่จะชี้ว่า ทีมหาเสียงของทรัมป์ ร่วมมือกับมอสโก ก่ออิทธิพลเหนือศึกเลือกตั้งปี 2016 ซึ่งเขาเป็นฝ่ายเอาชนะนางฮิลลารี คลินตัน
ปูติน กล่าวว่าความคิดที่ว่า ทรัมป์ มีความสัมพันธ์พิเศษกับรัสเซีย เป็นเรื่องไร้สาระโดยสิ้นเชิง
เขาบอกด้วยว่าความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯและรัสเซีย คงไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญใดๆ แม้ว่าใครจะเป็นผู้ชนะศึกเลือกตั้งสหรัฐฯ ปี 2024 เพราะว่ารัฐบาลอเมริกา ฝังหัวประชาชนว่ารัสเซียเป็นศัตรูคู่อาฆาตของพวกเขา "ไม่สำคัญว่าใครจะได้รับเลือก นโยบายต่อต้านรัสเซียของสหรัฐฯ ดูเหมือนจะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ"
ความสัมพันธ์ระหว่างมอสโกกับวอชิงตัน ตึงเครียดอยู่ก่อนแล้วครั้งที่ ทรัมป์ ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี แต่เวลานี้มันดำดิ่งแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่หลังยุคสงครามเย็น ภายใต้การบริหารงานของไบเดน ตามหลัง ปูติน ตัดสินใจส่งทหารหลายหมื่นนายบุกเข้าไปในยูเครน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2022 กระตุ้นให้ตะวันตกกำหนดมาตรการคว่ำบาตรเป็นชุดๆ และมอบความช่วยเหลือด้านการทหารแก่เคียฟไปแล้วหลายรอบ
(ที่มา : รอยเตอร์)