ถ้าเป็นเรื่องจริงนับว่าคนอเมริกันจะได้รับรู้และถกเถียงกันถึงพฤติกรรมฉาวโฉ่ของอดีตผู้นำทำเนียบขาวซึ่งครั้งนี้เป็นนายบารัค โอบามา
ทัคเกอร์ คาร์ลสัน อดีตพิธีกรดังชายของฟอกซ์นิวส์ ได้สัมภาษณ์ชายรายหนึ่งซึ่งอ้างว่าได้เคยมีเพศสัมพันธ์กับโอบามา ในช่วงที่หาเสียงก่อนเป็นประธานาธิบดี
ข้อกล่าวหานี้ยังได้รับการสนับสนุนจากเครือญาติของโอบามาว่าอดีตผู้นำทำเนียบขาวมีพฤติกรรมชายชอบชายจริงและมีหลักฐานพิสูจน์ได้
ชายอเมริกันที่ให้สัมภาษณ์รายนี้ชื่อ แลรี ซินแคลร์ Larry Sinclair ซึ่งเคยอ้างในปี 2008 ว่าได้มีเพศสัมพันธ์กับโอบามา และเสพกัญชาด้วยกัน
แต่สื่ออเมริกันช่วงนั้นไม่สนใจกับคำกล่าวอ้าง เพราะคนมาพูดเคยมีคดีอาญาติดคุก ทำให้คำพูดไม่น่าเชื่อถือ และโอบามาเป็นตัวเด่น จะมีอำนาจด้วย
การที่คาร์ลสันมาสัมภาษณ์ซักรายละเอียด ทำให้ดูมีน้ำหนัก และคาร์ลสันเป็นสื่อคนดังอันดับต้นๆ ของสหรัฐฯ มีผู้ติดตามรายการมาก
ซินแคลร์เล่าให้ฟังว่าได้พบปะกับโอบามาในช่วงที่ยังเป็นนักการเมืองระดับวุฒิสมาชิก ยังไม่ดังมากนัก
คาร์ลสันปล่อยคลิปสั้น 1 นาที ตัดเป็นช่วงๆ โปรโมตรายการก่อนโชว์วันพุธ ก็ยังมีคนชมกว่า 4 ล้านคน หลังจากเอาขึ้นโพสต์ 1 ชั่วโมงเท่านั้น
นับว่าเป็นรายการที่จะดึงดูดคนอเมริกันและทั่วโลกให้ดูรายการในวันที่ออกเต็มรูปแบบและน่าจะเรียกเรตติ้งของรายการมากขึ้น
ถือว่าเป็นความเสี่ยงของคาร์ลสัน และเป็นเดิมพันสำหรับความน่าเชื่อถือเพราะเป็นคนดังระดับอดีตประธานาธิบดีสองสมัยและโอบามา ยังมีคนชื่นชอบอยู่มากในวัย 62 ปี
ถ้าเป็นเรื่องจริงจะสร้างความเสียหายไม่ใช่เฉพาะโอบามาเท่านั้นแต่คุณนายมิเชลด้วย ที่จะต้องอับอายไปด้วย ขึ้นอยู่กับว่าเธอรู้ความจริงว่าสามีของเธอมีรสนิยมแฝงเร้นอย่างนั้นหรือไม่
นายซินแคลร์ อ้างว่าได้ถูกแนะนำให้รู้จักกับโอบามาในบาร์ในเมืองชิคาโกในเดือนพฤศจิกายนปี 1999 แต่ตอนนั้นไม่รู้ว่าโอบามาเป็นวุฒิสมาชิกของรัฐอิลลินอยส์
นายซินแคลร์ อ้างว่าได้มีเพศสัมพันธ์กับโอบามาสองรอบแล้วทั้งคู่ก็ได้เสพโคเคนด้วยกันและก็ได้เห็นคนที่จะเป็นประธานาธิบดีในอนาคตเสพสารเสพติดในรถลีมูซีนด้วย
ก่อนหน้านั้นในปี 2008 ซินแคลร์ก็ไปเล่าเรื่องนี้ให้กับสมาคมหนังสือพิมพ์ของ สหรัฐฯ และในหนังสือที่ได้รับการตีพิมพ์ในปี 2009
และยังอ้างว่า โอบามาได้มีความสัมพันธ์แบบเกย์กับผู้ควบคุมวงดนตรีในโบสถ์และชายคนนั้นโดนสังหารในเดือนธันวาคมปี 2007 ขณะที่โอบามารณรงค์เพื่อตำแหน่งประธานาธิบดี
เมื่อถูกถามว่าทำไมสื่อต่างๆ ในกรุงวอชิงตันให้ความสนใจน้อยเกี่ยวกับเรื่องนี้และคนที่เลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2008 ก็ไม่ใส่ใจ นายซินแคลร์ บอกว่าความจริงคงถูกเปิดเผยแล้วถ้าสื่ออเมริกัน อยากแสวงหาความจริง
คาร์ลสัน อ้างว่าการที่สื่อมวลชนอเมริกันไม่ให้ความสนใจเรื่องนี้เพราะฝ่ายรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของโอบามาขู่ว่าจะไม่ให้ร่วมขบวนติดตามทำข่าวถ้าเล่นเรื่องที่ซินแคลร์นำมาเปิดเผย
คาร์ลสันบอกว่า การโกหกเรื่องราวต่างๆ ในสื่อมวลชนของอเมริกาเป็นเรื่องปกติและรัฐบาลก็ใช้ประเด็นเรื่องนี้ในการโกหกประชาชนด้วย
ทั้งยังบอกว่านายซินแคลร์ ได้เขียนคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษรและพูดผ่านเครื่องจับเท็จแสดงให้เห็นว่าเรื่องที่ตัวเองอ้างเป็นความจริง
น้องชายของโอบามาที่อยู่ในประเทศเคนยาก็ได้ลงในโซเชียลมีเดียว่าโอบามา เป็นชาวเกย์แน่นอนแล้วก็อ้างว่าตัวเองได้รับรู้สภาวะเช่นนั้นด้วย
ต้องมารอดูว่าหลังจากคนอเมริกันได้ชมรายการเต็มแล้วจะมีความเห็นอย่างไรกับโอบามา รวมทั้งคุณนายจะว่าอย่างไรจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายหรือไม่
เรื่องนี้จะเป็นประเด็นสำคัญเพราะมีข่าวว่าคุณนายของโอบามาอาจจะลงชิงตำแหน่งแทนพรรคเดโมแครต เป็นประธานาธิบดีถ้า โจ ไบเดนไปไม่ไหว
นี่จึงเป็นเรื่องสนุกฉาวโฉ่ช่วงการหาเสียงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีแย่งซีนจากโดนัลด์ ทรัมป์ และโจ ไบเดน ซึ่งก็มีคดีของตัวเองด้วย