xs
xsm
sm
md
lg

มาถึงจุดจบสุดสยอง -- ‘ปรีโกจิน’ และ ‘อุตกิน’ 2 ผู้ก่อตั้งกลุ่มนักรบรับจ้าง ‘วากเนอร์กรุ๊ป’

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: สตีเฟน ไบรเอน ***


ภาพถ่ายของเยฟเกนี ปรีโกจิน และดมิตริ อุตกิน ถูกนำมาประดับไว้ที่ด้านหน้าสำนักงานบริษัททหารรับจ้างเอกชน วากเนอร์ ในเมืองโนโวซิบิร์สก์ ทางแคว้นไซบีเรีย ของรัสเซีย เมื่อวันพฤหัสบดี (24 ส.ค.) และมีพวกนักรบวากเนอร์ตลอดจนคนอื่นๆ มาวางดอกไม้แสดงความไว้อาลัย ภายหลังมีรายงานข่าวว่าเครื่องบินที่ทั้งคู่นั่งไปตกลงมาโหม่งโลกนอกกรุงมอสโก ในตอนค่ำวันพุธ (23)
(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.atimes.com)

A pretty terrible ending for Wagner force’s bosses
By STEPHEN BRYEN
24/08/2023

ทั้งปรีโกจิน, อุตกิน ต่างถูกระบุในรายงานข่าวว่าเสียชีวิตไปทั้งคู่ในเหตุเครื่องบินตกที่ด้านนอกของกรุงมอสโก เมื่อค่ำวันพุธ (23 ส.ค.) พวกวากเนอร์อ้างว่าเครื่องบินลำนี้ถูกยิงตก ซึ่งถ้าเป็นจริงก็ทำให้เรานึกย้อนไปถึงกรณีของหลิน เปียว

เยฟเกนี ปรีโกจิน (Yevgeny Prigozhin) และ ดมิตริ อุตกิน (Dimitry Utkin) ซึ่งร่วมกันก่อตั้งกลุ่มวากเนอร์กรุ๊ป (Wagner Group) ขึ้นมา เสียชีวิตในเหตุการณ์เครื่องบินตกที่บริเวณนอกกรุงมอสโก (เมื่อค่ำวันพุธที่ 23 ส.ค. ตามเวลาในรัสเซีย)



ทั้งชื่อของปรีโกจิน และของอุตกิน ปรากฏอย่างชัดเจนในบัญชีรายชื่อผู้ที่อยู่บนเครื่องบินลำนี้ก่อนที่มันจะทะยานขึ้น

มีคำแถลงฉบับหนึ่งออกมาจากกลุ่มวากเนอร์ ระบุว่าเครื่องบินลำนี้ถูกยิงตก

ขณะที่รายงานข่าวหลายกระแสบอกว่า ได้ยินเสียงระเบิด 2 ครั้งก่อนที่เครื่องบินจะตกดำดิ่งลงมาโหม่งโลก

มีคลิปวิดีโออยู่คลิปหนึ่งแสดงให้เห็นเครื่องบินลำนี้กำลังหล่นลงจากท้องฟ้าในอาการควบคุมไม่อยู่ คลิปนี้ถ่ายโดยพลเมืองผู้หนึ่งโดยใช้โทรศัพท์มือถือจากสวนของเธอ พลเมืองหญิงผู้นี้น่าที่จะได้ยินเสียงระเบิดจึงรีบออกมาดู และได้ถ่ายวิดีโอบันทึกสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น

จากคลิปคุณสามารถมองเห็นว่าตอนที่เครื่องบินตกนั้นมีควันลอยออกมาเป็นทางยาว

มีการคาดเดากันว่า เครื่องบินลำนี้ซึ่งเป็นเครื่องเอมบรีเออร์ 6000 (Embraer 6000 เครื่องบินไอพ่นธุรกิจผลิตในบราซิล) ที่จดทะเบียนหมายเลข RA-02795 อยู่บนฟ้าได้เพียงแค่ไม่กี่นาทีแล้วก็ถูกยิงตก มันขึ้นมาจากสนามบินเชเรเมทีโว (Sheremetyevo) ของกรุงมอสโก และกำลังมุ่งหน้าไปเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก

บริเวณที่เครื่องบินลำนี้ตกอยู่ห่างเพียงไม่กี่กิโลเมตรจากกรุงมอสโก ทั้งนี้ผู้โดยสารซึ่งปรากฏอยู่ในบัญชีรายชื่อ มีทั้งปรีโกจิน และอุตกิน ตลอดจนคนอื่นๆ อีก 7 คน

ยังมีรายงานข่าวอื่นๆ ที่บอกว่า ปรีโกจินใช้เครื่องบินเอมบรีเออร์อีกลำหนึ่ง ซึ่งเป็นโมเดล 650 โดยเครื่องบินลำดังกล่าวออกจากมอสโกมุ่งหน้าสู่เบลารุส ข่าวนี้กำลังมีการเผยแพร่กันอยู่ ทว่าจวบจนถึงเวลานี้แม้กระทั่งพวกสื่อรัสเซียเองก็ยังคงรายงานว่า ปรีโกจิน อยู่บนเอมบรีเออร์ลำที่ตก

หลิน เปียว และเหมา เจ๋อตง ในภาพโปสเตอร์ยุคการปฏิวัติวัฒนธรรมของจีน เมื่อครั้งที่ หลิน ยังเรืองอำนาจมาก
ถ้าหากเครื่องบินลำนี้ถูกยิงตก เรื่องราวก็ชวนให้นึกย้อนรอยกลับไปถึงจุดจบอย่างน่าสยองของหลิน เปียว (Lin Biao) ที่เวลานั้นได้รับการวางตัวให้เป็นทายาทสืบทอดตำแหน่งต่อจาก เหมา เจ๋อตง โดยที่เครื่องบินของเขาตกในมองโกเลียเมื่อวันที่ 13 กันยายน 1971 ขณะที่มีข่าวลือว่าเขาและครอบครัวกำลังพยายามหลบหนีภายหลังก่อรัฐประหารยึดอำนาจไม่สำเร็จ
(ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://en.wikipedia.org/wiki/Lin_Biao)

การที่ทั้ง ปรีโกจิน และอุตกิน ถูกกำจัดไปเช่นนี้ ทำให้กลุ่มวากเนอร์ตกอยู่ในสถานการณ์ที่จำเป็นจะต้องหาคณะผู้นำอะไรสักอย่างเข้ามา วากเนอร์เวลานี้มีบทบาทคึกคักอยู่ในเบลารุส และก็ในแอฟริกาด้วย เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้า เพิ่งมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอ แสดงให้เห็น ปรีโกจิน กำลังยืนอยู่ที่ไหนสักแห่งหนึ่งในภูมิภาคซาเฮล (Sahel) ของทวีปแอฟริกา และประกาศ “วันใหม่” สำหรับรัสเซียและแอฟริกา

ในวิดีโอดังกล่าว ปรีโกจินพูดว่า “เรากำลังทำงาน อุณหภูมิตอนนี้ +50 ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นอย่างที่เราชอบ กลุ่มวากเนอร์ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนและค้นหา เราทำให้รัสเซียยิ่งใหญ่มากขึ้นไปอีกในทุกๆ ทวีป! เราทำให้แอฟริกาเป็นเสรี ยุติธรรมยิ่งขึ้น และอำนวยความสุขให้แก่ประชาชนชาวแอฟริกามากขึ้น เราคือฝันสยองสำหรับ “ไอซิส” “อัลกออิดะห์” และพวกผู้ก่อการร้ายอื่นๆ เราว่าจ้างพวกฮีโร่ตัวจริง และเดินหน้าเติมเต็มภารกิจที่กำหนดเอาไว้ให้กับเรา และเพื่อเติมเต็มตามคำมั่นสัญญาที่เราได้ให้ไว้ว่าเราสามารถที่จะจัดการได้”

เซียร์เก ซูโรวิกิน มีรายงานว่าถูกปลดแล้วเมื่อวันพุธ (23 ส.ค.) ที่ผ่านมา เขาหายหน้าหายตาไปโดยมีข่าวว่าถูกควบคุมตัว ภายหลังการก่อรัฐประหารของกลุ่มวากเนอร์นำโดยปรีโกจิน ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
เมื่อวานนี้ (พุธ 23 ส.ค.) ปูตินยังได้สั่งปลด เซียร์เก ซูโรวิกิน (Sergey Surovikin) ผู้บัญชาการสูงสุดของกองกำลังการบินและอวกาศของรัสเซีย ผู้ซึ่งเป็นหมายเลขสองรองลงมาจากปรีโกจินเท่านั้นระหว่างการสู้รบในเมืองบัคมุต (Bakhmut) ยังไม่มีความแน่นนอนว่าเกิดอะไรขึ้นกับซูโรวิกิน (ผู้ซึ่งหายหน้าหายตาไปไม่ได้ถูกพบเห็นตัวเป็นเวลา 2 เดือนแล้ว)

ข่าวที่ลือๆ กันระบุว่าเขาถูกจับกุมและถูกควบคุมตัวในลักษณะของการกักตัวให้อยู่แต่ในบ้านพักบางรูปแบบ และถูกซักถามเกี่ยวกับบทบาทของเขาในการก่อรัฐประหารที่ประสบความล้มเหลวของกลุ่มวากเนอร์ ทั้งนี้ในขณะที่กองกำลังวากเนอร์เพิ่งเคลื่อนเข้าไปในเมืองรอสตอฟออนดอน (Rostov on Don) ซึ่งเป็นการท้าทายกองทัพและความเป็นผู้นำของปูตินนั้น ซูโรวิกินได้บันทึกคลิปวิดีโอซึ่งตัวเขาได้พูดรบเร้ากองกำลังวากเนอร์ให้ถอยกลับไป และอย่าได้ดำเนินปฏิบัติการใดๆ

ไม่เคยเป็นที่กระจ่างชัดเจนเลยว่า คลิปวิดีโอดังกล่าวเป็นคลิปซึ่งจัดทำขึ้นมาอย่างหนักแน่นจริงจัง หรือเป็นเพียงสิ่งที่เจตนาทำขึ้นมาเพื่อให้ตัวซูโรวิกินเองมีข้อแก้ตัว ถ้าหากแผนยึดอำนาจของวากเนอร์ประสบความล้มเหลว

ย้อนหลังกลับไปเมื่อปี 2018 ปูตินถูกตั้งคำถามสำคัญ และคำตอบของเขาก็ควรต้องหยิบยกขึ้นมาพิจารณา ดังนี้:

ถาม : คุณสามารถที่ยกโทษให้อภัยคนอื่นได้ไหม?

ปูตินตอบ : ได้ครับ แต่ไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างนะ

ถาม : อะไรบ้างที่ไม่สามารถยกโทษให้อภัยได้?

ปูติน : การทรยศหักหลัง


ใครๆ ก็คงจะต้องสันนิษฐานกันว่า ถ้าหากว่ามีการยืนยันในท้ายที่สุดว่า ปรีโกจิน และอุตกิน ตายแล้วทั้งคู่ การปฏิบัติการของกลุ่มวากเนอร์ก็จะต้องถูกเทกโอเวอร์โดยพวกเจ้าหน้าที่ซึ่งมีความเป็นมิตรกับกองทัพและกับวลาดิมีร์ ปูติน แต่เรื่องนี้อาจจะไม่ใช่ภารกิจที่ง่ายๆ สบายๆ หรอก พวกสมาชิกของกลุ่มวากเนอร์นั้นมีความเป็นอิสระอย่างร้ายกาจมากๆ และมีความผูกพันใกล้ชิดกับ ปรีโกจิน และอุตกิน

อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นความจริงว่าถ้ารายงานข่าวนี้ได้รับการยืนยัน โอกาสที่ปูตินจะยึดครองตำแหน่งประธานาธิบดีของรัสเซียเอาไว้ต่อไป ก็จะเพิ่มทวีขึ้นมาอย่างสำคัญ

กระนั้นก็ตามที สำหรับ ปรีโกจิน อุตกิน และคนอื่นๆ นี่ช่างเป็นจุดจบที่น่าสยดสยองจริงๆ

สตีเฟน ไบรเอน เป็นนักวิจัยอาวุโสอยู่ที่ Center for Security Policy และ Yorktown Institute ข้อเขียนนี้หนแรกสุดเผยแพร่อยู่ในบล็อก Substack, Weapons and Strategy ของผู้เขียน
กำลังโหลดความคิดเห็น