ถล่มเละ! รัสเซียโจมตีท่าเรือยูเครนริมแม่น้ำดานูบ ทำราคาอาหารตลาดโลกทะยานทันตาเห็น

รัสเซียโจมตีท่าเรือแห่งสำคัญริมแม่น้ำดานูบเมื่อวันพุธ (2 ส.ค.) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางส่งออกธัญพืชที่ยูเครนพยายามจัดตั้งขึ้นมา เพื่อใช้ทดแทนการขนส่งผ่านทะเลดำซึ่งมอสโกประกาศถอนตัวไม่เอาด้วยก่อนหน้านี้ ส่งผลให้ราคาอาหารในตลาดโลกพุ่งทะยานทันตา นอกจากนั้นแดนหมีขาวยังส่งโดรนโจมตีกรุงเคียฟและพื้นที่ใกล้เคียงเมื่อคืนวันอังคาร (1)

กระทรวงกลาโหมยูเครนแถลงว่า ไซโลเก็บธัญพืชในท่าเรืออิซมาอิล ริมแม่น้ำดานูบในแคว้นโอเดสซาเสียหายจากการโจมตีของรัสเซีย และสำทับกล่าวโทษแดนหมีขาวว่า ธัญพืชของยูเครนนั้นเป็นประโยชน์ใช้เลี้ยงประชากรโลกได้นับล้านๆ

ท่าเรือของยูเครนแห่งนี้ซึ่งอยู่คนละฝั่งแม่น้ำกับโรมาเนียที่เป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) เป็นเส้นทางตัวเลือกหลักในการส่งออกธัญพืชของยูเครน นับจากรัสเซียกลับมาปิดกั้นท่าเรือต่างๆ ของยูเครนในทะเลดำอีกครั้งเมื่อกลางเดือนที่แล้ว

โอเลห์ คีเปอร์ ผู้ว่าการแคว้นโอเดสซา โพสต์บนแอปเทเลแกรมว่า ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่มีความเสียหายซึ่งรวมถึงไซโลเก็บธัญพืช 2 แห่ง ถือเป็นการโจมตีที่สร้างความเสียหายรุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งที่เกิดขึ้นทางภาคใต้ของยูเครน และสำทับว่า ผู้ก่อการร้ายรัสเซียได้กลับมาโจมตีท่าเรือ ธัญพืช และความมั่นคงทางอาหารโลกอีกครั้ง

ด้านแหล่งข่าวในอุตสาหกรรมยืนยันว่า อิซมาอิลเป็นเป้าหมายหลักในการโจมตีโดยระบุว่า มีความเสียหายรุนแรง

ข่าวการโจมตีนี้ส่งผลให้ราคาธัญพืชในตลาดชิคาโกพุ่งขึ้น 4% เมื่อเช้าวันพุธ และยังบวกต่อประมาณ 2.5% ในช่วงสาย โดยเทรดเดอร์กลับมากังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่ออุปทานอาหารโลกจากการที่รัสเซียพยายามกดดันให้ยูเครนที่เป็นหนึ่งในผู้ส่งออกธัญพืชรายใหญ่ที่สุดหลุดออกจากตลาด

ทั้งนี้ รัสเซียระดมโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านเกษตรกรรมและท่าเรือของยูเครนไม่หยุดหย่อนมานานกว่า 2 สัปดาห์ ภายหลังที่ปฏิเสธไม่ต่ออายุข้อตกลงหยุดการปิดกั้นท่าเรือของยูเครนในทะเลดำ โดยกล่าวหาว่าฝ่ายตะวันตกและยูเครนไม่ได้ปฏิบัติตามสัญญา ในการอำนวยความสะดวกให้รัสเซียสามารถส่งออกธัญพืชและปุ๋ยของตนได้ด้วย

ขณะเดียวกัน เครมลินเผยว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ย้ำกับประธานาธิบดีไตยิป แอร์โดอัน ของตุรกี ระหว่างหารือทางโทรศัพท์ว่า รัสเซียจะกลับเข้าร่วมข้อตกลงนี้อีกครั้ง ถ้ามีการดำเนินการเพื่อแก้ไขปรับปรุงเงื่อนไขให้แดนหมีขาวส่งออกอาหารและปุ๋ยได้อย่างเป็นจริง

นอกจากนั้น มอสโกแจงว่า การโจมตีโดยเฉพาะต่อเมืองโอเดสซาในช่วงหลังๆ มานี้ มีจุดมุ่งหมายเป็นการแก้แค้นที่ยูเครนโจมตีสะพานเคิร์ช ซึ่งเป็นเส้นทางติดต่อสำคัญระหว่างคาบสมุทรไครเมียกับดินแดนรัสเซีย

พวกท่าเรือริมแม่น้ำดานูบ เช่น อิซมาอิล รองรับการส่งออกธัญพืชราว 1 ใน 4 ของยูเครน ก่อนที่รัสเซียจะถอนตัวจากข้อตกลงทะเลดำ และหลังจากใช้เส้นทางทะเลดำไม่ได้แล้ว ท่าเรือแถบนี้ได้กลายเป็นเส้นทางส่งออกหลักที่ยังเหลืออยู่ โดยใช้ขนถ่ายสินค้าลงเรือไปท่าเรือคอนสแตนตา ในทะเลดำของโรมาเนียเพื่อขนส่งออกสู่โลกภายนอกต่อไป

เมื่อวันอาทิตย์ (30 ก.ค.) สื่อยูเครนรายงานว่า เรือสินค้าจากต่างประเทศหลายลำเดินทางถึงอิซมาอิล โดยตรงจากทะเลดำเป็นครั้งแรกนับจากข้อตกลงธัญพืชถูกระงับไป สะท้อนชัดเจนถึงความพยายามในการทลายการปิดล้อมของรัสเซีย

นอกจากระงับสัญญาขนส่งธัญพืชแล้ว มอสโกยังประกาศว่า เรือทุกลำที่มุ่งหน้าสู่ท่าเรือยูเครนจะถือเป็นเป้าหมายทางการทหาร ซึ่งเคียฟประณามว่า รัสเซียต้องการข่มขู่ไม่ให้เรือลำใดกล้าเข้าท่าเรือของตน

นักวิเคราะห์ระบุเมื่อวันอังคาร (1 ส.ค.) ว่า การส่งออกของยูเครนในเดือนกรกฎาคมลดลง 40% จากเดือนมิถุนายน

ก่อนหน้านี้เมื่อปลายเดือนที่แล้ว รัสเซียใช้โดรนโจมตีท่าเรือริมแม่น้ำดานูบของยูเครนมาแล้วครั้งหนึ่ง ทำให้โกดังธัญพืชเสียหาย โดยเจ้าหน้าที่ยูเครนระบุว่า มอสโกโจมตีโรงงานในบริเวณท่าเรือ 26 แห่ง เรือพลเรือน 5 ลำ และธัญพืช 180,000 ตันในระยะเวลา 9 วันนับจากที่ถอนตัวจากข้อตกลง

ในอีกด้านหนึ่ง กองทัพอากาศยูเครนยังรายงานว่า เมื่อคืนวันอังคาร (1) รัสเซียส่งโดรนโจมตีกรุงเคียฟและพื้นที่ใกล้เคียง โดยระบบป้องกันภัยทางอากาศยิงโดรนร่วง 23 ลำ แต่เศษซากโดรนทำให้อาคารหลายหลังเสียหาย อย่างไรก็ดี ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต

(ที่มา : รอยเตอร์)