อันโตนิโอ กูเตียร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ยื่นข้อเสนอต่อประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียว่าจะอนุญาตให้สถาบันการเงินแห่งหนึ่งเชื่อมต่อกับเครือข่ายชำระเงินระหว่างประเทศ SWIFT ได้อีกครั้ง โดยแลกกับการที่มอสโกขยายข้อตกลงส่งออกธัญพืชยูเครนผ่านทะเลดำต่อไปอีกหลายเดือน
ทำเนียบเครมลินขู่จะคว่ำข้อตกลงส่งออกธัญพืชยูเครนซึ่งกำลังจะหมดอายุลงในวันที่ 17 ก.ค. หลังจากที่คำขอต่างๆ เกี่ยวกับการส่งออกธัญพืชและปุ๋ยของรัสเซียไปต่างประเทศไม่ได้รับการตอบสนอง
หนึ่งในข้อเรียกร้องหลักของรัสเซียคือให้ธนาคารเพื่อการเกษตรของรัสเซีย (Rosselkhozbank) กลับไปเชื่อมต่อเครือข่าย SWIFT ได้อีกครั้ง หลังจากที่รัสเซียถูกสหภาพยุโรปตัดขาดการเชื่อมต่อดังกล่าวไปเมื่อเดือน มิ.ย. ปี 2022 เพื่อตอบโต้ที่ ปูติน ส่งทหารรุกรานยูเครน
โฆษกอียูเคยออกมาแถลงเมื่อเดือน พ.ค. ว่า อียูจะยัง “ไม่พิจารณา” เชื่อมต่อระบบธนาคารของรัสเซียเข้ากับ SWIFT ในตอนนี้
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าว 3 คนให้ข้อมูลกับรอยเตอร์วานนี้ (12) ว่า อียูกำลังพิจารณาความเป็นไปได้ที่จะเชื่อมเครือข่าย SWIFT กับสถาบันการเงินแห่งหนึ่งในเครือ Rosselkhozbank เพื่อทำธุรกรรมการเงินเกี่ยวกับการส่งออกธัญพืชและปุ๋ยโดยเฉพาะ
แหล่งข่าวยังระบุด้วยว่า กูเตียร์เรส ได้ยื่นข้อเสนอกับ ปูติน ว่าหากรัสเซียยอมขยายข้อตกลงส่งออกธัญพืชยูเครนผ่านทะเลดำต่อไปอีกหลายเดือน จะเป็นการให้เวลาแก่อียูในการเชื่อมธนาคารลูกของ Rosselkhozbank เข้ากับระบบ SWIFT อีกครั้ง
สเตฟาน ดูจาร์ริค โฆษกยูเอ็น เผยต่อสื่อมวลชนวานนี้ (12) ว่า จดหมายที่ กูเตียร์เรส ส่งถึง ปูติน เมื่อวันอังคาร (11) มีจุดประสงค์เพื่อเปิดทางให้รัสเซียสามารถส่งออกอาหารและปุ๋ยไปต่างประเทศ ตลอดจนรับรองว่ายูเครนจะยังสามารถส่งออกธัญพืชผ่านทางท่าเรือต่างๆ ในทะเลดำได้ต่อไป
“เราหวังที่จะขจัดอุปสรรคในการทำธุรกรรมการเงินผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรของรัสเซีย ซึ่งเป็นข้อกังวลหลักที่ทางรัสเซียเสนอมา และในขณะเดียวกัน จะช่วยให้ยูเครนส่งออกธัญพืชผ่านทะเลดำต่อไปได้” เขากล่าว
โฆษกยูเอ็นไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม แต่ย้ำว่า กูเตียร์เรส ได้ประสานไปยังทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และเต็มใจที่จะหารือรายละเอียดเพิ่มเติมกับรัฐบาลรัสเซีย
สหประชาชาติและตุรกีรับบทคนกลางผลักดันข้อตกลงส่งออกธัญพืชระหว่างรัสเซียกับยูเครนในเดือน ก.ค. ปี 2022 เพื่อหลีกเลี่ยงวิกฤตขาดแคลนอาหารที่อาจเกิดขึ้นจากการปิดท่าเรือของยูเครนซึ่งเป็นผู้ส่งออกธัญพืชรายใหญ่อันดับ 4 ของโลก
เพื่อโน้มน้าวให้รัสเซียยอมรับข้อตกลงดังกล่าว ยูเอ็นได้จัดทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) ซึ่งระบุว่าเจ้าหน้าที่ยูเอ็นจะช่วยสนับสนุนให้รัสเซียสามารถส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารและปุ๋ยไปตลาดต่างประเทศได้
แม้สินค้าประเภทอาหารและปุ๋ยจากรัสเซียจะไม่ถูกคว่ำบาตรโดยชาติตะวันตก แต่มอสโกชี้ว่าข้อจำกัดในด้านธุรกรรมการเงิน โลจิสติกส์ และการประกันภัยมีผลเทียบเท่ากับการแบนสินค้าโดยปริยาย
ที่มา : รอยเตอร์