xs
xsm
sm
md
lg

มอสโก-เคียฟโวสกัดการโจมตีของฝ่ายตรงข้ามได้หมด ทำเนียบขาวร้อนใจยันไม่สนับสนุนยูเครนโจมตีในรัสเซีย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ทหารยูเครนฉายไฟเพื่อส่องหาโดรนเหนือท้องฟ้ากรุงเคียฟ เมืองหลวงยูเครนในคืนวันจันทร์ (24 ก.ค.) ย่างเข้าวันอังคาร (25) ท่ามกลางสัญญาณเตือนภัยว่ามีการโจมตีทางอากาศ หลังจากนั้นฝ่ายยูเครนแถลงว่า สามารถทำลายโดรนที่ฝ่ายรัสเซียส่งมาโจมตีได้ทั้งหมด
รัสเซีย-ยูเครนอ้างฝ่ายตรงข้ามใช้โดรนเข้าโจมตีต่อเนื่อง แต่ฝ่ายตนสามารถสกัดได้ ขณะที่ทำเนียบขาวแถลงย้ำไม่สนับสนุนเคียฟโจมตีในดินแดนรัสเซีย หลังแหล่งข่าวในแวดวงทหารยูเครนเผยว่า การลูบคมส่งโดรนเข้าไปเล่นงานในกรุงมอสโกเมื่อต้นสัปดาห์เป็นผลงานของหน่วยข่าวกรองทางทหารของเคียฟ ทางด้านรัฐมนตรีกลาโหมยูเครนแก้เก้ออีกรอบ ย้ำปฏิบัติการรุกตอบโต้ล่าช้าเพราะต้องฝ่าดงกับระเบิดของแดนหมีขาว อีกทั้งขาดระบบอาวุธป้องกันภัยทางอากาศ

กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงเมื่อวันอังคาร (25 ก.ค.) ว่า กองทัพยูเครนโจมตีเรือตรวจการณ์ “เซียร์เก โคทอฟ” ในทะเลดำเมื่อคืนวันจันทร์ (24 ) แต่โดรนทั้ง 2 ลำถูกทำลายขณะอยู่ห่างจากเป้าหมายราว 1 กิโลเมตร และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

เรือลำดังกล่าวประจำการอยู่ห่างจากเมืองเซวาสโตโปล ซึ่งเป็นฐานทัพเรือแห่งหลักของรัสเซียบนคาบสมุทรไครเมีย ไปทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 370 กิโลเมตร

ในเดือนนี้ รัสเซียเตือนหลังยกเลิกข้อตกลงส่งออกธัญพืชยูเครนผ่านทะเลดำว่า อาจโจมตีเรือทุกลำที่มุ่งหน้าสู่ท่าเรือยูเครน ทางด้านเคียฟตอบโต้ด้วยการประกาศเตือนแบบเดียวกัน

ทั้งคาบสมุทรไครเมียที่รัสเซียเข้าผนวกตั้งแต่ปี 2014 และกองเรือรัสเซียในทะเลดำตกเป็นเป้าหมายการโจมตีบ่อยครั้งนับจากมอสโกเปิดฉากรุกรานยูเครนเมื่อต้นปี 2022 และมีการโจมตีถี่ขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงเมื่อต้นสัปดาห์ที่แล้วที่สะพานไครเมียซึ่งเป็นเส้นทางลำเลียงอาวุธและเสบียงให้กองกำลังรัสเซียในยูเครนถูกโจมตี

ขณะเดียวกัน เซียร์ฮีย์ ป็อปโค หัวหน้าคณะบริหารทางทหารในเคียฟ เปิดเผยว่า รัสเซียใช้โดรนชาเฮดของอิหรานโจมตีเมืองหลวงของยูเครนในช่วงเช้าวันอังคาร ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 6 ในเดือนนี้ แต่โดรนทั้งหมดถูกยิงตก

รัสลัน คราฟเชนโก ผู้ว่าการแคว้นเคียฟ เสริมว่า ระบบเตือนภัยการโจมตีทางอากาศทำงานนานกว่า 3 ชั่วโมงครึ่งในแคว้นเคียฟ รวมทั้งตอนกลางและเหนือของประเทศ ทว่า ไม่มีรายงานความเสียหายหรือผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต

สำหรับผู้ว่าการแคว้นโดเนตสก์ ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของยูเครน บอกว่า รัสเซียยิงปืนใหญ่ถล่มเมืองคอสเทียนทินิฟกา เมื่อค่ำวันจันทร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน ซึ่งรวมถึงเด็กชายวัย 10 ปี และบาดเจ็บอีก 7 คน

ก่อนหน้านี้รัสเซียประกาศตอบโต้ยูเครนที่ส่งโดรน 2 ลำเข้าโจมตีมอสโกเมื่อรุ่งเช้าวันจันทร์ ทำให้อาคารหลายแห่งเสียหายเล็กน้อย และพบเศษซากโดรนลำหนึ่งห่างจากที่ตั้งกระทรวงกลาโหมรัสเซียเพียง 2 กิโลเมตร

จากนั้นในเวลาต่อมาแหล่งข่าวในแวดวงทหารของยูเครนเปิดเผยกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า การโจมตีดังกล่าวเป็นปฏิบัติการพิเศษของหน่วยข่าวกรองทางทหารของกองทัพยูเครน

เกี่ยวกับเรื่องนี้ แครีน ฌอง-ปิแอร์ โฆษกทำเนียบขาวแถลงในวันเดียวกันว่า อเมริกาไม่สนับสนุนให้ยูเครนโจมตีในดินแดนรัสเซีย พร้อมสำทับว่า รัสเซียเป็นฝ่ายเริ่มสงครามและสามารถยุติสงครามด้วยการถอนทหารออกจากยูเครน แทนที่จะโจมตีพลเรือนอย่างโหดร้าย

ในอีกด้านหนึ่ง อเล็กซี เรซนิคอฟ รัฐมนตรีกลาโหมยูเครน ให้สัมภาษณ์โทรทัศน์ข่าวซีเอ็นเอ็นที่นำออกเผยแพร่เมื่อวันจันทร์ (24) ว่า ปฏิบัติการรุกตอบโต้ของยูเครนล่าช้ากว่ากำหนดเนื่องจากต้องเผชิญกับระเบิดที่รัสเซียฝังไว้ รวมทั้งการการขาดระบบอาวุธป้องกันภัยทางอากาศ และเสริมว่า กองกำลังยูเครนต้องสู้รบกับข้าศึกที่มีกำลังพลจำนวนมาก

เรซนิคอฟ แจงว่า เป็นการยากมากที่จะฝ่าแนวกับระเบิดของรัสเซียที่ฝังไว้ตลอดแนวรบทางใต้ อย่างไรก็ดี เขาไม่กังวลกับสถานการณ์ภาคพื้นดิน เนื่องจากมีการเข้าใจกันไปอย่างผิดๆ ว่า ปฏิบัติการตอบโต้ทั้งหมดต้องรวดเร็วฉับไว

การแสดงความคิดเห็นนี้มีขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ยอมรับว่า ปฏิบัติการตอบโต้ของยูเครนที่เริ่มขึ้นเมื่อต้นเดือนมิถุนายนล่าช้ากว่าที่ต้องการ และการบุกตะลุยไม่สามารถชิงดินแดนคืนได้มากนัก ขณะที่ยานยนต์หุ้มเกราะจำนวนมากเสียหายหนักระหว่างเข้าโจมตีที่มั่นของรัสเซีย

วอชิงตันโพสต์รายงานโดยอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และยุโรปว่า ระหว่างสองสัปดาห์แรกของปฏิบัติการตอบโต้ อาวุธใหม่ๆ ที่ยูเครนเพิ่งได้รับจากฝ่ายตะวันตกเพื่อใช้ในการปฏิบัติการรุกตอบโต้ได้เสียหายหรือถูกทำลายไปถึง 20%

นอกจากนั้น ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย ยังประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า รถถัง “ลีโอพาร์ด” ของเยอรมนีอย่างน้อย 15 คัน และยานสู้รบทหารราบ “แบรดลีย์” ที่อเมริกาจัดหาให้กว่า 20 คันเสียหาย ตั้งแต่วันแรกของปฏิบัติการรุกตอบโต้ของเคียฟ

(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี, อาร์ที)
กำลังโหลดความคิดเห็น