ทำเนียบขาวยืนกรานว่าพวกเขาไม่สนับสนุนยูเครนลงมือโจมตีภายในแผ่นดินรัสเซีย หลังก่อนหน้านี้ในวันจันทร์ (24 ก.ค.) โดรน 2 ลำของเคียฟ บุกโจมตีก่อความเสียหายแก่อาคารหลายหลังในกรุงมอสโก เหตุการณ์ที่สร้างความเดือดดาลแก่รัสเซีย ที่ประกาศว่าจะดำเนินการแก้แค้น
"ในฐานะเรื่องทั่วไป เราไม่สนับสนุนการโจมตีภายในรัสเซีย" คารีน ฌอง-ปิแอร์ เลขานุการฝ่ายสื่อสารมวลชนของทำเนียบขาวแถลงกับผู้สื่อข่าว
รัสเซียประกาศใช้มาตรการแก้แค้นที่หนักหน่วงกับยูเครน พร้อมเรียกเหตุการณ์โดรน 2 ลำโจมตี หนึ่งในนั้นถูกสกัดตกใกล้ๆ กับกระทรวงกลาโหม ว่าเป็นการก่อการร้ายหน้าด้านๆ
"นี่คือสงครามที่รัสเซียเป็นคนเริ่ม นี่คือสงครามของพวกเขา" ฌอง-ปิแอร์กล่าว "และพวกเขาสามารถหยุดมันได้ทุกเมื่อด้วยการถอนทหารออกจากยูเครน แทนที่จะเปิดฉากโจมตีอย่างโหดร้ายป่าเถื่อนใส่พลเรือน"
การโจมตีคราวนี้แม้ไม่สร้างความเสียหายรุนแรงในแง่ชีวิตและทรัพย์สิน แต่ถือเป็นการโจมตีครั้งที่เกิดผลมากที่สุดนับจากเดือนพฤษภาคม ซึ่งมีโดรน 2 ลำเข้าโจมตีถึงในเขตทำเนียบเครมลิน
โดรนที่ตกใกล้ๆ กับกองบัญชาการด้านกลาโหมของรัสเซีย นับว่าก่อความเสียหายเชิงสัญลักษณ์ที่ปล่อยให้โดรนของฝ่ายศัตรูบินมาถึงได้ ในขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของยูเครนรายหนึ่งบอกว่าจะมีการโจมตีตามมาอีกหลังจากนี้
สื่อมวลชนตะวันตกพากันระบุว่า การโจมตีครั้งนี้เป็นการสร้างแรงสั่นสะเทือนรุนแรงเชิงสัญลักษณ์ อีกทั้งตอกย้ำความสามารถในการโจมตีโดรนเหล่านี้ โดยเฉพาะในเรื่องระยะทำการ
รอยเตอร์รายงานว่า ถนนในบริเวณใกล้เคียงกับอาคารดังกล่าวได้ถูกสั่งปิดชั่วคราว ขณะที่อาคารสำนักงานแห่งหนึ่งที่ถูกโดรนลำที่ 2 ชนในอีกย่านหนึ่งของมอสโก ปรากฏว่าบานหน้าต่างของ 2 ชั้นบนสุดของอาคารได้หลุดร่วงลงมา และเศษซากปรักหักพังกระจายเกลื่อนพื้นด้านล่าง
ขณะที่สำนักข่าวของทางการรัสเซียก็รายงานโดยอ้างการเปิดเผยของหน่วยงานรับมือเหตุฉุกเฉินว่า พบเศษซากโดรนใกล้อาคารหลังหนึ่งบนถนนคอมโซโมลสกี ซึ่งอยู่ห่างจากกระทรวงกลาโหมราว 2 กิโลเมตร
ทางด้านกระทรวงกลาโหมรัสเซียเองแถลงว่า ใช้อุปกรณ์เรดิโออิเล็กทรอนิกส์บังคับโดรนทั้ง 2 ลำดิ่งลงพื้น และสกัดความพยายามในการก่อการร้ายด้วยการมุ่งโจมตีเป้าหมายทางพลเรือน
มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ให้สัมภาษณ์สถานีอาร์ทีวีไอทีวีว่า ยูเครนมีความผิดในการก่อการร้ายระหว่างประเทศ
เหตุโดรนโจมตีมอสโก มีขึ้นหลังจากก่อนหน้านั้น ในวันอาทิตย์ (23 ก.ค.) ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ซึ่งที่ผ่านมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการโจมตีภายในดินแดนรัสเซียหรือดินแดนที่รัสเซียยึดครองในยูเครนน้อยมาก ได้ประกาศให้สัญญาว่า จะตอบโต้การก่อการร้ายที่มอสโกกระทำต่อเมืองโอเดสซา โดยเฉพาะการโจมตีอาสนวิหารแห่งสำคัญในเมืองนี้
ขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่ง เคียฟเปิดเผยในวันจันทร์ (24 ก.ค.) ว่ารัสเซียส่งโดรนโจมตีคลังเก็บธัญพืชหลายแห่งของยูเครน บริเวณริมแม่น้ำดานูบ และส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 7 ราย
รัสเซียบอกว่าพวกเขาจะเดินหน้าในสิ่งที่เรียกว่า "ปฏิบัติการพิเศษด้านการทหาร" ในยูเครน ในขณะที่เคียฟและชาติตะวันตกส่วนใหญ่บอกว่ามันเป็นสงครามแย่งชิงดินแดนที่โหดร้ายป่าเถื่อน
กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่า เมื่อคืนวันอาทิตย์ (23 ก.ค.) ยังมีโดรนข้าศึก 17 ลำเข้าโจมตีคาบสมุทรไครเมีย ซึ่งมอสโกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนในปี 2014 และรัสเซียใช้อุปกรณ์ป้องกันโดรนและระบบป้องกันภัยทางอากาศสอยร่วงทั้งหมด แต่ทางหัวหน้าคณะบริหารไครเมีย ที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัสเซีย บอกว่าโดรนได้โจมตีคลังกระสุนแห่งหนึ่งและก่อความเสียหายแก่อาคารที่พักอาศัยอีกหลัง
(ที่มา : รอยเตอร์/เอพี)