xs
xsm
sm
md
lg

สงครามเทค! ปักกิ่งลั่น ‘สงวนสิทธิตอบโต้’ หลัง ‘ไบเดน’ อ้างเหตุผลเรื่องความมั่นคง เซ็นคำสั่งจำกัดมะกันลงทุนในภาคไฮเทคจีน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ไบเดน” ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหาร ห้ามหรือจำกัดการลงทุนของบริษัทอเมริกันในเทคโนโลยีอ่อนไหวบางสาขาในจีน เช่น ชิปคอมพิวเตอร์และเอไอ ทำให้ปักกิ่งออกมาโวยทันทีในวันพฤหัสบดี (10 ส.ค.) ว่า วอชิงตันบ่อนทำลายระเบียบโลกด้านเศรษฐกิจและการค้า เรียกร้องให้ประมุขสหรัฐฯ รักษาสัญญาในการไม่ตัดขาดหย่าร้างความผูกพันกับจีน หรือขัดขวางพัฒนาการทางเศรษฐกิจของแดนมังกร พร้อมกันนั้น ก็ประกาศสงวนสิทธิที่จะดำเนินการตอบโต้

คำสั่งฝ่ายบริหารที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ลงนามในวันพุธ (9) นี้ ซึ่งทางสหรัฐฯ ได้แพล็มข่าวและเงื้อง่าอยู่เป็นแรมเดือนแล้วนั้น ระบุให้อำนาจรัฐมนตรีคลังอเมริกันในการห้ามหรือจำกัดการลงทุนของบริษัทอเมริกันในกิจการต่างๆ ของจีนใน 3 ภาคส่วน ได้แก่ เซมิคอนดักเตอร์และไมโครอิเล็กทรอนิกส์ เทคโนโลยีสารสนเทศเชิงควอนตัม และระบบปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) บางอย่าง รวมทั้งกำหนดให้นักลงทุนอเมริกาแจ้งรัฐบาลสำหรับการลงทุนในเทคโนโลยีอื่นๆ

ทั้งนี้ คณะบริหารไบเดนระบุว่า การจำกัดเช่นนี้จะบังคับใช้กับ “สาขาย่อยๆ ในวงแคบ” ของ 3 ภาคส่วนนี้เท่านั้น แต่ยังไม่มีการระบุขอบเขตเฉพาะเจาะจงอะไร โดยต้องการเปิดกว้างรับฟังความคิดเห็นเพิ่มเติมจากสาธารณชน พร้อมกันนั้นเจ้าหน้าที่อาวุโสในคณะบริหารของสหรัฐฯ ยืนยันว่า มาตรการจำกัดเหล่านี้มีจุดมุ่งหมายด้านความมั่นคงแห่งชาติมากกว่าผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ

เจ้าหน้าที่ในคณะบริหารอธิบายว่า คำสั่งนี้มุ่งหมายที่จะป้องกันไม่ให้มีการนำเงินทุนและความเชี่ยวชาญของอเมริกาไปช่วยจีนพัฒนาเทคโนโลยีที่อาจถูกใช้เพื่อสนับสนุนการปรับปรุงกองทัพของจีนให้ทันสมัย และบ่อนทำลายความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ และมาตรการเหล่านี้พุ่งเป้าจำกัดการลงทุนของอเมริกันทั้งการลงทุนในหุ้นนอกตลาด (Private Equity) ธุรกิจเงินร่วมลงทุน (Venture Capital) โครงการร่วมค้า (joint ventures) และการลงทุนในกิจการใหม่ๆ ตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง (greenfield investments)

ไบเดนระบุในจดหมายที่ส่งถึงรัฐสภาสหรัฐฯว่า คำสั่งฉุกเฉินนี้มุ่งจัดการกับภัยคุกคามจากความก้าวหน้าของประเทศอย่างจีน ในเทคโนโลยีที่มีความอ่อนไหวและผลิตภัณฑ์ที่มีความสำคัญต่อศักยภาพทางการทหาร ข่าวกรอง การสอดแนม และการใช้เครือข่ายไซเบอร์

สำหรับปฏิกิริยาจากปักกิ่ง กระทรวงการต่างประเทศจีนออกคำแถลงในวันพฤหัสบดี (10) แสดงความกังวลอย่างยิ่งกับคำสั่งของไบเดน และขอสงวนสิทธิในการใช้มาตรการตอบโต้

คำแถลงกล่าวเพิ่มเติมว่า จีนไม่พอใจอย่างมากและคัดค้านการยืนกรานออกมาตรการจำกัดการลงทุนต่อจีน และเรียกร้องให้อเมริกาทำตามสัญญาของไบเดนที่บอกว่า ไม่ต้องการหย่าร้างตัดขาดจากจีน หรือขัดขวางการพัฒนาเศรษฐกิจของจีน

ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ของจีนก็ออกคำแถลงระบุว่า คำสั่งนี้ของสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อการดำเนินการโดยทั่วไป ตลอดจนการตัดสินใจของพวกองค์กรธุรกิจ รวมทั้งเป็นการบ่อนทำลายระเบียบโลกด้านเศรษฐกิจและการค้า

คำแถลงนี้ยังแสดงความหวังว่า อเมริกาจะเคารพกฎระเบียบของเศรษฐกิจระบบตลาด และหลักการการแข่งขันอย่างเป็นธรรม รวมทั้งละเว้นการสร้างอุปสรรคกีดขวางเศรษฐกิจโลก การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก การแลกเปลี่ยนทางการค้า และการร่วมมือกัน

สำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า มาตรการล่าสุดของไบเดนนี้ มุ่งเน้นมากที่สุดในเรื่องควบคุมจำกัดการลงทุนในบริษัทจีนที่พัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับการออกแบบชิปคอมพิวเตอร์ ตลอดจนเครื่องจักรอุปกรณ์ในการผลิตชิป โดยที่ก่อนหน้านี้ อเมริกาได้พยายามหาความร่วมมือจากญี่ปุ่น และเนเธอร์แลนด์ ซึ่งต่างเป็นผู้นำในส่วนต่างๆ ของอุตสาหกรรมนี้ เพื่อกีดกันขัดขวางไม่ให้จีนเข้าถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ และรัฐบาลจีนกำลังพยายามแก้ลำด้วยการปลุกปั้นผู้เล่นภายในประเทศขึ้นมาเป็นทางเลือกใหม่

ทำเนียบขาวสำทับว่า ไบเดนได้หารือกับพวกพันธมิตรเกี่ยวกับแผนการนี้ รวมทั้งรับฟังความคิดเห็นจากสมาชิกอื่นๆ ในกลุ่มจี7

ทางด้านกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ยอมรับว่า ข้อกำหนดใหม่จะส่งผลต่อการลงทุนในอนาคตเท่านั้น แต่กระทรวงฯ อาจขอให้ภาคเอกชนเปิดเผยการทำธุรกรรมที่ผ่านมา

ขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยืนยันว่า ข้อห้ามต่างๆ มุ่งจัดการความเสี่ยงด้านความมั่นคงที่เฉียบพลันที่สุด และไม่ต้องการแบ่งแยกหย่าขาดเศรษฐกิจ 2 ประเทศออกจากกัน

แหล่งข่าวคนหนึ่งยังเปิดเผยว่า มาตรการนี้จะเริ่มดำเนินการในปีหน้า หลังจากเปิดรับฟังความคิดเห็นจากสาธารณชนหลายรอบ ซึ่งรวมถึงรอบแรกที่กินเวลา 45 วัน

โฆษกสถานเอกอัครราชทูตจีนในวอชิงตันระบุว่า จีนผิดหวังมากกับมาตรการนี้ และสำทับว่า ทำเนียบขาวเพิกเฉยต่อจีนที่แสดงความกังวลเกี่ยวกับแผนการนี้มาแล้วหลายครั้ง อีกทั้งยังระบุว่า ปัจจุบันมีบริษัทอเมริกันทำธุรกิจในจีนกว่า 70,000 แห่ง และมาตรการปิดกั้นนี้จะส่งผลกระทบต่อทั้งธุรกิจจีนและอเมริกา แทรกแซงการร่วมมือกันอย่างเป็นปกติ และลดความเชื่อมั่นของนักลงทุนในสหรัฐฯ

ทางฝ่ายสมาคมอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์แสดงความหวังว่า คำสั่งของไบเดนจะช่วยให้บริษัทชิปอเมริกันสามารถแข่งขันอย่างเป็นธรรมและเข้าถึงตลาดสำคัญๆ ที่รวมถึงจีนด้วย

เอมิลี เบนสัน จากศูนย์ยุทธศาสตร์และการระหว่างประเทศศึกษา (ซีเอสไอเอส) ซึ่งเป็นหน่วยงานคลังสมองชื่อดังในกรุงวอชิงตัน ให้ความเห็นว่า คำถามสำคัญที่จะต้องติดตามกันต่อไปก็คือ แผนการนี้จะส่งผลต่อพันธมิตรของอเมริกาอย่างไร และจีนจะตอบโต้อย่างไร

(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี, เอพี)
กำลังโหลดความคิดเห็น