เอกอัครราชทูตจีนประจำสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์ในวันพุธ (19 ก.ค.) ว่าจีนนั้นไม่ต้องการสงครามการค้า หรือสงครามเทคโนโลยี แต่หากสหรัฐฯ ยังคงใช้นโยบายกีดกันเพื่อสกัดกั้นการพัฒนาของอุตสาหกรรมชิปแดนมังกร ปักกิ่งจะมีมาตรการตอบโต้อย่างแน่นอนเช่นกัน
เซี่ย เฟิง (Xie Feng) เอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. กล่าวบนเวทีประชุม Aspen Security Forum ว่า จีนไม่กลัวที่จะต้องแข่งขันกับใคร แต่นิยามการแข่งขันในแบบของสหรัฐฯ นั้น “ไม่เป็นธรรม” พร้อมอ้างถึงการที่อเมริกากีดกันจีนไม่ให้สามารถนำเข้าเครื่องมือผลิตชิประดับก้าวหน้าได้
“แบบนี้ก็เหมือนจำกัดให้คู่ต่อสู้ต้องใส่ชุดว่ายน้ำรุ่นเก่าล้าสมัยไปลงแข่งขันว่ายน้ำ ในขณะที่พวกคุณเองสวม Speedo” เซี่ย กล่าว
เซี่ย ยังอ้างรายงานที่ระบุว่า สหรัฐฯ กำลังพิจารณาจัดทำกลไกทบทวนการลงทุน และเพิ่มมาตรการกีดกันการส่งออกชิปปัญญาประดิษฐ์ไปยังจีน
“รัฐบาลจีนคงจะนิ่งเฉยไม่ได้ ชาวจีนมีคำพูดอยู่ว่า เราไม่เป็นฝ่ายยั่วยุก่อน แต่ก็ไม่กลัวเกรงหากมีใครมายั่วยุ”
“จีนจะมีมาตรการตอบโต้อย่างแน่นอน แต่เราก็หวังว่ามันคงจะไม่จำเป็น เราไม่ต้องการสงครามการค้า ไม่ต้องการสงครามเทคโนโลยี เราต้องการบอกลาทั้งม่านเหล็ก (Iron Curtain) รวมถึงม่านซิลิคอน (Silicon Curtain) ด้วย”
รัฐบาลประธานาธิบดี โจ ไบเดน อยู่ระหว่างเตรียมออกคำสั่งบริหาร (executive order) เพื่อจำกัดการลงทุนบางประเภทในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ระดับก้าวหน้า ควอนตัมคอมพิวติ้ง และปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงเผยว่าน่าจะแล้วเสร็จก่อนวันแรงงาน 4 ก.ย.
เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวระหว่างเดินทางเยือนจีนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เธอได้ให้คำมั่นกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายจีนว่าคำสั่งบริหารของสหรัฐฯ จะเป็นไปอย่าง “เฉพาะเจาะจง และพุ่งเป้าไปที่อุตสาหกรรมเพียงไม่กี่ประเภทที่สหรัฐฯ เห็นว่าอาจกระทบต่อความมั่นคงของชาติ” รวมถึงจะมีการบังคับใช้อย่างโปร่งใสด้วย
ปักกิ่งได้ประกาศแบนชิปของบริษัท ไมครอน เทคโนโลยี (Micron Technology) โดยอ้างว่าเป็นความเสี่ยงต่อความมั่นคงของประเทศ หลังจากที่วอชิงตันออกมาตรการควบคุมการส่งออกชิ้นส่วนและเครื่องมือผลิตชิปไปยังจีน โดยหวังสกัดไม่ให้เทคโยโลยีเหล่านี้ถูกนำไปใช้เสริมเขี้ยวเล็บแก่กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (PLA)
หน่วยงานกำกับดูแลด้านไซเบอร์สเปซของจีนแถลงเมื่อวันที่ 21 พ.ค. ว่า ไมครอนซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ไม่ผ่านการตรวจสอบด้านความปลอดภัยเครือข่ายของจีน พร้อมสั่งห้ามไม่ให้ผู้บริหารโครงสร้างพื้นฐานสำคัญๆ ซื้อชิปจากบริษัทแห่งนี้ จนเป็นเหตุให้ไมครอนออกมาคาดการณ์ตัวเลขรายได้ที่ลดลง
ที่มา : รอยเตอร์