การออกมาตรการของจีนเพื่อควบคุมการส่งออกโลหะที่ใช้ในเซมิคอนดักเตอร์ อยู่ในขั้น “เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น” ที่ปรึกษานโยบายการค้าทรงอิทธิพลของจีนระบุในวันพุธ (5 ก.ค.) ขณะที่ปักกิ่งรัวกลองรบในศึกเทคโนโลยี ไม่กี่วันก่อนที่รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เดินทางเยือนแดนมังกร ด้านสื่อ ‘โกลบัลไทมส์’ ของพรรคคอมมิวนิสต์สำทับ ความพยายามในการขัดขวางไม่ให้จีนเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูงเป็นการคำนวณผิดพลาด และปักกิ่งจะไม่นิ่งเฉยปล่อยให้ตะวันตกกีดกันตัดขาดจากห่วงโซ่อุปทานโลกอยู่ฝ่ายเดียว
การประกาศอย่างปุบปับของกระทรวงพาณิชย์จีนเมื่อวันจันทร์ (3) ในการควบคุมการส่งออกผลิตภัณฑ์โลหะแกลเลียมและโลหะเจอร์มาเนียมหลายสิบชนิด โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมเป็นต้นไป กระตุ้นให้บริษัทต่างๆ ที่เกี่ยวข้องต้องรีบสั่งซื้อตุนและดันราคาพุ่งขึ้นทันตา
จีนเป็นผู้ผลิตและส่งออกโลหะทั้ง 2 อย่างนี้รายใหญ่ที่สุดของโลก โดยเจอร์มาเนียมนั้นใช้ในการผลิตชิปคอมพิวเตอร์ความเร็วสูง พลาสติก อุปกรณ์ทางทหาร เช่น แว่นมองกลางคืน เซ็นเซอร์ถ่ายภาพดาวเทียม ส่วนแกลเลียมใช้ในการผลิตเรดาร์ อุปกรณ์สื่อสารวิทยุ ดาวเทียม และไฟแอลอีดี
พวกนักวิเคราะห์ระบุว่า การประกาศมาตรการนี้ก่อนวันชาติของอเมริกาหนึ่งวัน และก่อนที่เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เดินทางเยือนปักกิ่งตั้งแต่วันพฤหัสฯ (6 ก.ค.) เป็นการเลือกจังหวะเวลาเพื่อส่งข้อความถึงคณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่กำลังปักหมุดโจมตีกีดกันอุตสาหกรรมชิปของจีน อีกทั้งกดดันให้พันธมิตรอย่างญี่ปุ่นและเนเธอร์แลนด์เดินรอยตาม
ความเคลื่อนไหวเช่นนี้ของจีนยังกระตุ้นความกังวลว่า เป้าหมายต่อๆ ไปของแดนมังกรคือขยายการจำกัดการส่งออกให้ครอบคลุมถึงแร่แรร์เอิร์ธ เหมือนที่ปักกิ่งเคยจำกัดการจัดส่งเมื่อ 12 ปีก่อนตอนที่งัดข้อกับญี่ปุ่น
ทั้งนี้ จีนเป็นผู้ผลิตแรร์เอิร์ธรายใหญ่ที่สุดในโลก โดยที่แรร์เอิร์ธเป็นกลุ่มโลหะที่ใช้ในการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า ตลอดจนอุปกรณ์ทางการทหาร
นักวิเคราะห์ยังบอกว่า มาตรการที่จีนประกาศล่าสุดนี้ถือเป็นการตอบโต้ใหญ่ครั้งที่ 2 และครั้งรุนแรงที่สุดในสงครามเทคโนโลยีกับอเมริกา หลังจากเดือนพฤษภาคมปักกิ่งสั่งห้ามอุตสาหกรรมหลักบางแขนงซื้อชิปหน่วยความจำจากบริษัทไมครอนของอเมริกา
ในวันพุธ (5) เว่ย เจี้ยนกั๋ว อดีตรองรัฐมนตรีพาณิชย์จีนระหว่างปี 2003-2008 และปัจจุบันเป็นรองประธานศูนย์การแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศของจีน ซึ่งเป็นกลุ่มคลังสมองที่ได้รับการสนับสนุนจากปักกิ่ง ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ไชน่าเดลี่ว่า ประเทศต่างๆ ควรเตรียมพร้อมรับมือการตอบโต้เพิ่มเติมถ้ายังไม่เลิกกดดันอุตสาหกรรมไฮเทคจีน และสำทับว่า มาตรการควบคุมการส่งออกผลิตภัณฑ์แกลเลียมและเจอร์มาเนียมเป็นหมัดเด็ดที่ผ่านกระบวนการคิดพิจารณามาอย่างดี รวมทั้งยังเป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น
นอกจากนั้น เมื่อคืนวันอังคาร (3) แท็บลอยด์โกลบัลไทมส์ ซึ่งอยู่ในเครือของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้เผยแพร่บทบรรณาธิการระบุว่า มาตรการควบคุมการส่งออกโลหะสำคัญล่าสุดเป็นวิธีที่ทำได้จริงในการเตือนอเมริกาและพันธมิตรว่า ความพยายามในการขัดขวางไม่ให้จีนสามารถซื้อเทคโนโลยีขั้นสูงเป็นการคำนวณผิดพลาด และจีนจะไม่นิ่งเฉยปล่อยให้ตะวันตกกีดกันตัดขาดออกจากห่วงโซ่อุปทานโลกอยู่ฝ่ายเดียว
บทบรรณาธิการของโกลบัลไทมส์ยังระบุว่า ตลอดหลายปีที่ผ่านมาจีนป้อนทรัพยากรแรร์เอิร์ธของตัวเองให้แก่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์โลกโดยที่ต้องแบกรับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ก่อนสำทับว่า จีนไม่เห็นเหตุผลที่จะต้องทำเช่นนั้นต่อไปเพียงเพื่อให้ความพยายามในการพัฒนาเทคโนโลยีของตัวเองถูกขัดขวาง
ทั้งนี้ รอยเตอร์รายงานว่า เวลานี้วอชิงตันกำลังพิจารณามาตรการใหม่ๆ ในการจำกัดการจัดส่งไมโครชิปขั้นสูงให้จีน หลังจากออกมาตรการสกัดกั้นมาหลายระลอกในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
นอกจากนั้น ยังคาดว่าอเมริกาและเนเธอร์แลนด์จะเดินหน้าขยายการจำกัดการขายเครื่องจักรอุปกรณ์ผลิตชิปให้จีน โดยอ้างว่าเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามป้องกันไม่ให้จีนนำเทคโนโลยีขั้นสูงไปใช้กับกองทัพ
(ที่มา : รอยเตอร์)