คณะบริหารไบเดน เชื่อจีนแอบติดตั้งมัลแวร์เอาไว้ภายในเครือข่ายควบคุมการจ่ายไฟฟ้า ประปา และการสื่อสารโทรคมนาคม ให้แก่ฐานทัพต่างๆ ทั้งในอเมริกาและตลอดทั่วโลก ถือเป็น “สถานการณ์ที่อาจทำให้เกิดหายนะได้ตลอดเวลา” เนื่องจากอาจทำให้กองทัพปลดแอกประชาชนจีนสามารถขัดขวางปฏิบัติการของกองทัพสหรัฐฯ ในกรณีที่เกิดการสู้รบขัดแย้ง เช่น ถ้าหากปักกิ่งโจมตีไต้หวัน
หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ที่รายงานเรื่องนี้เมื่อวันเสาร์ (29 ก.ค.) โดยอ้างอิงแหล่งข่าวในกองทัพ หน่วยงานความมั่นคง และหน่วยงานข่าวกรองของสหรัฐฯ บอกว่า มัลแวร์ดังกล่าวไม่เพียงทำให้จีนมีอำนาจที่จะขัดขวางหรือชะลอการเคลื่อนกำลังทหารอเมริกัน หรือการปฏิบัติการส่งกำลังบำรุง ด้วยการตัดไฟฟ้า น้ำประปา และการสื่อสารของฐานทัพสหรัฐฯแห่งต่างๆ เท่านั้น แต่ยังอาจสร้างผลกระทบกว้างไกลยิ่งกว่านี้อีก เนื่องจากบ่อยครั้งโครงสร้างพื้นฐานอันเดียวกันกับที่ส่งเข้าฐานทัพเหล่านี้ป้อนให้แก่บ้านเรือนและธุรกิจต่างๆ ของชาวอเมริกันธรรมดาสามัญไปด้วย
รายงานนิวยอร์กไทมส์ชิ้นนี้เผยแพร่ออกมา หลังจากเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม บริษัทไมโครซอฟท์เตือนว่า แฮกเกอร์จีนที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลปักกิ่งได้เจาะเครือข่ายโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของอเมริกา
ไมโครซอฟท์ในตอนนั้นระบุเฉพาะเจาะจงถึงเกาะกวม ซึ่งเป็นดินแดนของอเมริกาในแปซิฟิกที่เป็นที่ตั้งทางทหารของสหรัฐฯ แห่งสำคัญว่าเป็นจุดหนึ่งซึ่งตกเป็นเป้าหมาย โดยบริษัทตรวจพบรหัสคอมพิวเตอร์ลึกลับฝังอยู่ในระบบสื่อสารของเกาะนี้ แต่ระบุด้วยว่าได้ตรวจพบกิจกรรมประสงค์ร้ายในส่วนอื่นๆ ของอเมริกาด้วยเช่นกัน
บริษัทซอฟต์แวร์ชั้นนำแห่งนี้ระบุว่า การโจมตีอย่างปกปิดมิดชิดเหล่านี้เกิดขึ้นนับจากกลางปี 2021 โดยดูเหมือนมีจุดมุ่งหมายเพื่อขัดขวางปฏิบัติการของอเมริกาในกรณีที่เกิดการสู้รบขัดแย้งในภูมิภาคขึ้นมา
ในตอนนั้น พวกเจ้าหน้าที่รับผิดชอบทั้งในออสเตรเลีย แคนาดา นิวซีแลนด์ และสหราชอาณาจักร ได้ออกคำเตือนเช่นกันว่า การปฏิบัติการแฮกของจีนน่าจะกำลังเกิดขึ้นในระดับทั่วโลก ซึ่งส่งผลกระทบกระเทือนโครงสร้างพื้นฐานในขอบเขตที่กว้างขวาง
อย่างไรก็ตาม รายงานของนิวยอร์กไทมส์ระบุว่า คำเตือนของไมโครซอฟท์ทำท่าว่าจะกลายเป็นเพียงการชี้ถึงส่วนเล็กๆ ของปัญหาที่ไมโครซอฟท์ค้นพบในเครือข่ายของตนเองเท่านั้น
ทั้งเจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญในแวดวงอุตสาหกรรมของอเมริกาสิบกว่าคนที่ให้สัมภาษณ์นิวยอร์กไทมส์ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา บอกว่า ความพยายามของจีนครอบคลุมกว้างไกลกว่าระบบสื่อสาร และกระทำก่อนไมโครซอฟท์ออกรายงานอย่างน้อย 1 ปี
นิวยอร์กไทมส์เสริมว่า การตรวจพบมัลแวร์ทำให้ทำเนียบขาวร้อนใจนัดประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากกองทัพ หน่วยข่าวกรอง หน่วยความมั่นคงแห่งชาติหลายรอบเพื่อติดตามตรวจหาและลบรหัสมัลแวร์ที่เชื่อว่า แฮกเกอร์จีนซึ่งอาจทำงานให้กองทัพปลดแอกฯ แอบซุกซ่อนไว้ในเครือข่ายที่ควบคุมโครงข่ายพลังงาน ระบบสื่อสาร และระบบประปาที่หล่อเลี้ยงฐานทัพในอเมริกาและทั่วโลก
กระนั้น เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยอมรับว่า ไม่รู้ว่ามีมัลแวร์ติดตั้งอยู่ในเครือข่ายทั่วโลกมากน้อยแค่ไหน ส่วนหนึ่งเนื่องจากแฮกเกอร์จีนซ่อนไว้อย่างแนบเนียนมาก
เจ้าหน้าที่ในรัฐสภาคนหนึ่งให้สัมภาษณ์นิวยอร์กไทมส์ว่า ปฏิบัติการมัลแวร์ของแฮกเกอร์จีนถือเป็น “สถานการณ์ที่อาจทำให้เกิดหายนะได้ตลอดเวลา”
นิวยอร์กไทมส์ยังระบุว่า เจ้าหน้าที่ในคณะบริหารของไบเดนได้เริ่มบรรยายเกี่ยวกับสิ่งที่ตรวจพบต่อสมาชิกรัฐสภา ผู้ว่าการรัฐบางรัฐ และบริษัทสาธารณูปโภคบางแห่ง รวมทั้งยืนยันข้อสรุปบางอย่างเกี่ยวกับปฏิบัติการนี้ระหว่างให้สัมภาษณ์กับนิวยอร์ก ไทมส์
หลังจากทางนิวยอร์กไทมส์สอบถามขอความเห็นเกี่ยวกับรายงานข่าวนี้ ในคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (28) แอดัม ฮอดจ์ รักษาการโฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวออกคำแถลงโดยไม่เอ่ยชื่อจีนหรือพาดพิงถึงฐานทัพว่า คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน กำลังดำเนินการอย่างไม่ลดละเพื่อป้องกันไม่ให้โครงสร้างพื้นฐานสำคัญของประเทศหยุดชะงัก รวมถึงการประสานงานระหว่างหน่วยงานต่างๆ เพื่อปกป้องระบบน้ำประปา ท่อส่งน้ำมัน ทางรถไฟ และการบิน
เขาสำทับว่า ไบเดนยังสั่งให้มีต้องมีการปฏิบัติตามระเบียบด้านความมั่นคงทางไซเบอร์อย่างเข้มงวดเป็นครั้งแรกอีกด้วย
(ที่มา : เอเอฟพี, นิวยอร์กไทมส์)
