สื่อมะกันระบุเคียฟส่งทหารที่ฝึกจากตะวันตกเข้าสนามรบ เริ่มขั้นตอนโจมตีหลักของการรุกตอบโต้ ทางด้านรัสเซียโว ‘ยังเอาอยู่’

นิวยอร์กไทมส์ระบุ เคียฟเริ่มการบุกโจมตีหลักในปฏิบัติการรุกตอบโต้กองกำลังรัสเซียแล้ว โดยส่งกองทหารหลายพันนายที่ได้รับการฝึกจากตะวันตกซึ่งก่อนหน้านี้เก็บสำรองเอาไว้เข้าสู่สมรภูมิแล้ว ขณะที่มอสโกออกคำแถลงตัดหน้าว่ากำลังยูเครนเหล่านี้ยังคงถูกยันเอาไว้และเสียหายยับไม่สามารถเจาะแนวป้องกันรัสเซียได้ ทางด้านโฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวเร่งปลุกขวัญว่าปฏิบัติการตอบโต้ของยูเครนไม่ได้หยุดชะงัก แม้อาจไม่คืบหน้าเร็วเท่าที่ควรก็ตาม

หนังสือพิมพ์ทรงอิทธิพลฉบับนี้ของอเมริการายงานเมื่อวันพุธ (26 ก.ค.) โดยอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่เพนตากอน (กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ) ที่ไม่ประสงค์เปิดเผยชื่อ 2 คนว่า พวกเจ้าหน้าที่ยูเครนได้แจ้งกับอเมริกาว่า กองทหารยูเครนที่มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม จะพยายามรุกลงทางใต้ผ่านทุ่งกับระเบิดและแนวป้องกันอื่นๆ ของรัสเซียเพื่อมุ่งหน้าสู่เมืองต็อคมัค และหากสำเร็จจะลุยต่อไปยังเมืองเมลิโตเปล ในแคว้นซาโปริซเซีย ซึ่งเมืองนี้เคยได้ฉายาว่า “ปากประตูสู่ไครเมีย” และเสริมว่า ทหารที่ส่งเข้าสู่สมรภูมิใหม่ๆ เหล่านี้จำนวนมากได้รับการฝึกและติดอาวุธจากพันธมิตรตะวันตก

นิวยอร์กไทมส์ยังอ้างอิงการสัมภาษณ์ทหารในกองกำลังยูเครนที่อ้างว่า สามารถผลักดันทหารรัสเซียให้ล่าถอยอย่างต่อเนื่อง แต่ยอมรับว่าแม้รุกคืบหน้าได้เรื่อยๆ ทว่ายังไม่มีชัยชนะครั้งใหญ่ รวมทั้งยังล่าช้าจากทุ่งกับระเบิดที่รัสเซียฝังไว้ และทหารยูเครนบางนายระบุว่าอุปสรรคใหญ่ที่สุดคือการถูกยิงด้วยปืนใหญ่และจรวดหลายลำกล้อง และการถูกโจมตีทางอากาศ

รายงานนี้ของนิวยอร์กไทมส์ ออกมาไล่หลังการแถลงของกระทรวงกลาโหมรัสเซียเมื่อวันพุธที่ระบุว่า กองทัพยูเครนได้เปิดฉากโจมตีใหญ่แล้วด้วยทหาร 3 กองพัน พร้อมรถถัง ทว่ากองทหารรัสเซียสามารถขับไล่การโจมตีเหล่านั้นและป้องกันไม่ให้ทหารยูเครนฝ่าแนวป้องกันที่บริเวณใกล้หมู่บ้านโอเรคอฟ ในแคว้นซาโปริซเซีย

คำแถลงสำทับว่า ยูเครนสูญเสียรถถัง 22 คัน ยานรบทหารราบ 10 คัน และทหารกว่า 100 นาย

นอกจากนี้ กองทหารรัสเซียยังสามารถสกัดการโจมตีหมู่บ้านราโบตินิโอ และโจมตีกองกำลังยูเครนใกล้มาลายา ต็อคแมคกา และยาโบลโคโว ด้วยปืนใหญ่และจรวดหลายลำกล้อง ตลอดจนการโจมตีทางอากาศ

ข้อมูลของกระทรวงกลาโหมรัสเซียอ้างว่า นับจากเคียฟเริ่มปฏิบัติการรุกตอบโต้ตามที่รอคอยมานานเมื่อต้นเดือนมิถุนายน ยูเครนสูญเสียทหารหลายหมื่นนายและอาวุธหนักนับพันรายการ

นิวยอร์กไทมส์ระบุว่า ไม่สามารถตรวจสอบรายงานของรัสเซียซึ่งระบุว่าการโจมตีของเคียฟถูกสกัดเอาไว้ได้ แต่ยอมรับว่าปฏิบัติการรุกตอบโต้ของยูเครนแทบไม่มีอะไรคืบหน้าตามแผน

ทั้งนี้ เป้าหมายของเคียฟคือบุกตะลุยลงใต้มุ่งสู่ทะเลดำและตัดขาดการการติดต่อระหว่างดินแดนรัสเซียกับไครเมียโดยเส้นทางบก ซึ่งก็คือตัดเส้นที่รัสเซียจะเข้าถึงแคว้นเคียร์ซอนโดยทางบก หรืออย่างน้อยก็ให้สามารถรุกคืบให้ไกลพอที่จะทำให้คาบสมุทรไครเมียตกอยู่ในระยะการโจมตีของปืนใหญ่และจรวดหลายลำกล้อง

รัสเซียใช้ไครเมียเป็นฐานสำหรับกองเรือในทะเลดำของตน และเป็นฮับส่งกำลังบำรุงหลักสำหรับกองทหารรัสเซียในดอนบาส ซึ่งก็คือแคว้นโดเนตสก์ และแคว้นลูฮันสก์ทางภาคตะวันออกยูเครน

นิวยอร์กไทมส์รายงานเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ยูเครนบอกกับวอชิงตันว่า ปฏิบัติการดังกล่าวหากสำเร็จจะใช้เวลา 1-3 สัปดาห์ และเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวตลอดจนเพนตากอน เปิดเผยเมื่อวันพุธว่า เฝ้าดูกิจกรรมการตอบโต้ที่เพิ่มมากขึ้นอย่างกระตือรือร้น ซึ่งเจ้าหน้าที่อาวุโสคนหนึ่งระบุว่า นี่เป็นการทดสอบครั้งใหญ่

ในอีกด้านหนึ่ง จอห์น เคอร์บี้ โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว แถลงเมื่อวันพุธว่า ปฏิบัติการรุกตอบโต้ของยูเครนเวลานี้ไม่ได้หยุดชะงักลง แม้อาจไม่คืบหน้าเร็วเท่าที่ควรก็ตาม

เคอร์บี้สำทับว่า วอชิงตันจะตรวจสอบให้แน่ใจว่า ยูเครนมีอาวุธและศักยภาพที่จำเป็นเพื่อให้ปฏิบัติการตอบโต้เดินหน้าต่อไป

อเมริกาอนุมัติความช่วยเหลือทางทหารยูเครนไปแล้วเป็นมูลค่ามากกว่า 43,000 ล้านดอลลาร์นับจากรัสเซียเปิดฉากรุกรานในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ตอนต้นสัปดาห์นี้ เพนตากอนยังประกาศความช่วยเหลือด้านความมั่นคงเพิ่มเติมอีก 400 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน ยานยนต์หุ้มเกราะ และโดรนขนาดเล็ก

วันอาทิตย์ที่ผ่านมา (23 ) แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ อ้างว่า ยูเครนชิงดินแดนคืนได้ราวครึ่งหนึ่งของที่เสียไปตอนแรก รวมทั้งสำทับว่าปฏิบัติการรุกตอบโต้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น และอาจใช้เวลานานหลายเดือนกว่าจะเห็นความสำเร็จเป็นรูปเป็นร่าง

(ที่มา : อาร์ที, รอยเตอร์, เอเอฟพี)