กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ในวันอังคาร (25 ก.ค.) แถลงมอบความช่วยเหลือด้านความมั่นคงแก่ยูเครนเพิ่มเติมอีก 400 ล้านดอลลาร์ ในนั้นรวมถึงขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศ ยานเกราะและโดรนขนาดเล็ก หลังจากปฏิบัติการโจมตีตอบโต้รัสเซียของยูเครนมีความคืบหน้าอย่างช้าๆ
แพกเกจความช่วยเหลือรอบใหม่นี้จะเป็นครั้งแรกที่มีโดรนสอดแนมขนาดจิ๋ว "แบล็ก ฮอร์เนต" ที่ปรับแต่งในสหรัฐฯ แต่ผลิตโดยบริษัทเทเลไดน์ เฟรีย ดีเฟนส์ ส่วนหนึ่งของเทเลไดน์ เทคโนโลยีส์ รวมอยู่ในนั้นด้วย
โดรนฮอร์เนตที่สร้างโดยนอร์เวย์ เคยถูกใช้ในยูเครนมาก่อนแล้ว ผ่านการบริจาคของรัฐบาลสหราชอาณาจักรและนอร์เวย์ จากการเปิดเผยของทางบริษัท ในขณะที่ เฟรีย อันแมนน์ แอเรียล ซิสเต็มส์ เพิ่งได้รับสัญญามูลค่า 93 ล้านดอลลาร์ในเดือนเมษายน สำหรับจัดหาโดรนสอดแนมขนาดเล็กแก่กองทัพสหรัฐฯ
นอกเหนือจากนี้ แพกเกจอาวุธล่าสุดยังรวมไปถึงกระสุนสำหรับระบบป้องกันภัยทางอากาศแพทริออต และระบบขีปนาวุธยิงจากภาคพื้นสู่อากาศล้ำสมัย NASAMS ระบบต่อต้านอากาศยานสติงเจอร์ กระสุนเพิ่มเติมสำหรับระบบยิงจรวดหลายลำกล้องเคลื่อนที่เร็ว HIMARS ยานเกราะลำเลียงพลสไตรเกอร์ รวมถึงขีปนาวุธและจรวดอื่นๆ
ความช่วยเหลือนี้เป็นการใช้อำนาจของประธานาธิบดีตามกฎหมายส่งมอบสิ่งของและบริการยามฉุกเฉิน (Presidential Drawdown Authority) ที่ให้อำนาจประธานาธิบดีอนุมัติการส่งมอบสิ่งของและบริการต่างๆ จากคลังของสหรัฐฯ อย่างรวดเร็ว โดยไม่จำเป็นต้องผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรส ระหว่างสถานการณ์ฉุกเฉิน ในขณะที่ความช่วยเหลือเหล่านั้นจะหยิบมาจากคลังสำรองส่วนเกินของอเมริกา
ความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้ถือเป็นแพกเกจความช่วยเหลือด้านความมั่นคงรอบที่ 43 ที่สหรัฐฯ มอบให้แก่ยูเครน รวมแล้วสหรัฐฯ มอบความช่วยเหลือด้านการทหารแก่ยูเครนไปแล้วมากกว่า 43,000 ล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากรุกรานในเดือนกุมภาพันธ์ 2022
ในการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำแถลงความช่วยเหลือรอบล่าสุด แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เน้นย้ำว่ารัสเซียได้โจมตีท่าเรือต่างๆ และโครงสร้างพื้นฐานของยูเครน นับตั้งแต่ถอนตัวจากข้อตกลงส่งออกธัญพืชจากทะเลดำเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
"รัสเซียสามารถหยุดสงครามนี้ได้ทุกเมื่อด้วยการถอนกำลังของพวกเขาออกจากยูเครน และหยุดการโจมตีโหดร้ายป่าเถื่อนกับเมืองและประชาชนชาวยูเครน จนกว่าที่พวกเขาจะยอมหยุด สหรัฐฯ พันธมิตร และคู่หูของเรา จะยืนหยัดเคียงข้างยูเครน ตราบที่พวกเขาต้องการ" บลิงเคนระบุ
ข้อตกลงส่งออกธัญพืชจากทะเลดำ ที่มีสหประชาชาติและตุรกีเป็นคนกลาง คลอดออกมาเมื่อราว 1 ปีก่อน เพื่อต่อสู้กับวิกฤตขาดแคลนอาหารทั่วโลกที่เลวร้ายลงจากการรุกรานยูเครนของรัสเซีย เนื่องจากทั้งยูเครนและรัสเซีย ต่างเป็นผู้ส่งออกธัญพืชรายใหญ่ของโลก
สหราชอาณาจักรเปิดเผยในวันอังคาร (25 ก.ค.) ว่าพวกเขาได้รับข้อมูลบ่งชี้ว่ากองทัพรัสเซียอาจเริ่มเล็งเป้าโจมตีเรือสินค้าพลเรือนในทะเลดำ ส่วนสหภาพยุโรปรับปากจะช่วยยูเครนส่งออกผลผลิตด้านการเกษตรเกือบทั้งหมดผ่านการขนส่งทางรางและท้องถนน
(ที่มา : รอยเตอร์)