ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส ได้ร้องขอไปยัง ซีริล รามาโฟซา ประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ ในฐานะเจ้าภาพ ขอให้เชิญเขาเข้าร่วมประชุมซัมมิตกลุ่ม BRICS ในกรุงพริทอเรียที่กำลังมาถึงนี้ จากการเปิดเผยของหนังสือพิมพ์ L’Opinion ของฝรั่งเศสเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
หนังสือพิมพ์ L’Opinion รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศส ระบุว่า มาครง หยิบยกความเป็นไปได้ของการเข้าร่วมประชุมซัมมิตกลุ่ม BRICS ระหว่างพุดคุยทางโทรศัพท์กับ รามาโฟซา เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวเปิดเผยว่า รามาโฟซา ไม่ได้รับปากใดๆ "การปรากฏตัว ณ ที่ประชุมนี้ถูกพาดพิงระหว่างการสนทนากันของผู้นำทั้งสอง แต่พริทอเรียไม่ได้บ่งชี้ใดๆ ว่าจะขยายขอบเขตการประชุมนี้ไปยังผู้นำนานาชาติคนอื่นหรือไม่"
ถ้า มาครง ได้รับเชิญ เขาจะกลายเป็นผู้นำคนแรกของจี7 ที่ได้เข้าร่วมประชุมกลุ่ม BRICS ในขณะที่พวกผู้นำกลุ่ม BRICS และ มาครง ดูเหมือนจะมีความปรารถนาร่วมกันในการยกเครื่องกฎระเบียบการเงินโลกและภูมิรัฐศาสตร์โลก
ทั้งนี้ มาครง จะเป็นเจ้าภาพการประชุมหนึ่งในกรุงปารีสในสัปดาห์นี้ ซึ่งมีเป้าหมายในการยกเครื่องระบบการเงิน เพื่อผลประโยชน์ที่ดีขึ้นสำหรับบรรดาชาติกำลังพัฒนา โดย รามาโฟซา มีกำหนดเข้าร่วมประชุมดังกล่าวเช่นกัน และการประชุมนอกรอบระหว่างเขากับมาครง อาจเป็นการปูทางให้ประธานาธิบดีฝรั่งเศสสร้างประวัติศาสตร์ในพริทอเรีย
อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ระหว่าง มาครง กับบรรดาสมาชิกที่เหลือของกลุ่ม BRICS ทั้ง บราซิล รัสเซีย อินเดีย และจีน ดูจะไม่ราบรื่นนัก และปารีสส่งสารที่ผสมผสานถึงประเทศเหลานี้ ยกตัวอย่างเช่น มาครง เรียกร้องเจรจาสันติภาพในยูเครน วางตนเองในฐานะคนกลาง สนับสนุนแผนสันติภาพที่ร่างโดยยูเครน ซึ่งทางรัสเซียปฏิเสธโดยสิ้นเชิง แต่ในขณะเดียวกัน เขากลับเดินหน้าส่งมอบอาวุธหนักให้เคียฟ
เช่นเดียวกัน มาครง เรียกร้องยุโรปไม่ควรเดินตามสหรัฐฯ ในการเผชิญหน้ากับจีน และคัดค้านการเปิดสำนักงานประสานงานของนาโตในญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม เขากลับลงนามในแถลงการณ์ร่วมกับบรรดาผู้นำจี7 เมื่อเดือนที่แล้ว ที่ตราหน้าจีน "เป็นความท้าทายใหญ่หลวงที่สุดต่อความรุ่งเรืองและความมั่นคงของโลก" อันเป็นจุดยืนเดียวกับอเมริกา
นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2001 กลุ่ม BRICS เติบโตจากอักษรย่อ กลายเป็นพันธมิตรอย่างไม่เป็นทางการที่แซงหน้ากลุ่มจี7 ที่นำโดยสหรัฐฯ ในแง่สัดส่วนของจีดีพีโลก พวกเขามีธนาคารเพื่อการพัฒนาของตนเอง รวมถึงมีซาอุดีอาระเบีย อิหร่าน และอาร์เจนตินา เป็นหนึ่งในบรรดา 19 ชาติว่าที่สมาชิกด้วย
(ที่มา : อาร์ทีนิวส์)
