เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) บอกกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ระหว่างพูดคุยกันที่ทำเนียบขาวในวันอังคาร (13 มิ.ย.) ว่ายูเครนที่ได้รับการหนุนหลังจากตะวันตก "กำลังมีความคืบหน้า" ในปฏิบัติการโจมตีตอบโต้ขับไล่รัสเซียล่าถอยออกจากดินแดนยึดครอง และหวังว่ามันจะช่วยกดดันมอสโกเข้าสู่โต๊ะเจรจา
สโตลเทนเบิร์ก ซึ่งเดินทางเยือนทำเนียบขาว ก่อนหน้าการประชุมซัมมิตนาโต ในเมืองหลวงของลิทัวเนีย เดือนกรกฎาคม ให้มุมมองเชิงลึกเกี่ยวกับมุมมองของพันธมิตรทหารทรงอิทธิพลแห่งนี้ ที่มีต่อความพยายามพลิกสถานการณ์ของยูเครนให้กลับมาเป็นฝ่ายได้เปรียบเหนือรัสเซีย "ยูเครนกำลังมีความคืบหน้า และกำลังรุกคืบ" เขากล่าวที่ห้องทำงานรูปไข่
ก่อนหน้า ยูเครนพูดจาในแง่บวกเกี่ยวกับปฏิบัติการโจมตีตอบโต้ที่เตรียมการมาช้านานตามแนวหน้าทั้งหลายทางภาคตะวันออกและภาคใต้ ว่าท้ายที่สุดแล้วจะสามารถผลักดันทหารรัสเซียล่าถอยออกจากพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ
ทั้งนี้ สโตลเทนเบิร์ก เน้นย้ำว่าปฏิบัติการดังกล่าวเป็นหนทางหนึ่งสำหรับเพิ่มอำนาจต่อรองในการเจรจา สอดคล้องกับความเห็นของ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ที่เมื่อวันจันทร์ (12 มิ.ย.) แสดงความหวังว่าความสำเร็จในปฏิบัติการโจมตีตอบโต้ของยูเครน จะบีบให้ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เข้าสู่การเจรจายุติการรุกราน
"ยิ่งยูเครนสามารถปลดปล่อยดินแดนได้มากเท่าไหร่ พวกเขาจะมีสถานะที่เข้มแข็งขึ้นบนโต๊ะเจรจา" สโตลเทนเบิร์ก กล่าว
ไบเดน กล่าวต้อนรับ สโตลเทนเบิร์ก โดยบอกว่าปฏิกิริยาตอบสนองของนาโตต่อการรุกรานยูเครนของรัสเซีย ได้ทำให้พันธมิตรทหารแห่งนี้เข้มแข็งยิ่งขึ้น
"เราได้เสริมความเข้มแข็งบริเวณปีกตะวันออกของนาโต แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่าเราจะปกป้องทุกตารางนิ้วของดินแดนนาโต ผมขอพูดอีกครั้ง คำมั่นสัญญาของสหรัฐฯ ที่มีต่อมาตรา 5 ของนาโต แข็งแกร่งราวภูผาหิน" ไบเดนอ้างถึงคำสัญญาชาติสมาชิกจะปกป้องกันและกัน "ในที่ประชุมซัมมิตของเราในลิทัวเนียในเดือนหน้า เราจะยกระดับแรงขับเคลื่อนดังกล่าว"
ก่อนหน้านี้ สโตลเทนเบิร์ก ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ว่ามันยังอยู่ในวันแรกๆ ของปฏิบัติการโจมตีตอบโต้ ซึ่งเขาให้คำจำกัดความว่า "ยากลำบาก"
ขณะเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงมอบแพกเกจกระสุนและอาวุธหนักมูลค่า 325 ล้านดอลลาร์ เพิ่มเติมจากเสบียงอาวุธต่างๆ ที่จัดหาให้แก่ยูเครนก่อนหน้านี้ ท่ามกลางปฏิบัติการโจมตีตอบโต้ครั้งใหญ่
กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) ระบุว่าแพกเกจนี้จะมอบ "แสนยานุภาพที่สำคัญช่วยเหลือความพยายามของยูเครนในการทวงคืนดินแดนอธิปไตยของตนเองและสนับสนุนการป้องกันภัยทางอากาศของยูเครน ในขณะที่เหล่านั้นประกอบภารกิจด้วยความกล้าหาญ ปกป้องทหาร พลเมืองและโครงสร้างพื้นฐานของยูเครน"
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ออกคำสั่งรุกรานยูเครนประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2022 สามารถยึดดินแดนขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว ทว่านับตั้งแต่นั้นต้อเผชิญการต้านทานอย่างดุเดือดและหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ
ในเรื่องนี้ สโตลเทนเบิร์ก บอกว่าชาวยูเครน "มีสิทธิปลดปล่อยดินแดนของตนเอง" อย่างไรก็ตาม เขาให้คำจำกัดความการตัดสินใจของตะวันตกที่ให้การสนับสนุนยูเครน ว่าเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายอย่างกว้างๆ ของการธำรงไว้ซึ่งเสถียรภาพทั่วโลก
"การรุกรานยูเครนอันป่าเถื่อนของรัสเซีย ไม่ใช่แค่เป็นการโจมตียูเครน แต่มันเป็นการโจมตีค่านิยมหลักของเรา และเสรีชนทุกหนทุกแห่ง และเพราะฉะนั้น ประธานาธิบดีปูติน ไม่ควรได้รับชัยชนะในสงครามนี้ เพราะว่ามันจะไม่ใช่แค่เรื่องน่าเศร้าสำหรับชาวยูเครน แต่มันจะทำให้โลกอันตรายมากกว่าเดิม" เขากล่าว
สโตลเทนเบิร์กบอกด้วยว่า "มันจะเป็นการส่งสารถึงพวกผู้นำเผด็จการทั้งหลายทั่วโลก ในจีนด้วยเช่นกัน ว่า เมื่อพวกเขาใช้กำลังทหาร พวกขาจะได้รับในสิ่งที่พวกเขาต้องการ"
(ที่มา : เอเอฟพี)