ยูเครนจะไม่สามารถเข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ตราบใดที่สงครามกับรัสเซียยังคงมีการสู้รบกันอยู่ จากความเห็นของเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการใหญ่ของพันธมิตรทหารแห่งนี้เมื่อวันพุธ (24 พ.ค.)
"การก้าวมาเป็นสมาชิกนาโตท่ามกลางสงครามไม่อยู่ในวาระ" เขากล่าว ณ กิจกรรมหนึ่งที่จัดโดยมูลนิธิเยอรมัน มาร์แชล องค์กรคลังสมองไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดในสหรัฐฯ ในบรัสเซลส์ "ประเด็นคืออะไรจะเกิดขึ้นครั้งที่สงครามสิ้นสุดลงแล้ว"
ในเดือนกันยายน ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ประกาศสมัครเข้าเป็นสมาชิกนาโตแบบเร่งรัด (fast-track) หลังจากประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย กล่าวอ้างว่า 4 แคว้นของยูเครนที่อยู่ภายใต้การยึดครองบางส่วนเป็นดินแดนผนวกของทางรัสเซีย
บรรดาพันธมิตรนาโตยังไม่ได้ตอบรับคำร้องของเซเลนสกี โดยทางรัฐบาลชาติตะวันตกทั้งหลายแสดงความกังวลต่อความเคลื่อนไหวดังกล่าว ด้วยเกรงว่ามันอาจลากนาโตขยับเข้าใกล้การทำศึกสงครามกับรัสเซีย
อย่างไรก็ตาม ทั้งยูเครนและพันธมิตรใกล้ชิดที่สุดของเคียฟ บางชาติในยุโรปตะวันออก กำลังผลักดันให้นาโต อย่างน้อยๆ ก็ดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมในการดึงยูเครนเข้าใกล้การเข้าเป็นสมาชิกกลุ่ม ณ ที่ประชุมซัมมิตของพันธมิตรทหารแห่งนี้ในกรุงวิลนีอุส เมืองหลวงของลิทัวเนีย ในเดือนกรกฎาคม
"มันเป็นเวลาที่พันธมิตรจะหยุดหาข้อแก้ตัวและเริ่มกระบวนการที่จะนำไปสู่การอ้าแขนรับยูเครนในท้ายที่สุด" ดมีโทร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครนกล่าวเมื่อเดือนเมษายน "สิ่งที่เราต้องการคือ ถ้อยแถลงอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรที่ชัดเจนจากพันธมิตร ในการวางกรอบเส้นทางการเข้าเป็นสมาชิก"
คริสยานิส คารินส์ นายกรัฐมนตรีลัตเวีย กล่าวว่า รัสเซียจะเริ่มความขัดแย้งทั้งหมดอีกครั้งจนกว่ายูเครนจะได้รับการเปิดทางเข้าร่วมนาโตหลังสงครามสิ้นสุดลง "เพื่อมีสันติภาพที่ยั่งยืน เราจำเป็นต้องมียูเครน ยูเครนที่เป็นเอกราช เสรีและได้รับการปลดปล่อย เป็นส่วนหนึ่งพันธมิตรนาโต" เขากล่าวหลังการประชุมกับสโตลเทนเบิร์ก
ครั้งที่เดินทางเยือนกรุงเคียฟในเดือนเมษายน สโตลเทนเบิร์ก เน้นย้ำว่าอนาคตของยูเครนวางอยู่ในนาโต แต่เขาไม่ได้ให้กรอบเวลาที่แน่ชัด
นาโตเคยเห็นพ้อง ณ ที่ประชุมซัมมิตในบูคาเรตส์ เมื่อปี 2008 ว่าท้ายที่สุดแล้ว ยูเครนจะกลายมาเป็นสมาชิกของพันธมิตรทหารแห่งนี้ อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่นั้นพวกผู้นำก็ไม่ได้ดำเนินการใดๆ ที่เป็นรูปเป็นร่าง เช่น มอบแผนปฏิบัติการการเป็นสมาชิกแก่เคียฟ ซึ่งจะวางกรอบเวลาที่จะดึงประเทศแห่งนี้เข้านาโตมากยิ่งขึ้น
ระหว่างการให้สัมภาษณ์ล่าสุดในบรัสเซลส์ สโตลเทนเบิร์ก ยอมรับว่ามีความเห็นต่างในบรรดาชาติสมาชิกนาโตเกี่ยวกับแนวทางจัดการกับความทะเยอทะยานเข้าร่วมเป็นสมาชิกของยูเครน
"มีมุมมองที่แตกต่างกันในพันธมิตร และแน่นอนว่า หนทางเดียวในการตัดสินใจเรื่องต่างๆ ของนาโตนั่นก็คือ ต้องเป็นเอกฉันท์ เวลานี้ยังอยู่ระหว่างการปรึกษาหารือ" เขากล่าว "ไม่มีใครสามารถบอกกับคุณได้อย่างแน่ชัดว่าการตัดสินใจสุดท้ายของที่ประชุมซัมมิตในกรุงวิลนีอุส ในประเด็นนี้จะออกมาแบบไหน"
(ที่มา : รอยเตอร์)
