เกียวโดนิวส์รายงาน (25 พ.ค.) นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ฟูมิโอะ คิชิดะ ผูกสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพันธมิตรข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก ท่ามกลางความกังวลด้านความมั่นคงทั่วโลก เตรียมการเพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดนาโต ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในเดือนกรกฎาคม
แหล่งข่าวจากรัฐบาลระบุเมื่อวันพุธ คาดว่าการประชุมสุดยอดองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ที่ลิทัวเนีย คิชิดะ จะเจรจาทวิภาคีกับเจนส์ สโตลเตนเบิร์ก เลขาธิการนาโต เพื่อหารือเกี่ยวกับแผนการขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือในการเปิดสำนักงานประสานงานในกรุงโตเกียว
แหล่งข่าวกล่าวว่า คิชิดะ และสโตลเตนเบิร์ก มีแนวโน้มที่จะจัดทำเอกสารความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างญี่ปุ่นและนาโตฉบับใหม่ที่เรียกว่าความร่วมมือเฉพาะบุคคลเพื่อทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดในด้านต่างๆ เช่น อวกาศและการตอบสนองต่อข้อมูลที่บิดเบือน
คิชิดะเป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนแรกที่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดของนาโต เนื่องจากสภาพแวดล้อมด้านความมั่นคงมีความซับซ้อนมากขึ้นเมื่อเผชิญกับการรุกรานยูเครนของรัสเซีย ในปี 2565 ซึ่งยืดเยื้อมานานกว่า 1 ปีแล้ว รวมถึงอำนาจทางทหารที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของจีน
ก่อนหน้านี้ ในการประชุมสุดยอดที่สเปนเมื่อปีที่แล้ว คิชิดะได้แสดงความกระตือรือร้นที่จะทำเอกสารความร่วมมือกับนาโตเพื่อส่งเสริมความร่วมมือ
การเข้าร่วมของ คิชิดะ ใในการประชุมของนาโตที่ลิทัวเนีย อดีตส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียตที่ล่มสลาย จะเกิดขึ้นประมาณ 2 เดือนหลังจากที่เขาเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดจี-7
สโตลเตนเบิร์ก เซเลนสกี ผู้นำยูเครนจะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดของนาโตด้วย และจะเป็นครั้งแรกที่ลิทัวเนียเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดนี้ นับตั้งแต่เข้าร่วมเป็นพันธมิตรด้านความมั่นคง 31 ประเทศในปี 2547
นอกจากความเป็นไปได้ที่ยูเครนจะเข้าร่วมกับนาโตแล้ว ผู้นำของพันธมิตรยังพร้อมที่จะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความสำคัญของการหนุนเสริมความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างภูมิภาคอินโดแปซิฟิกและยุโรป โดยคำนึงถึงจีนเป็นหลัก
ในอีกความคืบหน้าหนึ่ง การประชุมสุดยอดสันติภาพที่เซเลนสกี เสนอระหว่างการชุมนุม G7 ในฮิโรชิมา ออาจจัดก่อนหรือหลังการประชุมนาโตที่ใดที่หนึ่งในยุโรป
แผนการตั้งสำนักงานของนาโตในกรุงโตเกียวได้รับการเปิดเผยเมื่อต้นเดือนนี้โดยเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตาม ในการประชุมรัฐสภาเมื่อวันพุธ คิชิดะ กล่าวว่า เขาไม่ทราบว่านาโตได้ตัดสินใจอย่างเป็นทางการในการเปิดสำนักงานประสานงานหรือไม่
คิชิดะดูเหมือนจะยังสำรวจจังหวะเวลาอย่างระมัดระวังโดยคำนึงถึงเพื่อนบ้าน รวมถึงจีนและรัสเซีย
ขณะที่จีนกล่าวว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจบ่อนทำลายความไว้วางใจระหว่างประเทศต่างๆ และเป็นอันตรายต่อสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค