ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย กล่าวอ้างในวันอังคาร (13 มิ.ย.) ว่ายูเครนประสบความสูญเสียเป็นอย่างหนักในปฏิบัติการโจมตีตอบโต้ สูงกว่ามอสโกถึง 10 เท่า แม้เคียฟอ้างว่าสามารถทวงคืนหมู่บ้านได้แล้ว 7 แห่ง และกำลังมีความคืบหน้ามากขึ้นเรื่อยๆ
คำประเมินของเขามีขึ้นไม่กี่ชั่วโมง หลังจากรัสเซียอ้างว่าสามารถยึดยานเกราะของตะวันตกจากกองกำลังเคียฟได้หลายคันในสนามรบ "ความสูญเสียของพวกเขาอยู่ในระดับที่สามารถให้คำจำกัดความว่าเข้าขั้นหายนะ" ปูติน กล่าวหลังการประชุมร่วมกับผู้สื่อข่าวและบล็อกเกอร์ชาวรัสเซีย ที่รายงานข่าวความขัดแย้งในวังเครมลิน "เรามีความสูญเสียน้อยกว่ากองกำลังยูเครน 10 เท่า" เขาระบุ
อย่างไรก็ตาม เคียฟออกมาตอบโต้กลับอย่างรวดเร็ว โดยยืนยันว่าปฏิบัติการตีโต้กลับของยูเครน ซึ่งได้รับการสนับสนุนด้านอาวุธและการฝึกฝนจากตะวันตก "สามารถรุกคืบได้บ้าง และกำลังมีความคืบหน้า เป็นไปตามแผนของเรา"
"กำลังมีการสู้รบกันอย่างดุเดือดทั้งในแง่ป้องกันตนเองและรุกคืบ ในภาคตะวันออกและภาคใต้ของประเทศของเรา" พล อ.วาเลรี ซาลุซนี ผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพยูเครนระบุบนสื่อสังคมออนไลน์ หลังจาก่อนหน้านี้ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เคียฟออกมากล่าวอ้างว่าสามารถทวงคืนหมู่บ้านได้หลายแห่งในแคว้นโดเนสตก์ ทางภาคตะวันออก
ปูติน ยอมรับระหว่างพบปะพูดคุยในวังเครมลิน ว่ากองกำลังรัสเซียกำลังประสบปัญหาคลังแสงยุทโธปกรณ์ทางทหารบางอย่างกำลังร่อยหรอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโดรนโจมตีและขีปนาวุธ พร้อมยอมรับด้วยว่าเจ้าหน้าที่ควรคาดการณ์เหตุโจมตีจากยูเครนข้ามพรมแดนเข้าสู่รัสเซียได้ดีกว่านี้ หลังจากเหตุโจมตีเหล่านั้นบีบให้มอสโกต้องประจำการปืนใหญ่และเครื่องบินขับไล่ในดินแดนของตนเอง
ความคิดเห็นของ ปูติน ที่เผยแพร่ผ่านสถานีโทรทัศน์ มีขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังจากรัสเซียยิงขีปนาวุธโจมตีเมืองบ้านเกิดของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 11 ราย
เจ้าหน้าที่ของเมืองครีวีลิก ที่อยู่ไม่ไกลมากจากเขื่อนคาคอฟกาที่แตกเมื่อสัปดาห์ที่แล้วทำให้น้ำทะลักท่วมดินแดนทางภาคใต้ของยูเครน แถลงว่า ประชาชนอย่างน้อย 25 คนได้รับบาดเจ็บ และยังมีอีกจำนวนหนึ่งติดอยู่ใต้ซากอาคารอพาร์ตเมนต์ 5 ชั้นที่ถูกรัสเซียถล่มเมื่อเช้ามืดวันอังคาร ส่วนยอดผู้เสียชีวิตที่รายงานล่าสุดคือที่อพาร์ตเมนต์ตาย 4 และที่คลังสินค้า 7 คน
เซเลนสกี โพสต์บนแพลตฟอร์มเทเลแกรม ประณามว่านักฆ่ารัสเซียยังคงทำสงครามโจมตีอาคารที่พักอาศัย เมืองปกติธรรมดา และประชาชนอย่างไม่ลดละ
ช่วงเช้าวันอังคาร (13 มิ.ย.) ทั่วทั้งยูเครนมีเสียงไซเรนเตือนภัยการโจมตีทางอากาศดังกึกก้อง อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ทหารในเคียฟอ้างว่า กองกำลังป้องกันภัยทางอากาศของพวกตนสามารถทำลายขีปนาวุธรัสเซียทุกลูกที่พุ่งเป้าโจมตีเมืองหลวงของยูเครน
ผู้บัญชาการทหารระดับสูงของยูเครนบอกว่า กองทัพอากาศสามารถสกัดขีปนาวุธทิ้งตัว จำนวน 10 ลูก จาก 14 ลูกที่รัสเซียโจมตีเมืองต่างๆ รวมทั้งโดรนที่ผลิตในอิหร่านไป 1 ลำ จากจำนวน 4 ลำ
การโจมตีเป็นระลอกมีขึ้นไม่นาน หลังจากมอสโกอ้างว่าสามารถยึด "เลพเพิร์ด" รถถังสัญชาติเยอรมนีได้หลายคัน เช่นเดียวกับ ยานสู้รบของทหารราบแบบแบรดลีย์ที่ผลิตโดยสหรัฐฯ
กระทรวงกลาโหมรัสเซียเผยแพร่คลิปวิดีโอเป็นภาพทหารมอสโกกำลังสำรวจอาวุธยุทโธปกรณ์ที่บรรดาชาติตะวันตกจัดหาให้ยูเครน "รถถังเพลเพิร์ดและยานสู้รบแบรดลีย์ เหล่านี้คือถ้วยรางวัลของเรา ยุทโธปกรณ์ของกองทัพยูเครนในแคว้นซาโปริซเซีย"
ก่อนหน้านี้เมื่อวันจันทร์ (12 มิ.ย.) สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ยูเครนต้องสูญเสียยานเกราะที่สหรัฐฯ จัดหาให้ 16 คัน แค่ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาอ้างอิงการวิเคราะห์ข่าวกรองที่ได้จากแหล่งข่าวเปิดทั่วไป พวกมันคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 15% จากทั้งหมด 109 คัน ที่วอชิงตันมอบให้แก่เคียฟ
เคียฟร้องขอพันธมิตรในตะวันตกสำหรับอาวุธยุทโธปกรณ์ล้ำสมัยอย่างครอบคลุม เพื่อช่วยเหลือกองกำลังของพวกเขาทวงคืนดินแดนอันกว้างขวางที่อยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซีย
ทางกระทรวงกลาโหมเยอรมนี ยอมรับว่า เบอร์ลิน ไม่สามารถหารถถังมอบให้ยูเครนได้ในทันที สำหรับทดแทนรถถังในส่วนที่ถูกทำลายหรือโดนยึดไป
เนเธอร์แลนด์ระบุในวันอังคาร (13 มิ.ย.) ว่าพันธมิตรตะวันตกอาจเริ่มฝึกฝนนักบินยูเครนสำหรับใช้เครื่องบิน F-16 ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า และถ้ามีการส่งมอบเครื่องบินรุ่นนี้จะกลายเป็นการมอบแรงสนับสนุนด้านการทหารล้ำสมัยที่สุดเท่าที่เคยมีมาที่ตะวันตกจัดหาให้เคียฟ
การโจมตีทั่วยูเครน เกิดขึ้นไม่นานหลังจากเคียฟอ้างว่าสามารถทวงคืนหมู่บ้านมาได้ 7 แห่ง และมีความก้าวหน้าในปฏิบัติการโจมตีตอบโต้ โดยที่ อันดรีย์ โควัลยอฟ โฆษกของกองทัพ ระบุว่า พื้นที่ที่ทวงคืนมาได้ในแคว้นต่างๆ ทางภาคตะวันออกและภาคใต้ เทียบเท่ากับพื้นที่ 100 ตารางกิโลเมตร
(ที่มา : เอเอฟพี)