รัสเซียถล่มบ้านเกิดเซเลนสกีตาย-เจ็บจำนวนมาก นักวิเคราะห์ชี้ยูเครนแค่เริ่มหยั่งเชิง ยังไม่ได้เปิดศึกใหญ่ แม้ทั้งเคียฟ-มอสโกต่างโวรบกันดุ ไล่อีกฝ่ายกระเจิง

ยูเครนกล่าวหารัสเซียยิงขีปนาวุธถล่มอพาร์ตเมนต์หลังหนึ่งและคลังสินค้าอีกหลายหลัง ในเมืองบ้านเกิดเซเลนสกี เมื่อเช้ามืดวันอังคาร (13 มิ.ย.) ส่งผลให้พลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 11 คน และบาดเจ็บอีกนับสิบ ขณะเดียวกัน เคียฟโวปฏิบัติการสวนกลับลื่นฉลุย สามารถชิงหมู่บ้านคืนรวม 7 แห่ง และยึดพื้นที่ได้ 90 ตารางกิโลเมตรตลอดแนวรบ 100 กิโลเมตรทางภาคใต้ ด้านมอสโกคุยทับ บอกฝ่ายตนขับไล่การโจมตีของยูเครนบริเวณใกล้ๆ 3 หมู่บ้าน พร้อมกับเผยแพร่วิดีโอที่ระบุว่าเป็นรถถังลีโอพาร์ด และยานสู้รบแบรดลีย์ หลายคันซึ่งฝ่ายตนยึดได้จากสมรภูมิ

เจ้าหน้าที่ของเมืองครีวีลิก ที่อยู่ไม่ไกลมากจากเขื่อนคาคอฟกาที่แตกเมื่อสัปดาห์ที่แล้วทำให้น้ำทะลักท่วมดินแดนทางภาคใต้ของยูเครน แถลงว่า ประชาชนอย่างน้อย 25 คนได้รับบาดเจ็บ และยังมีอีกจำนวนหนึ่งติดอยู่ใต้ซากอาคารอพาร์ตเมนต์ 5 ชั้นที่ถูกรัสเซียถล่มเมื่อเช้ามืดวันอังคาร ส่วนยอดผู้เสียชีวิตที่รายงานล่าสุดคือที่อพาร์ตเมนต์ตาย 4 และที่คลังสินค้า 7 คน

เมืองดังกล่าวเป็นบ้านเกิดของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี โดยตัวเขาโพสต์บนแพลตฟอร์มเทเลแกรม ประณามว่านักฆ่ารัสเซียยังคงทำสงครามโจมตีอาคารที่พักอาศัยและพลเรือน

ด้านมอสโกปฏิเสธว่า ไม่ได้มีเป้าหมายโจมตีพลเรือน ทั้งนี้ ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา รัสเซียเพิ่มการโจมตีเมืองต่างๆ ของยูเครนด้วยขีปนาวุธและโดรน ขณะที่เคียฟก็ประกาศยืนยันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เริ่มปฏิบัติการรุกตอบโต้ครั้งใหญ่ที่รอมานานเพื่อชิงดินแดนคืนจากรัสเซีย

ช่วงเช้าวันอังคาร ทั่วทั้งยูเครนมีเสียงไซเรนเตือนภัยการโจมตีทางอากาศดังกึกก้อง อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ทหารในเคียฟอ้างว่า กองกำลังป้องกันภัยทางอากาศของพวกตนสามารถทำลายขีปนาวุธรัสเซียทุกลูกที่พุ่งเป้าโจมตีเมืองหลวงของยูเครน

ขณะที่ผู้บัญชาการทหารระดับสูงของยูเครนบอกว่า กองทัพอากาศได้ทำลายขีปนาวุธทิ้งตัว จำนวน 10 ลูกจาก 14 ลูกที่รัสเซียโจมตีเมืองต่างๆ รวมทั้งโดรนที่ผลิตในอิหร่านไป 1 ลำ จากจำนวน 4 ลำ

เมื่อวันจันทร์ (12) หลังจากฝ่ายยูเครนแทบไม่เปิดปากอะไรเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลน้อยมากเกี่ยวกับปฏิบัติการตอบโต้ ฮันนา มาเลียร์ รัฐมนตรีช่วยกลาโหมยูเครน ได้ออกมาแถลงอ้างว่า สามารถยึดคืนหมู่บ้านได้ 7 แห่งตลอด 2 วันที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นความคืบหน้ามากที่สุดนับจากเดือนพฤศจิกายน โดยกองกำลังเคียฟรุกคืบเป็นระยะทางถึง 6.5 กิโลเมตร และยึดพื้นที่คืนได้ 90 ตารางกิโลเมตรตลอดแนวรบ 100 กิโลเมตรทางภาคใต้

ด้านรัสเซียไม่ยอมรับว่ากองทัพยูเครนมีความคืบหน้า ซ้ำระบุว่า สามารถขับไล่ทหารยูเครนที่พยายามรุกคืบนับจากวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา

ทางฝ่ายรัสเซียไม่ได้ยอมรับความคืบหน้าใดๆ ของฝ่ายยูเครน แต่อ้างว่ากองกำลังของตนสามารถขับไล่การรุกของฝ่ายยูเครนได้โดยตลอดตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายนเป็นต้นมา ในวันอังคาร กระทรวงกลาโหมแดนหมีขาวระบุว่า กองกำลังฝ่ายตนได้ผลักไสการโจมตีของยูเครนในบริเวณใกล้ๆ หมู่บ้าน 3 แห่ง

นอกจากนั้น ทางกระทรวงยังเผยแพร่วิดีโอที่ระบุว่าแสดงให้เห็นพวกรถถังลีโอพาร์ด ทำในเยอรมนี และยานสู้รบแบรดลีย์ ทำในสหรัฐฯ ซึ่งฝ่ายตนยึดได้ในสมรภูมิ

อย่างไรก็ดี พวกนักวิเคราะห์ทางทหารให้ความเห็นว่า การสู้รบซึ่งเกิดขึ้นในเวลานี้ที่สำคัญเป็นเพียงการโจมตีเพื่อทดสอบกำลังของฝ่ายยูเครน โดยที่เคียฟยังไม่ได้มีการใช้กองกำลังส่วนใหญ่ของตน เช่นเดียวกับแนวป้องกันหลักๆ ของฝ่ายรัสเซียก็ยังคงอยู่ในพื้นที่ตอนในลึกเข้าไปอีก

ในอีกด้านหนึ่ง มอสโกยังคงกล่าวหายูเครนยิงปืนใหญ่ข้ามพรมแดนเข้าไปโจมตีในดินแดนของตน โดยเมื่อวันอังคารผู้ว่าการแคว้นเคิร์สก์ ที่อยู่ติดกับชายแดนยูเครนเผยว่า มีบ้านเรือนหลายหลังได้รับความเสียหายและไฟฟ้าดับใน 2 หมู่บ้าน

ในวันอังคารเช่นกัน หน่วยงานความมั่นคงเอฟเอสบีของรัสเซียแถลงว่า ได้จับกุมอดีตพนักงานที่เคยทำงานในอุตสาหกรรมกลาโหมกลุ่มหนึ่งซึ่งต้องสงสัยว่า คอยสอดแนมสืบข่าวกรองทางทหาร รวมทั้งจัดหาเอกสารทางเทคนิคและโมเดลที่ใช้ในการผลิตระบบอาวุธและอุปกรณ์สำหรับกองทัพอากาศรัสเซียให้แก่ยูเครน อีกทั้งยังเกี่ยวข้องกับแผนระเบิดทางรถไฟในแคว้นเคิร์สก์ และแคว้นเบลโกร็อดของรัสเซีย

เอฟเอสบีเสริมว่า สามารถยึดอุปกรณ์จุดระเบิด เอกสารการออกแบบทางทหาร และผลิตภัณฑ์ที่ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการทหาร รวมทั้งเงิน 150,000 ดอลลาร์ และขณะนี้ได้เปิดการสอบสวนคดีอาญาอดีตพนักงานเหล่านี้แล้วในข้อหาขายชาติและเตรียมการก่อวินาศกรรม

(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี)