ศึกยูเครน-รัสเซียห้ำหั่นหนัก

ผู้นำยูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ ยอมรับอย่างเป็นทางการแล้วว่าปฏิบัติการตีโต้กองทัพรัสเซียได้เริ่มขึ้นแล้ว นายทหารในสมรภูมิมีขวัญและกำลังใจดี

“ได้ติดต่อกับผู้นำกองทัพแต่ละหน่วยทุกวัน ทุกคนพร้อม” นี่คือคำประกาศของผู้นำอดีตตัวตลกบนจอทีวี ซึ่งตัดสินใจผิดพลาด นำประเทศเข้าสู่สงครามกับรัสเซีย

ผลที่ปรากฏหลังจากการสู้รบกว่า 15 เดือน ยูเครนใกล้ภาวะสิ้นชาติเต็มทน

คำอ้างว่าแม่ทัพนายกองมีขวัญและกำลังใจดี เซเลนสกี้ต้องพูดอย่างนั้น จะให้ยอมรับความพ่ายแพ้ได้อย่างไร แม้ความเป็นจริงยูเครนได้เสียพื้นที่ 23 เปอร์เซ็นต์ให้รัสเซียยึดครอง และถูกผนวกเป็นของรัสเซียไปแล้ว ไม่มีทางที่จะเอาคืนได้

ความพินาศย่อยยับของโครงสร้างระบบสาธารณูปโภค ไฟฟ้า ประปา เครือข่ายการขนส่ง คมนาคม การป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพแทบไม่เหลือ

ทุกวันนี้ประชาชนมีเหลือเพียง 23 ล้าน จากเดิมที่เคยมีมากถึง 52 ล้านก่อนการปฏิวัติสีส้มในปี 2014 ภายใต้การสนับสนุน กำกับโดยรัฐบาลสหรัฐฯ

ทหารยูเครนเสียชีวิต ประเมินได้ว่าเกิน 2 แสนนาย บาดเจ็บ ทุพพลภาพประมาณ 2-3 แสนนาย เป็นการสูญเสียคนรุ่นหนุ่ม วัยกลางคนซึ่งเป็นกำลังหลักของประเทศ ประชาชนอยู่ในสภาพลำบาก บ้านแตกสาแหรกขาด ขาดแคลนทุกอย่าง

ปฏิบัติการตีโต้รัสเซียตั้งแต่ 7 วันที่ผ่านมา กองทัพยูเครนประสบความเสียหายจากความพยายามทะลวงเจาะแนวป้องกันของรัสเซีย ทหารเสียชีวิตประมาณ 3 พัน

ฝ่ายยูเครนยังไม่ยอมรายงานความเสียหาย ความเงียบดูเหมือนเป็นคำตอบ

ภาพจากรัสเซียแสดงให้เห็นยานรบต่างๆ ถูกทำลายเหลือแต่ซาก เป็นรถถัง รถรบส่งไปจากสหรัฐฯ อังกฤษ เยอรมนี ฝรั่งเศส และกลุ่มประเทศนาโต

เห็นได้ชัดว่าอาวุธต่างๆ จากโลกตะวันตกไม่สามารถช่วยกองทัพยูเครนได้ มีไม่เพียงพอ มีรถถังไม่กี่คันแต่ขาดการสนับสนุนด้วยปืนใหญ่และเครื่องบินขับไล่โจมตี

การส่งรถถัง ยานรบเข้าสู่สมรภูมิจึงเป็นเป้าให้กองทัพรัสเซียถล่มง่ายดาย

ที่ผ่านมาการสูญเสียมากถึง 70 เปอร์เซ็นต์ของทหารยูเครนไม่ใช่การสู้รบแบบซึ่งหน้า แต่ถูกถล่มด้วยอาวุธระยะไกลของรัสเซีย มีทั้งขีปนาวุธ จรวดนำวิถี จรวดร่อน ปืนใหญ่สนาม จรวดหลายลำกล้องที่เรียกว่า “สตาลิน ออร์แกน” โดรนกามิกาเซ่

กองทัพรัสเซียไม่ยอมให้เกิดการสูญเสียกำลังรบ จึงเน้นการใช้อาวุธลูกยาว โจมตียูเครนซึ่งระบบป้องกันการโจมตีทางอากาศไม่เพียงพอ

สหรัฐฯ ได้ส่งระบบต่อต้านการโจมตีทางอากาศแบบ Patriot แต่ไม่สามารถสกัดขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกหลายชนิดของรัสเซียได้ ซึ่งเป็นสหรัฐฯ ยังพัฒนาไม่สำเร็จ

การบุกของกองทัพยูเครนจึงจำเป็นต้องทำ รอมาหลายเดือนแล้ว บุกทั้งที่ไม่พร้อม และรู้ว่าจะเกิดการสูญเสียอย่างหนัก ไม่มีอะไรรับประกันชัยชนะ

การรบแบบขาดแคลน รบไปแบมือขอความช่วยเหลือจากกลุ่มนาโต ซึ่งไม่เต็มใจช่วยให้ทุกอย่างตามที่ต้องการ ทำให้ยูเครนรอวันสิ้นชาติแผ่นดินรอการถูกแบ่งแยก

การโจมตีเขื่อนคาคอฟกา กั้นแม่น้ำดนิโปร เป็นการแสดงออกให้เห็นถึงการเข้าตาจน ทำลายเขื่อนที่เป็นประโยชน์ต่อรัสเซียมากกว่า แม้พื้นที่ในยูเครนจมน้ำทางการยูเครนต้องอพยพประชาชนหลายหมื่นคน ระดับน้ำเริ่มลดลงแล้ว

การซ่อมแซมเขื่อนยังทำไม่ได้ตราบใดที่ยังมีการสู้รบกันอย่างหนัก

โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์บนเขื่อนนี้ใหญ่ที่สุดในยุโรป ต้องการระบบหล่อเย็นจากแม่น้ำผลิตกระแสไฟฟ้าให้รัสเซีย ทำให้ยูเครนต้องโจมตีเขื่อน แม้ไม่มีการยอมรับ ฝ่ายนาโตก็ไม่กล้าบอกว่าเป็นฝีมือของรัสเซีย คงรู้อยู่แล้วว่าเป็นผลงานของใคร

สถานการณ์ของยูเครนยังยากที่จะพลิกได้ ความช่วยเหลือจากรัฐบาลสหรัฐฯ มูลค่า 2.1 พันล้านดอลลาร์ที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ตั้งไว้ต้องใช้เวลาอีกนาน

เงินส่วนหนึ่งต้องจ่ายให้บริษัทผู้ผลิตอาวุธ และต้องใช้เวลาเช่นกัน การสู้รบในสภาพไม่พร้อมเท่ากับส่งคนไปตายนั่นเอง ยิ่งรบมากเท่าไหร่ บ้านเมืองยูเครนจะพินาศมากกว่าเดิมเพราะเป็นสมรภูมิหลัก รัสเซียเสียหายจากการโจมตีเล็กน้อย

ฝ่ายรัสเซียดูเหมือนจะมีปัญหากับกองกำลังรับจ้าง Wagner ที่ผู้นำเยฟเกนี พริโกซิน ขัดแย้งกับรัฐมนตรีกลาโหมและผู้นำกองทัพทำศึกกับยูเครน

ฝ่ายยูเครนประกาศว่าการสู้รบมีประสบความสำเร็จยึด 3 หมู่บ้านคืนได้ในแคว้นโดเนตสก์ ซึ่งถูกผนวกเข้ารวมกับรัสเซียผ่านการทำประชามติ มีภาพทหารยูเครนปักธงกลางหมู่บ้าน Blahodatne และ Makarivka ด้วย

การที่กองทัพรัสเซียถอยปล่อยให้ทหารยูเครนเข้ายึดพื้นที่นั้นต้องรอดูว่าเป็นแผนขุดบ่อล่อปลาหรือไม่ อย่างที่การสู้รบในเมืองบักห์มุต ซึ่งทหารยูเครนถูกล่อเข้าพื้นที่สังหาร สู้รบกันนานหลายเดือน ทหารยูเครนเสียชีวิต 5 หมื่นนาย

ยูเครนต้องระดมเกณฑ์ทหารภาคบังคับ ไล่กวาดคนจากท้องถนน ตามร้านอาหารเอาไปฝึกไม่กี่สัปดาห์แล้วเสียชีวิตในสมรภูมิ

ศึกครั้งนี้น่าจะเป็นตัวตัดสินว่ายูเครนจะสู้ได้อีกนานหรือไม่ และรัสเซียหวังปิดเกมก่อนที่ยูเครนจะได้อาวุธรุ่นใหม่จากสหรัฐฯ ขณะเดียวกันต้องดูว่าการเมืองสหรัฐฯ จะทำให้โจ ไบเดน ยังสนับสนุนทั้งอาวุธและเงินหรือไม่ด้วยเช่นกัน

ฝ่ายนาโตก็รู้ว่าสถานภาพจะเป็นอย่างไรแม้จะยังอยากให้ยูเครนสู้ต่อไป เยอรมนีและฝรั่งเศสจะยื้อกระแสกดดันของประชาชนให้ผละจากสงครามหรือไม่