รัสเซียคุยสกัดการโจมตีใหญ่วันที่สองในโดเนตสก์ สร้างความเสียหายใหญ่หลวงให้กองกำลังเคียฟ ทว่า นายใหญ่วากเนอร์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นปรปักษ์กับกองทัพรัสเซีย ออกมาเบรกว่า คำกล่าวอ้างที่ว่า ทหารยูเครนถูกสังหาร 1,500 นายภายในวันเดียวเป็นแค่นิยายวิทยาศาสตร์ที่บ้าคลั่งไร้สาระ ทางด้านเซเลนสกี ก็ยกยอกองทัพยูเครนรุกคืบในบัคมุต
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ยกยอทหารยูเครนในวิดีโอที่เผยแพร่บนโซเชียลมีเดียเมื่อคืนวันจันทร์ (5 มิ.ย.) และก่อนหน้านั้น แกนนา มัลยาร์ รัฐมนตรีช่วยกลาโหมก็แถลงว่า กองทัพยูเครนสามารถรุกคืบในเมืองบัคมุต ซึ่งอยู่ทางด้านตะวันออกของยูเครน และกลายเป็นสมรภูมิที่นองเลือดที่สุดในสงครามที่ดำเนินมากว่า 15 เดือน โดยที่เมื่อเดือนที่แล้วรัสเซียประกาศว่า สามารถยึดเมืองนี้ได้สำเร็จ
ยูเครนนั้นบอกมาเป็นแรมเดือนแล้วว่า เตรียมพร้อมสำหรับการรุกตอบโต้ครั้งใหญ่เพื่อชิงดินแดนที่เสียไปคืนจากรัสเซีย แต่จะไม่มีการประกาศว่า จะเริ่มต้นปฏิบัติการนี้เมื่อใด
ด้านหนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์รายงานว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ บางคนคิดว่า ปฏิบัติการตอบโต้ใหญ่ของยูเครนเริ่มต้นขึ้นแล้ว ขณะที่ จอห์น เคอร์บี โฆษกด้านความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว ปฏิเสธที่จะกล่าวถึงประเด็นนี้ แต่ระบุว่า ไม่ว่าเคียฟตัดสินใจอย่างไร ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของอเมริกา มั่นใจว่า ตลอดระยะเวลา 6-8 เดือนที่ผ่านมา สหรัฐฯ ทำทุกสิ่งที่ทำได้แล้วเพื่อให้แน่ใจว่า ยูเครนมีอาวุธ ได้รับการฝึกฝน และมีศักยภาพทั้งหมดที่จำเป็นเพื่อให้ปฏิบัติการตอบโต้ประสบความสำเร็จ
ช่วงหลายสัปดาห์มานี้มีการโจมตีหนักหน่วงขึ้นทั้งสองด้านของชายแดนที่ติดกับรัสเซีย และผู้เชี่ยวชาญทางทหารคาดว่า กองกำลังยูเครนกำลังทดสอบเพื่อหาจุดอ่อนของแนวป้องกันของรัสเซียก่อนเปิดปฏิบัติการตอบโต้ใหญ่เต็มพิกัด
ทางด้านรัสเซียนั้น กระทรวงกลาโหมแถลงในเช้าวันจันทร์ว่า ศัตรูเปิดฉากโจมตีครั้งใหญ่ 5 จุดทางใต้ของภูมิภาคโดเนตสก์เมื่อช่วงก่อนรุ่งสางของวันจันทร์ แต่กองทัพรัสเซียสามารถสกัดได้ ต่อมาทางกระทรวงได้ออกคำแถลงในเช้าวันอังคารอ้างว่า กองกำลังรัสเซียสามารถทำให้ฝ่ายเคียฟที่บุกเข้ามาต้องสูญเสียด้านกำลังพลอย่างมหึมา โดยรวมทั้งสิ้นยูเครนต้องสูญเสียทหารไป 1,500 คน นอกจากนั้นยังทำลายรถถังยูเครนไป 28 คัน ในจำนวนนี้เป็นรถถังหลักแบบลีโอพาร์ด 8 คัน และทำลายยานเกราะอื่นๆ ได้อีก 109 คัน
“หลังจากสูญเสียอย่างหนักหน่วงไปเมื่อวันก่อน ระบอบปกครองเคียฟได้นำเอากำลังเหลือเดนของกองพลน้อยยานยนต์ที่ 23 และที่ 21 มาจัดใหม่ให้กลายเป็นหน่วยกำลังรวมศูนย์ที่แยกจากกัน และให้หน่วยกำลังเหล่านี้ออกปฏิบัติการรุกต่อไปอีก” กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงเช่นนี้ทางแพลตฟอร์มเทเลแกรม
คำแถลงคุยว่า ความพ่ายแพ้ของฝ่ายยูเครนเกิดขึ้นมาจากการที่รัสเซียใช้ทั้งกำลังทหารบก กองอากาศยานโจมตีและการปฏิบัติการทางยุทธวิธี กองกำลังขีปนาวุธ และปืนใหญ่ ตลอดจนระบบอาวุธพ่นไฟขนาดหนัก
ทั้งฝ่ายรัสเซียและฝ่ายยูเครนมักกล่าวอ้างอยู่บ่อยครั้งว่าสามารถทำให้ฝ่ายตรงข้ามสูญเสียกำลังพลอย่างหนักหน่วง โดยที่สื่อต่างๆ ไม่สามารถที่จะพิสูจน์ยืนยันอย่างเป็นอิสระได้
อย่างไรก็ตาม ในวันอังคาร (6 มิ.ย.) เช่นกัน เยฟเกนี ปริโกจิน ผู้ก่อตั้งวากเนอร์ กรุ๊ป บริษัททหารรับจ้างของรัสเซียที่เป็นกำลังสำคัญในการโจมตีบัคมุต และเป็นไม้เบื่อไม้เมากับรัฐมนตรีกลาโหมตลอดจนผู้นำกองทัพรัสเซีย ได้ส่งเสียงวิจารณ์ว่า คำกล่าวอ้างของกระทรวงกลาโหมรัสเซียเป็นแค่นิยายวิทยาศาสตร์ที่บ้าคลั่งและไร้สาระ
ปริโกจิน กล่าวในแอปเทเลแกรมว่า การสังหารทหาร 1,500 นายภายในวันเดียวและในอาณาบริเวณ 150 กิโลเมตรต้องถือเป็นการสังหารหมู่ครั้งเลวร้าย
นอกจากนั้น นายใหญ่วากเนอร์ยังระบุว่า กองทัพยูเครนรุกคืบใกล้บัคมุต ขณะที่กองกำลังรัสเซียกลับค่อยๆ ถอนออกจากหมู่บ้านเบอร์คิฟกาใกล้เมืองดังกล่าวอย่าง “น่าอัปยศ”
ปริโกจินที่โจมตีกองทัพรัสเซียอย่างโจ่งแจ้งหลายต่อหลายครั้งสำทับว่า ยุทธวิธีที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียใช้อยู่ตอนนี้คือ แสร้งทำเป็นว่า สถานการณ์อยู่ในการควบคุมและรัสเซียสามารถรุกคืบได้ เรื่องนี้จะทำให้รัสเซียเพลี่ยงพล้ำมากขึ้นภายใน 2 สัปดาห์
นอกเหนือจากที่แคว้นโดเนตสก์ ในอีกด้านหนึ่ง วลาดิมีร์ โรกอฟ เจ้าหน้าที่ที่ได้รับแต่งตั้งจากมอสโกเปิดเผยว่า กองกำลังยูเครนเข้าโจมตีแคว้นซาโปริซเซีย ที่อยู่ทางภาคใต้ของยูเครน และเป็นที่ตั้งโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ใหญ่ที่สุดในยุโรป และเป็น 1 ใน 4 แคว้นที่รัสเซียเข้าผนวก ซึ่งรวมถึงโดเนตสก์ ลูฮันสก์ และเคียร์ซอน
โรกอฟสำทับว่า สถานการณ์การสู้รบในภูมิภาคนี้มีแนวโน้มรุนแรงเนื่องจากมีเดิมพันสูง
(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี)