(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.atimes.com)
Bakhmut update 5/10/2023
By STEPHEN BRYEN
10/05/2023
หรือว่าการโจมตีตอบโต้ของยูเครนในสมรภูมิเมืองบัคมุตช่วงนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติการรุกฤดูใบไม้ผลิของพวกเขา? และชะตากรรมของปรีโกจิน นายใหญ่กองกำลังวากเนอร์ จะเป็นอย่างไรต่อไปจากการเปิดฉากด่าทอพาดพิงถึงปูติน?
ยูเครนได้เปิดฉากการโจมตีตอบโต้กลับที่เมืองบัคมุต โดยบุกจากด้านตะวันตกและด้านตะวันตกเฉียงเหนือ กองกำลังยูเครนกำลังประสบความสำเร็จในการจัดตั้งหัวหาดขึ้นมาตรงพื้นที่ทางตะวันตกภายนอกเมืองนี้ และกำลังรักษาถนนที่ใช้เพื่อการส่งกำลังบำรุงสายหนึ่งให้ยังคงเปิดใช้การได้จวบจนถึงเวลานี้ ทั้งนี้ สำหรับฝ่ายป้องกันแล้ว พื้นที่ดังกล่าวนี้เป็นหน้าที่ของกองพลน้อยปืนยาวยานยนต์ที่ 72 (72nd Motorized Rifle Brigade) แห่งกองทัพบกรัสเซีย ซึ่งสังกัดอยู่กับกองทัพที่ 3 (3rd Army) ของรัสเซีย
ตามปากคำของ เยฟเกนี ปรีโกจิน (Yevgeny Prigozhin) ผู้ก่อตั้ง “กลุ่มวากเนอร์ กรุ๊ป” กองทหารรับจ้างของรัสเซีย กองพลน้อยปืนยาวยานยนต์ที่ 72 ได้ถอยร่น (อันที่จริงเขาถึงกับใช้คำว่า “วิ่งหนีไป”) เนื่องจากพวกเขาเผชิญกับข้าศึกที่มีจำนวนเหนือกว่า โดยที่ในความเห็นของผู้เขียนแล้ว การปฏิบัติการของฝ่ายยูเครนในครั้งนี้อย่างเก่งที่สุดก็คงเรียกได้ว่าเป็นการปฏิบัติการโจมตีทางปีกเท่านั้น
ปรีโกจิน พูดในวันพุธ (10 พ.ค.) ว่า เขากำลังตระเตรียมการปฏิบัติการที่จะจัดการกับหัวหาดของฝ่ายยูเครนดังกล่าวข้างต้น ถึงแม้มันไม่ได้เป็นที่ชัดเจนว่านั่นคือความรับผิดชอบของเขา เวลาเดียวกัน เขาได้เปิดฉากโจมตีด่าทอด้วยการพูดพาดพิงเป็นนัยๆ ถึงปูติน ซึ่งได้รับการเคารพยกย่องกันในรัสเซียในฐานะเป็น “คุณปู่” โดยเขาเรียกว่า “ไอ้งั่ง” เป็นเรื่องยากที่จะทำนายได้ว่า ปรีโกจิน จะอยู่รอดปลอดภัยในฐานะเป็นผู้นำของกลุ่มนักรบรับจ้าง “วากเนอร์” ไปได้อีกนานแค่ไหน
ระหว่างการให้สัมภาษณ์ในรูปของการอัดวิดีโอนำออกมาเผยแพร่ ปรีโกจินพูดแบบเผยความลับรั่วไหลออกมาว่า ตัวเขาได้รับคำสั่งที่ระบุว่าถ้าหากกลุ่มของเขาถอนตัวออกไป ก็จะถูกถือว่าเป็นการทรยศกบฏชาติ ทั้งนี้ก่อนหน้านั้น เขาข่มขู่ที่จะถอนตัวออกจากบัคมุต ถ้าหากไม่ได้รับเครื่องกระสุนและยุทธสัมภาระต่างๆ ตามที่เขาเรียกร้องไป (การให้สัมภาษณ์คราวนี้ของปรีโกจิน พร้อมคำแปลเป็นภาษาอังกฤษ สามารถติดตามชมได้ที่ https://twitter.com/i/status/1656004707876208643)
ทางด้านสำนักข่าวทาสส์ (Tass) ของทางการรัสเซีย รายงานโดยไม่ได้มีการอ้างอิงโดยตรงถึงการปฏิบัติการของฝ่ายยูเครน ระบุว่า “ทีมโจมตีของฝ่ายรัสเซียยังคงดำเนินปฏิบัติการรุกอย่างต่อเนื่องในบริเวณชานเมืองด้านตะวันตกเฉียงเหนือและด้านตะวันตกของเมืองอาร์เตมอฟสก์ (Artemovsk ชื่อที่ใช้เรียกเมืองบัคมุตในยุคสหภาพโซเวียต) ในวันที่ผ่านมา ระหว่างการปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครน”
(ดูรายงานของทาสส์ชิ้นนี้ได้ที่ https://tass.com/politics/1615485)
รายงานของทาสส์บอกว่า ตามเส้นแนวหน้าในแคว้นโดเนตสก์ (ซึ่งบัคมุตก็เป็นเมืองสังกัดอยู่ในแคว้นนี้ -ผู้แปล) ยูเครนได้นำเอากองพลน้อยยานยนต์ที่ 67 (67th Mechanized Brigade) กองพลน้อยโจมตีทางอากาศที่ 80 (80th Air Assault Brigade) และกองพลน้อยโจมตีที่ 5 (5th Assault Brigade) มาวางเอาไว้ หน่วยไหนกันแน่ที่กำลังปฏิบัติการอยู่ทางปีกด้านตะวันตกของบัคมุตนั้นยังไม่เป็นที่ชัดเจน เวลานี้การปฏิบัติการของฝ่ายรัสเซียประกอบด้วยการโจมตีการทางอากาศทั้งโดยใช้เครื่องบินขับไล่-ทิ้งระเบิด และเฮลิคอปเตอร์
การที่ยูเครนรักษาถนนเพื่อการส่งกำลังบำรุงสายดังกล่าวข้างต้นให้ยังเปิดเอาไว้ได้ จะทำให้สถานการณ์ในบัคมุตยืดเยื้อออกไป ขณะที่พวกเขาสามารถเคลื่อนกำลังทหารและเครื่องกระสุนป้อนเพิ่มเติมเข้าไปเมือง อย่างน้อยที่สุดก็จนถึงเวลานี้
กองทหารที่ยูเครนใช้ในการปฏิบัติการครั้งนี้ อาจเป็นการดึงเอามาจากหน่วยต่างๆ ซึ่งกำลังตระเตรียมสำหรับการโจมตีของฝ่ายยูเครนที่คาดกันว่ากำลังจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ากองทหารยูเครนหน่วยใดบ้างซึ่งเข้ามีส่วนอยู่ในการปฏิบัติการนี้
ฝ่ายรัสเซียดูเหมือนอยู่ในอาการเซอร์ไพรส์ที่ถูกตีโต้กลับที่บัคมุต นี่เห็นได้ชัดเจน
หรือว่ายูเครนเตรียมที่จะเทกำลังมากขึ้นเข้าไปที่หัวหาดดังกล่าว? ฝ่ายรัสเซียนั้นมีการป้องกันที่แข็งแกร่งซึ่งฝ่ายยูเครนจะต้องเอาชนะ ถ้าตัดสินใจบุกจริงๆ จังๆ
พิจารณาจากทัศนะมุมมองของการปฏิบัติการกันอย่างเคร่งครัดแล้ว การที่ยูเครนจะลงแรงใช้ความพยายามเพื่อยืนหยัดอยู่ที่บัคมุตต่อไปให้ได้ เป็นสิ่งที่ไม่มีเหตุมีผลทางการทหารเท่าใดนัก เนื่องจากมันจะกลายเป็นการเล่นไปตามยุทธศาสตร์ของฝ่ายรัสเซียที่มุ่งทำลายการทหารของยูเครนลงไปอย่างช้าๆ อย่างไรก็ดี จากข้อคำนึงในทางการเมืองและในทางจิตวิทยาแล้ว นี่คือสงครามของเซเลนสกี และเขากำลังเรียกร้องต้องการให้รักษาบัคมุตเอาไว้ให้ได้ ไม่ว่าต้องสิ้นเปลืองกันขนาดไหน
สันนิษฐานกันว่า ปรีโกจิน ต้องยึดเมืองบัคมุตให้เสร็จสรรพเรียบร้อยสำหรับการเฉลิมฉลองใน “วันแห่งชัยชนะ” (Victory Day) ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา แต่เขาล้มเหลวไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ ฝ่ายรัสเซียได้จัดการเดินขบวนสวนสนามตามรูปแบบและค่อนข้างเงียบเชียบขึ้นมาในกรุงมอสโก ด้วยความยิ่งใหญ่เอิกเกริกที่ต่ำกว่าบรรทัดฐานไปมากมาย อาวุธยุทโธปกรณ์ในภาคสนามที่สำคัญแทบทั้งหมดของกองทัพบกรัสเซียหายหน้าหายตาไปจากขบวนสวนสนามคราวนี้ เช่นเดียวกับพวกระบบการป้องกันภัยทางอากาศ แม้กระทั่งขีปนาวุธทางยุทธศาสตร์ที่อยู่ในการสวนสนามก็จำกัดอยู่เพียงไม่กี่ชิ้นเท่านั้น
การสวนสนามที่มีขนาดลดลงมามากเช่นนี้เป็นสิ่งที่ยากแก่การอธิบาย มันไม่อาจเป็นเพราะกองทัพรัสเซียไม่ได้มีอาวุธยุทโธปกรณ์สำหรับการนำออกมาโอ้อวดหรอก มันน่าจะเนื่องมาจากความจริงที่ว่าผลงานโดยรวมในสงครามยูเครนของคณะผู้นำทางทหาร ถูกทางฝ่ายผู้นำทางการเมืองของรัสเซียมองว่า อย่างเก่งที่สุด ก็ต้องถือว่าน่าผิดหวัง หรือว่ามันอาจจะเป็นเพราะปูติน ไม่ต้องการที่จะให้รางวัลกองทัพรัสเซีย จนกว่าผลงานในการปฏิบัติการที่ยูเครนจะกระเตื้องดีขึ้นกว่านี้
ในการการโจมตีตอบโต้ของฝ่ายยูเครนที่บัคมุตเวลานี้ หน่วยทหารที่ถอยออกมาจากการสู้รบ คือหน่วยของกองทัพบกรัสเซีย ไม่ใช่กองกำลังของกลุ่มวากเนอร์ ไม่ว่าเรื่องนี้จะเป็นการถอยหนีกระเจิงอย่างที่ยูเครนกล่าวอ้าง หรือว่าเป็นเพียงเรื่องที่คุณย่อมต้องกระทำตามสามัญสำนึก เมื่อเผชิญกับกองกำลังที่มีจำนวนเหนือกว่า เหล่านี้ย่อมขึ้นอยู่กับว่าตัวคุณมีจุดยืนอย่างไร
อีกสองสามวันข้างหน้าบางทีอาจจะบอกเราได้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นเพียงเหตุการณ์แบบครั้งเดียวจบ หรือว่าเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามโดยฝ่ายยูเครนที่จะทุ่มเทกองกำลังอย่างหนักหน่วงเข้าไปในการสู้รบเพื่อรักษาเมืองนี้เอาไว้ให้ได้
หมายเหตุ : หลังจากชะลอเวลามา 6 วัน เพนตากอนเพิ่ง “ยืนยัน” เมื่อวันอังคาร (9 พ.ค.) ว่า “แพทริออต” (Patriot) ได้ยิงขีปนาวุธคินชัล (Kinzhal) ตก ผมเชื่อว่านี่เป็นการยืนยันในทางการเมืองเพื่อสนับสนุนข้อกล่าวอ้างของยูเครน ไม่มีอะไรอื่นมากไปกว่านี้ พวกผู้เชี่ยวชาญแทบทั้งหมดไม่เชื่อว่า แพทริออต จะมีโอกาสใดๆ เมื่อเผชิญกับ คินชัล และผลงานก่อนหน้านี้ของแพทริออต ในตะวันออกกลางก็ค่อนข้างย่ำแย่
(ดูเพิ่มเติมได้ที่เรื่อง https://asiatimes.com/2023/05/is-patriot-shootdown-of-a-kinzhal-dezinformatsiya/
ของผู้เขียน)
สตีเฟน ไบรเอน เป็นนักวิจัยอาวุโสอยู่ที่ Center for Security Policy และ Yorktown Institute ข้อเขียนนี้หนแรกสุดเผยแพร่อยู่ในบล็อก Substack, Weapons and Strategy ของผู้เขียน