ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ในวันอังคาร(30พ.ค.) กล่าวหาเคียฟกำลังหาทางสร้างความตื่นกลัวแก่ประชาชนชาวรัสเซีย หลังส่งโดรนเล่นงานตึกสูงในมอสโก ถือเป็นการโจมตีลักษณะดังกล่าวครั้งแรกนับตั้งแต่เครมลินเริ่มจู่โจมยูเครน เหตุการณ์ที่สหรัฐฯต้องรุดออกมาปลีกตัวเองออกห่าง โดยเน้นย้ำว่าพวกเขาไม่สนับสนุนให้เคียฟโจมตีภายในรัสเซีย
ในขณะที่โดรนโจมตีทั้งในและรอบๆกรุงมอสโก อีกด้านหนึ่งโดรนของรัสเซียก็ถูกส่งเข้าถล่มเป้าหมายต่างๆในกรุงเคียฟเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน ท่ามกลางสัญญาณว่ายูเครนกำลังเร่งเครื่องสำหรับเปิดปฏิบัติการโจมตีตอบโต้ครั้งใหญ่รุกไล่กองกำลังรัสเซีย
เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่มีใครได้รับบาดเจ็บร้ายแรงในมอสโก และอาคารที่พักอาศัยได้รับความเสียหายเพียงเล็กๆน้อยๆ อย่างไรก็ตามชาวบ้านบางส่วนบอกว่าพวกเขาไม่เคยคิดฝันมาก่อนเลยว่า เมืองหลวงของรัสเซียจะถูกโจมตีเช่นนี้
"ฉันคิดว่ามันเป็นบางอย่างที่อยู่ห่างออกไปมาก และมันคงไม่ส่งผลกระทบกับเรา และทันใดนั้น มันเริ่มขยับเข้ามาใกล้ๆมากๆ" ทัตนายา คาลินินา พลเมืองวัยเกษียณอายุให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี ในพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของมอสโก ใกล้อาคารที่พักอาศัยหลังหนึ่งที่ได้รับความเสียหาย
ปูติน บอกว่าระบบป้องกันภัยทางอากาศของมอสโกได้ผล พร้อมอ้างว่าการโจมตีของเคียฟ เป็นปฏิบัติการโจมตีกรณีที่รัสเซียโจมตีกองบัญชาการข่าวกรองทหารของยูเครน "รัฐบาลเคียฟเลือกหนทางที่ต่างออกไป ในการสร้างความตื่นตระหนักแก่ชาวรัสเซีย"
กระทรวงกลาโหมรัสเซียเผยว่าโดรน 8 ลำ ถูกใช้ในการโจมตี พร้อมระบุ 5 ในนั้นถูกสอยร่วงและอีก 3 ลำไม่ทำงาน ส่วนกระทรวงการต่างประเทศกล่าวโทษตะวันตก โดยบอกว่า "การที่ตะวันตกให้การสนับสนุนรัฐบาลเคียฟ กำลังผลักผู้นำยูเครนมุ่งหน้าสู่การกระทำที่ขาดความยั้งคิดมากขึ้นเรื่อยๆ ในนั้นรวมถึงก่อการร้าย"
อย่างไรก็ตามสหรัฐฯเน้นย้ำว่าพวกเขาไม่สนับสนุนการโจมตีภายในดินแดนของรัสเซีย "เรามุ่งเน้นจัดหายุทโธปกรณ์และการฝึกฝนแก่ยูเครน ที่พวกเขาจำเป็นต้องได้รับเพื่อทวงคืนดินแดนอธิปไตยของตนเอง" โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอเมริการะบุ ขณะที่ มีไคโล โพโดลยัค ที่ปรึกษาประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ก็บอกเช่นกันว่าเคียฟ "ไม่เกี่ยวข้องโดยตรง" กับการโจมตี
โดรน 2 ลำตกใส่อาคารที่พักอาศัยสูงระฟ้าในพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของมอสโก และอีกลำก่อความเสียหายแก่อาคารที่พักอาศัยแห่งหนึ่งในแถบชานเมือง ส่วนลำอื่นๆถูกสอยร่วงนอกกรุงมอสโก และเศษซากบางส่วนถูกพบห่างจากบ้านพักโนโว-โอการ์โยโว ของปูติน แค่ราวๆ 15 กิโลเมตร
ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นเดือน โดรน 2 ลำถูกสกัดได้เหนือวังเครมลิน แต่เหตุโจมตีเมื่อวันอังคาร(30พ.ค.) ถือเป็นครั้งแรกที่อากาศยานไร้คนขับพุ่งใส่ย่านที่พักอาศัยของกรุงมอสโก ซึ่งอยู่ห่างจากแนวหน้าในยูเครนหลายร้อยกิโลเมตร
การจู่โจมครั้งนี้น่าจะสร้างความอับอายแก่เครมลินไม่น้อย ในขณะที่พวกเขาเคยพูดยาวเหยียดรับประกันว่าความขัดแย้งยืดเยื้อในยูเครน ไม่เสี่ยงเป็นภัยคุกคามกับประชาชนชาวรัสเซีย
เซอร์เก ซอบยานิน นายกเทศมนตรีมอสโกเผยว่ามีประชาชน 2 รายที่ขอรับความช่วยเหลือทางการแพทย์ แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรงใดๆ ขณะเดียวกันอาคารที่พักอาศัยที่ได้รับความเสียหายจากเหตุโจมตี ได้มีการอพยพช่วงสั้นๆ
บนถนน Profsoyuznaya อาคารที่พักอาศัยหลังหนึ่งที่ได้รับความเสียหายถูกปิดกั้นโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่บรรยากาศเป็นไปอย่างสงบ พบเห็นเด็กๆเล่นกันอยู่ด้านนอกและผู้คนเดินจูงสุนัข ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีรายงาน พร้อมระบุว่ามีชาวบ้านบางส่วนถูกย้ายไปยังโรงเรียนใกล้เคียงแห่งหนึ่ง มีการจัดชาและภาพยนตร์ยุคโซเวียตไว้ต้อนรับ
ชาวบ้านรายหนึ่งเปิดเผยกับบรรดาผู้สื่อข่าวรัสเซีย ด้วยว่าโดรนลำหนึ่งพุ่งใส่อพาร์ทเมนต์ห้องหนึ่งบนชั้น 14 ของอาคารสูงหลังหนึ่งบนถนน Leninsky Prospekt แต่มันไม่เกิดระเบิด
ในขณะเดียวกันอีกด้านหนึ่ง ยูเครน เผยว่าพวกเขาจัดการสอยร่วงโดรน 29 จากทั้งหมด 31 ลำ ส่วนใหญ่เหนือกรุงเคียฟและแคว้นเคียฟ ในการโจมตีระลอกล่าสุดของรัสเซีย ซึ่งถือเป็นการโจมตีเมืองหลวงของยูเครนระลอกที่ 3 ในรอบ 24 ชั่วโมง
เคียฟแถลงว่า โดรนรัสเซียที่เข้าโจมตียูเครนในวันอังคาร(30พ.ค.) ทำให้มีผู้เสียชีวิตทั่วประเทศ 4 คน และบาดเจ็บ 34 คน ส่วนกองทัพยูเครนอ้างว่า ยิงโดรน “ชาเฮด” ที่ผลิตในอิหร่าน ร่วงกว่า 20 ลำ ในเขตกรุงเคียฟ
เจ้าหน้าที่ยูเครนบอกด้วยว่า มีผู้เสียชีวิต 1 คนและบาดเจ็บ 4 คน หลังจากซากโดรนของรัสเซียร่วงใส่อพาร์ตเมนต์ที่เป็นอาคารสูงทำให้เกิดไฟไหม้ และสองชั้นบนสุดเสียหายซึ่งเป็นไปได้ว่า ยังมีคนติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง
เซอร์ฮีย์ ป็อปโค หัวหน้าคณะบริหารทางการทหารในเคียฟ ระบุว่า การโจมตีมีความรุนแรง มาจากหลายทิศทางและหลายระลอก
อนึ่งในเดือนพฤษภาคม รัสเซียได้โจมตีเคียฟรวม 17 ครั้งด้วยโดรนหรือขีปนาวุธ ส่วนใหญ่เกิดขึ้นตอนกลางคืน
(ที่มา:เอเอฟพี)
