เกิดเหตุระเบิดหลายระลอกในเคียฟเมื่อช่วงเช้าวันจันทร์ (29 พ.ค.) และทางการต้องแจ้งให้ประชาชนงดออกจากสถานที่หลบภัย หลังจากเมืองหลวงของยูเครนเพิ่งถูกถล่มไปในตอนดึกวันอาทิตย์ (28) รวมทั้งช่วงดึกวันเสาร์ (27) ต่อเนื่องถึงรุ่งสางวันอาทิตย์ (28) นอกจากนี้ เคียฟยอมรับว่า รัสเซียยังโจมตีที่ตั้งทางทหารในเมืองคาเมลนิตสกี้ ส่งผลให้เครื่องบิน 5 ลำได้รับความเสียหาย ขณะเดียวกัน ผู้ว่าการเบลโกร็อดของรัสเซียเผยว่า เขตที่พักอาศัยหลายแห่งถูกลอบโจมตีด้วยปืนใหญ่ คาดเป็นฝีมือกองกำลังยูเครน
ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ได้ยินเสียงระเบิดอย่างน้อย 10 ครั้งในเคียฟเมื่อเวลาประมาณ 11.10 น. วันจันทร์ หลังจากระบบเตือนภัยการโจมตีทางอากาศทำงานไม่นาน
วิตาลี คลิตช์โก ผู้ว่าการเคียฟเผยว่า รัสเซียโจมตีเขตต่างๆ ใจกลางเคียฟ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยนักในตอนกลางวัน และประกาศให้ประชาชนอยู่ในสถานที่หลบภัยต่อไป
เคียฟที่รอดพ้นจากการโจมตีนับจากต้นปี มาเดือนนี้กลับต้องเผชิญการโจมตีทางอากาศเกือบทุกคืน
ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่เผยว่า เคียฟได้สกัดการโจมตีส่วนใหญ่เมื่อคืนวันอาทิตย์ (28 พ.ค.) โดยไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ยูริ อินัต โฆษกกองทัพอากาศยูเครน แถลงว่า รัสเซียโจมตีในช่วงเช้าวันจันทร์ด้วยขีปนาวุธทิ้งตัวซึ่งคาดว่าเป็นขีปนาวุธอิสกันเดอร์ และอาจรวมถึงขีปนาวุธเอส-300 และเอส-400 ซึ่งเป็นข้อมูลที่ผู้สังเกตการณ์บอกว่าฟังดูประหลาดๆ เพราะ 2 อย่างหลังนี้เป็นชื่อระบบขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซีย ไม่ใช่อาวุธเพื่อการโจมตี
สำหรับการโจมตีระลอกล่าสุด วาเลรี ซาลุซนี ผู้บัญชาการกองทัพยูเครน เปิดเผยบนโซเชียลมีเดียว่า รัสเซียโจมตีด้วยขีปนาวุธ 40 ลูก และโดรนราว 35 ลำ ทว่า ยูเครนสามารถทำลายขีปนาวุธ 37 ลูกและโดรน 29 ลำ
ตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า เปอร์เซ็นต์ของขีปนาวุธโดรนรัสเซียที่ถูกยิงร่วงดูเหมือนลดลง
การโจมตีระลอกล่าสุดยังเกิดขึ้นหลังจากเคียฟเพิ่งเผชิญการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 15 เดือนเมื่อคืนวันเสาร์ (27 ) ต่อเนื่องถึงรุ่งสางวันอาทิตย์
ที่เมืองคาเมลนิตสกี้ทางตะวันตกของยูเครน เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเผยว่า รัสเซียได้ถล่มที่ตั้งทางทหารเมื่อคืนวันอาทิตย์ และมีการยอมรับแบบที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยนักว่า เครื่องบิน 5 ลำเสียหายใช้การไม่ได้ นอกจากนี้ ยังเกิดไฟไหม้ในคลังเชื้อเพลิงและน้ำมันหล่อลื่น และรันเวย์ได้รับความเสียหาย
เวลานี้ เคียฟบอกกำลังเตรียมการเริ่มปฏิบัติการโจมตีโต้ตอบครั้งใหญ่ ซึ่งเป็นสิ่งที่มีการคาดเดากำหนดเวลาและเป้าหมายมานานหลายเดือน ขณะที่ทางการยูเครนแทบไม่เปิดเผยข้อมูลใดๆ นอกจากเรียกร้องขออาวุธเพิ่มจากพันธมิตร
ขณะเดียวกัน วียาเชสลาฟ กลัดคอฟ ผู้ว่าการแคว้นเบลโกร็อดของรัสเซีย แถลงผ่านแอปเทเลแกรมเมื่อวันจันทร์ว่า โรงงานอุตสาหกรรม 2 แห่งในเมืองเชเบกิโนที่อยู่ติดกับชายแดนยูเครนถูกโจมตีด้วยปืนใหญ่ และพนักงาน 4 คนได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้ เขตที่พักอาศัยหลายแห่งยังถูกโจมตีพร้อมกันส่งผลให้ไม่มีไฟฟ้าใช้ โดยเชื่อว่า เป็นฝีมือกองทัพยูเครน
นับจากรัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 เบลโกร็อดตกเป็นเป้าหมายการโจมตีหลายครั้งจากกองทัพยูเครน
สัปดาห์ที่แล้วกองกำลังยูเครนข้ามชายแดนเข้าไปโจมตีหมู่บ้าน และยึดเขตที่พักอาศัยหลายแห่งในเบลโกร็อดได้ช่วงสั้นๆ โดยมีการอ้างว่าได้ล่าถอยข้ามชายแดนกลับไป ขณะที่ฝ่ายรัสเซียคุยว่าทำลายกองกำลังเหล่านี้ได้หมดสิ้นหลายสิบคน
อย่างไรก็ดี เคียฟเกือบจะไม่เคยป่าวประกาศความรับผิดชอบอย่างเป็นทางการในการโจมตีในดินแดนรัสเซีย และดินแดนที่รัสเซียยึดครองในยูเครนเลย แต่ระบุว่า การทำลายโครงสร้างพื้นฐานเป็นการเตรียมการสำหรับปฏิบัติการตอบโต้
อนึ่ง เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย เพิ่งสั่งยกระดับการรักษาความปลอดภัยแนวชายแดนเพื่อให้แน่ใจว่า การเคลื่อนย้ายทางทหารและพลเรือนเข้าสู่ดินแดนยึดครองในยูเครนจะสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว
(ที่มา : เอเอฟพี, รอยเตอร์)
