โดรนยูเครนหลายลำโจมตีกรุงมอสโกและพื้นที่รอบๆ เมื่อวันอังคาร (30 พ.ค.) แต่ถูกสกัดหรือเปลี่ยนเส้นทางได้ทั้งหมด และสร้างความเสียหายเล็กน้อย ขณะที่โดรนรัสเซียก็เข้าถล่มกรุงเคียฟเป็นรอบที่ 3 ในระยะเวลา 24 ชั่วโมง ท่ามกลางรายงานข่าวว่ายูเครนเร่งเตรียมการสำหรับการเปิดโจมตีตอบโต้ครั้งใหญ่ใส่กองกำลังรัสเซียตามที่คาดการณ์กันมาหลายเดือนแล้ว
นับจากที่รัสเซียส่งทหารบุกยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว การสู้รบส่วนใหญ่จำกัดวงอยู่ในดินแดนยูเครน แม้มอสโกรายงานว่า ดินแดนบางแห่งถูกโจมตี ซึ่งรวมถึงความพยายามในการลอบสังหารประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ด้วยโดรน 2 ลำที่ระเบิดเหนือทำเนียบเครมลินเมื่อสองสัปดาห์ก่อน และเชื่อว่า เป็นฝีมือเคียฟก็ตาม
สำหรับการโจมตีด้วยโดรนในเมืองหลวงรัสเซียที่เกิดขึ้นตอนเช้าวันอังคาร (29) เซียร์เก โซบียานิน นายกเทศมนตรีกรุงมอสโก ระบุว่าส่งผลให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บไม่สาหัส 2 คน และผู้พักอาศัยบางส่วนต้องอพยพออกจากอาคารอพาร์ตเมนต์ 2 บล็อกที่ได้รับความเสียหายเล็กน้อย
ขณะที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงว่า มีโดรน 8 ลำถูกใช้ในการโจมตีครั้งนี้ 5 ลำถูกยิงตก ส่วนอีก 3 ลำได้รับความเสียหายจากสงครามอิเล็กทรอนิกส์ และเบี่ยงเบนจากเป้าหมายที่ถูกกำหนดไว้ให้เข้าโจมตี
ในจำนวนนี้มีอยู่ 3 ลำซึ่งตกใส่อาคารที่พักอาศัย โดยที่ 2 ลำในจำนวนนี้ตกลงไปในกลุ่มอาคารสูงทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของมอสโกซึ่งเป็นถิ่นพำนักของผู้มีฐานะมั่งคั่ง ขณะที่ลำที่ 3 สร้างความเสียหายให้อาคารที่พักอาศัยหลังหนึ่งในย่านชานเมืองแห่งหนึ่งของนครหลวงรัสเซีย
โดรนลำอื่นๆ ตกที่ด้านนอกมอสโก โดยที่พบเศษซากบางส่วนในบริเวณห่างไปราวๆ 15 กิโลเมตรจากบ้านพักในโนโว-โอการ์โยโว ชานกรุงมอสโกของประธานาธิบดีปูติน
การโจมตีคราวนี้น่าที่จะถูกมองว่าเป็นการทำลายขวัญทางจิตวิทยาและสร้างความอับอายขายหน้าให้แก่เครมลิน ขณะที่ ดมิตริ เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน แถลงว่า สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้ถือเป็น “ภัยคุกคาม” ต่อชาวรัสเซีย พร้อมกับบอกว่า ตัวปูตินซึ่งเป็นคนทำงานเช้ามาก ได้รับแจ้งข้อมูลเรื่องการโจมตีในแบบ “เรียลไทม์”
เปสคอฟกล่าวด้วยว่า เชื่อว่าการโจมตีมอสโกครั้งนี้ เป็นการที่ฝ่ายเคียฟ “ตอบโต้” ฝ่ายรัสเซียเข้าถล่มโจมตียูเครนอย่างหนักในช่วงหลังๆ นี้
“มันเป็นสิ่งที่ชัดเจนสุดๆ ว่า เรากำลังพูดกันถึงพฤติการณ์การตอบโต้โดยระบอบปกครองเคียฟ ต่อการโจมตีอย่างได้ผลมากใส่ศูนย์บัญชาการแห่งหนึ่ง (ในยูเครน)” โฆษกผู้นี้กล่าว โดยไม่ได้อธิบายเพิ่มเติมว่าการโจมตีดังกล่าวของรัสเซียเกิดขึ้นมาเมื่อใด
สำหรับปฏิกิริยาของฝ่ายยูเครน ยังอยู่ในลักษณะยินดีที่มีการโจมตีฝ่ายรัสเซีย แต่ไม่ยอมรับว่าตนเองมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย โดยที่ มิไคโล โปโดลยัค ผู้ช่วยประธานาธิบดียูเครน แถลงว่ เคียฟไม่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับการโจมตีมอสโกเมื่อวันอังคาร แต่สำทับว่า ยินดีที่ได้เห็นและคาดว่า จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกในอนาคต
ขณะที่ในอีกด้านหนึ่ง เคียฟแถลงว่า โดรนรัสเซียที่เข้าโจมตียูเครนในวันอังคาร ทำให้มีผู้เสียชีวิตทั่วประเทศ 4 คน และบาดเจ็บ 34 คน ส่วนกองทัพยูเครนอ้างว่า ยิงโดรน “ชาเฮด” ที่ผลิตในอิหร่าน ร่วงกว่า 20 ลำ ในเขตกรุงเคียฟ
เจ้าหน้าที่ยูเครนบอกด้วยว่า มีผู้เสียชีวิต 1 คนและบาดเจ็บ 4 คน หลังจากซากโดรนของรัสเซียร่วงใส่อพาร์ตเมนต์ที่เป็นอาคารสูงทำให้เกิดไฟไหม้ และสองชั้นบนสุดเสียหายซึ่งเป็นไปได้ว่า ยังมีคนติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง
เซอร์ฮีย์ ป็อปโค หัวหน้าคณะบริหารทางการทหารในเคียฟ ระบุว่า การโจมตีมีความรุนแรง มาจากหลายทิศทางและหลายระลอก
ในเดือนพฤษภาคมนี้รัสเซียโจมตีเคียฟรวม 17 ครั้งด้วยโดรนหรือขีปนาวุธ ส่วนใหญ่เกิดขึ้นตอนกลางคืน
อย่างไรก็ดี ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ของยูเครน แถลงเมื่อคืนวันจันทร์ (29 ) ระบุว่า ระบบป้องกันขีปนาวุธแพทริออตของอเมริกาบรรลุผล 100% ในการสกัดอาวุธของศัตรู และประกาศว่า ผู้ก่อความรุนแรงจะต้องพ่ายแพ้ ทั้งนี้ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ ฝ่ายอเมริกันยอมรับว่า มีระบบแพทริออตชุดหนึ่งในยูเครนได้รับความเสียหายเล็กน้อย จากการโจมตีของรัสเซีย
ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ยูเครนหลายคนบอกว่ากำลังจะเปิดปฏิบัติการตอบโต้รัสเซียด้วยอาวุธที่ตะวันตกจัดหาให้เพื่อชิงดินแดนที่ถูกยึดไปคืนจากรัสเซีย
ที่แนวรบด้านตะวันออก มีรายงานว่าทหารพลร่มและหน่วยรบเคลื่อนที่ของรัสเซียเข้าประจำการในเมืองบัคมุต ซึ่งเป็นสมรภูมิหลักในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แทนทหารรับจ้างของวากเนอร์ กรุ๊ป
มอสโกประกาศว่า การบุกยูเครนมีเป้าหมายในการ “ทำลายลัทธินาซี” ในยูเครน และปกป้องพลเมืองที่พูดภาษารัสเซีย ทว่า ตะวันตกโต้ว่า รัสเซียต้องการยึดดินแดนของยูเครน
รัฐมนตรีต่างประเทศ เซียร์เก ลาฟรอฟ ของรัสเซีย ที่กำลังอยู่ระหว่างเยือนประเทศในแอฟริกา กล่าวย้ำมุมมองของแดนหมีขาวอีกในวันอังคาร (30) โดยระบุว่า การที่ฝ่ายตะวันตกหนุนหลังเคียฟ มีความหมายเท่ากับเป็นการสนับสนุนการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เนื่องจากยูเครนจะ “ทำลายสิ่งทุกทุกอย่างที่เป็นรัสเซีย” ในยูเครนตะวันออกและคาบสมุทรไครเมีย
(ที่มา: เอเอฟพี, รอยเตอร์, เอพี)